11 กันยายน 2563 นางสาวสายใจ ไชยชาย อายุ 36 ปี ชาว จ.สงขลา ได้เดินทางมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับเรื่องการถูก แม่ของสามียักยอกเงิน และรถยนต์ที่เป็นของสามี
นางสาวสายใจ กล่าวว่า สามีเป็นทหารบกประจำการกองพันทหารราบที่ 2 ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ อ.เมือง จ.สตูล เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 โดยตนเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย มีทะเบียนสมรสถูกต้อง และเป็นผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาล จ.สตูล หลังสามีเสียชีวิต ได้ยื่นเรื่องต่อต้นสังกัดของสามี เพื่อขอรับเงินสวัสดิการ ฌาปนกิจ และเงินช่วยเหลืออื่นๆ ตามสิทธิทางกฎหมายในฐานะภรรยา แต่รออยู่หลายเดือนไม่มีคำสั่งลงมา จึงได้เดินทางไปพบผู้บังคับบัญชาของสามี ที่ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2561 จึงทราบว่า แม่ของสามี ได้มาขอรับไปแล้วในบางส่วน โดยที่ตนเองไม่ได้รับรู้ และเงินส่วนหนึ่งเป็นสิทธิของตน ตนได้ติดต่อกับทางบ้านของสามี แต่ครอบครัวของสามีไม่ยอมรับผิดชอบ และนอกจากนั้นยังได้ยึดเอารถยนต์ของสามีของตนไปด้วย
นางสายใจ กล่าวอีกว่า ตนได้พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมและดำเนินการค้นหาพยานหลักฐาน จนทราบว่ามีเจ้าหน้าที่บางคนเกี่ยวข้องในการทำหลักฐานเท็จ มีการปลอมลายเซ็นของสามี เพื่อเบิกเงินทั้งหมดให้กับแม่ของสามี เมื่อตนพยายามเรียกร้องความเป็นธรรม โดยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ก็มีการขอให้ยุติเรื่อง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงพยายามหว่านล้อมไม่ให้เอาเรื่องอ้างว่า ทหารมีอำนาจ มีอิทธิพลตนสู้ไม่ได้ และนอกจากนั้น ยังมีทหารที่เกี่ยวข้องในเรื่อง ปลอมแปลงเอกสาร ยังได้ข่มขู่ว่า หากพวกเขาเดือดร้อนตนจะต้องเดือดร้อนด้วย และตนยังถูกครอบครัวของสามีข่มขู่มาโดยตลอด ซึ่งตนมี คลิปเสียงเป็นหลักฐาน จนต้องย้ายออกจากพื้นที่ จ.ตรัง ที่มีธุรกิจร่วมกับสามีก่อนเสียชีวิตมาอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 ตนได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับแม่สามี ในข้อหายักยอกทรัพย์ เป็นเงิน 1,009,286.8 บาท จนในที่สุดอัยการได้สั่งฟ้อง และล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ศาลได้นัดให้มีการไกล่เกลี่ย แต่ฝ่ายแม่สามีได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และมีการข่มขู่ที่จะเอาชีวิต
“ตนต้องต่อสู้เพื่อร้องเรียนความเป็นธรรม และสิทธิในเงินของสามีที่เป็นของตน และถูกยักยอกไป แต่ตนถูกข่มขู่ทั้งจากครอบครัวของสามี และจาก เจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งใน กองพันทหารราบที่ 2 ค่ายสมันตรัฐ ที่ จ.สตูล และจากมณทลทหารบกที่ 42 จึงได้ออกมาร้องเรียนสื่อ เพื่อให้มีการสอบสวนเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ในการทำเอกสารเท็จ ร่วมกันกับแม่ของสามีในการยักยอกทรัพย์ในครั้งนี้” นางสายใจ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี