ผลไม้ที่อร่อยและมีประโชยน์ต่อร่างกายมีมากมายหลายชนิด แต่ถ้าหากนึกถึงผลไม้ที่กินง่ายอร่อยและได้ประโยชน์ต่อร่างกายคงไม่พ้น "กล้วย" ซึ่งวันนี้จะกล่าวถึงประโยชน์ของ "กล้วยน้ำว้า" ที่เป็นผลไม้ที่หากินได้ตามตลาดทั่วไปหรือบางท่านอาจจะปลูกทานเองก็ได้ง่ายๆ วันนี้เราจึงมีสาระความรู้ดีๆ มาบอกต่อ "กล้วยน้ำว้า" นั้นเป็นกล้วยสายพันธุ์ผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานีเป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย คนไทยนิยมรับประทานกล้วยน้ำว้าทั้งผล และหรือนำมาต้ม ปิ้ง ย่าง ทำให้สุกหอมหวานชวนน่ารับประทาน
"กล้วยน้ำว้า" ยังสามารถนำมาประกอบอาหาร ได้อีกหลากหลายเมนู เช่น กล้วยน้ำว้าสุก นำมาทำเป็นขนม กล้วยบวชชี, กล้วยเชื่อม กล้วยที่มีลักษณะสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ มีรสหวาน เหนียวนุ่ม นำมารับประทานเป็นผลไม้สด และนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กล้วยตาก หรือ ข้าวต้มมัด หรือข้าวเหนียวห่อกล้วย เป็นต้น
"กล้วยน้ำว้า" มีคุณค่าทางโภชนาการสูง "กล้วยน้ำว้า 1 ผลจะให้พลังงานแก่เราถึง 100 แคลอรี" และมีน้ำตาลธรรมชาติที่สำคัญอยู่ถึง 3 ชนิดได้แก่ กลูโคส, ซูโครส และฟรุคโทส และให้พลังงานแก่ร่างกายได้ดี มีคุณค่าทางสารอาหารวิตามินสูง กล้วยน้ำว้าสุกจะมีธาตุเหล็กในปริมาณที่สูง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง, ป้องกันโรคโลหิตจาง พร้อมมีแร่ธาตุแคลเซียม, ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยทำให้เหงือกแข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล กล้วยน้ำว้ายังมีเบต้าแคโรทีน ไนอาซีนและใยอาหารที่สูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น
หากเรารับประทานกล้วยน้ำว้าสุกเป็นประจำทุกวันจะช่วยในการระบายท้อง และสามารถรักษาโรครำมนาด เหงือกบวมได้ มาในส่วนของกล้วยน้ำว้าดิบ มีสารแทนนินและเพคติน ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมานแผล และรักษาอาการท้องเสียที่ไม่รุนแรงได้และกล้วยน้ำว้ายังมีผลในการรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการในสารอาหารของกล้วยน้ำว้า ประกอบด้วยน้ำ 75.7 กรัม, พลังงาน 85 แคลอรี่, โปรตีน 1.1 กรัม, ไขมัน 0.2 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 22.2 กรัม , เถ้า 0.8 กรัม, แคลเซียม (Ca) 8.0 กรัม, เหล็ก (Fe) 0.7 มิลลิกรัม, โพแทสเซียม (K) 370 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม (Mg) 33 มิลิกรัม , วิตามินเอ 190 IU, วิตามินซี 10 มิลลิกรัม , ไทอามีน (Thiamine) 0.05 มิลลิกรัม, ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) 0.06 มิลลิกรัม, ไนอาซีน (Niacin) 0.7 มิลลิกรัม และกล้วยน้ำว้ายังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน (บี 6) ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทานโรค และมีกากใยอาหารทำให้ขับถ่ายได้สะดวกดียิ่งขึ้น
ไขข้อสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่าทำไมคุณแม่ถึงต้องนำกล้วยน้ำว้ามาบดให้เรารับประทานตอนยังเล็กๆ อยู่ เพราะกล้วยน้ำว้ามีคุณค่าพิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น คือ มีโปรตีน, กรดอะมิโน, อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกแรกเกิด จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณแม่ถึงต้องนำกล้วยน้ำว้าบดให้เราทาน
"กล้วยน้ำว้า" เป็นผลไม้ที่มากด้วยคุณค่าและประเทศไทยได้รับความนิยมมากันตั้งแต่โบราณ ปลูกง่ายและกินง่าย ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านผู้ที่มีอายุที่ยืนยาว ส่วนใหญ่มักบอกว่า "กล้วยน้ำว้า" คือ "ยาอายุวัฒนะ" ที่ทำให้ผู้คนในสมัยก่อนมีอายุที่ยืนยาว แม้ในปัจจุบันกล้วยน้ำว้าก็ยังได้รับความนิยมมาก ราคาก็ไม่แพง หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดโดยทั่วไป ด้วยรสชาติ หวานอร่อย มีกลิ่นเฉพาะตัวและรับประทานได้ง่าย ทำให้หลายครัวเรือน มักจะมีกล้วยน้ำว้าสุกติดบ้านไว้เสมอ เวลาจะทานก็แสนง่ายแค่หยิบมาปอกเปลือกก็สามารถรับประทานกันได้ทันที
สำหรับ "กล้วยน้ำว้า" มีสรรพคุณมากมายที่เห็นอย่างชัดเจนมีอยู่ 15 อย่างด้วยกันคือ
1.ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้
2.ช่วยระงับกลิ่นปาก
3.ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ
4.มีแคลเซียมสูงและจะดูดซึมเร็วมากขึ้น
5.ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ
6.ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมอง
7.ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ
8.มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
9.ช่วยในการลดความอ้วน
10.ช่วยลดอาการเมาค้างได้
11.ช่วยรักษาอาการท้องผูก
12.ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่
13.ช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร
14.ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
15.ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับของการกินกล้วยน้ำว้า : รับประทานกล้วยน้ำว้า วันละ 4-6 ลูก แบ่งรับประทานกี่ครั้งก็ได้ ควรรับประทานกล้วยน้ำว้าก่อนแปรงฟันทุกเช้า ทุกวันจะทำให้ไม่มีกลิ่นปากและยังช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดี เห็นผลได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี