หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้ ถูกเปรียบให้เป็นเสมือน“ดาบสองคม” ที่มีทั้งคุณและโทษ
“สารเคมี”ก็เป็นหนึ่งในนั้น การนำไปใช้งานในวิธีหรือรูปแบบต่างๆ ทำให้เกิดผลลัพธ์ออกมาได้ทั้งสองทาง
เมื่อพูดถึงสารเคมีแล้ว เราอาจรู้สึกเหมือนมีสิ่งที่น่ากลัวแฝงอยู่ แต่ความจริงแล้ว สารเคมีเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราอยู่ใกล้ชิดเราในชีวิตประจำวันในแบบที่เราอาจนึกไม่ถึง เป็นสิ่งจำเป็นที่มนุษย์จำเป็นต้องใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
คำถามที่ตามมาคือ สารเคมีเป็นคุณหรือเป็นโทษกับมนุษย์มากกว่ากัน
ประเด็นนี้มีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางในการเสวนาเรื่อง “เคมี พระเอก หรือ ผู้ร้าย” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค โดยผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาจากองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้มาร่วมให้ความเห็นและแสดงวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการเคมีที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ขอนำเอาสาระสำคัญบางช่วงบางตอนมาให้พิจารณากัน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเคมี เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมต้นน้ำของหลายอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
ที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก อาทิ ปิโตรเคมี พลาสติก ยา เกษตร อาหาร ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยในปี 2562 การส่งออกเคมีภัณฑ์ของไทยมีมูลค่ากว่า 1 แสน 2 พันล้านบาท สูงเป็นลำดับที่ 7 ของมูลค่าการส่งออกทั้งประเทศ และมีการนำเข้าเคมีภัณฑ์เพื่อนำมาใช้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับอุปโภค-บริโภคในประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 4 แสน 8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นลำดับที่ 4 ของสินค้าที่มีการนำเข้าของไทย
ดังนั้น สารเคมีจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวัน นับแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องปรุงอาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ในภาคเกษตรกรรมยังมีการนำไปใช้สำหรับการป้องกัน กำจัดศัตรูพืชและสัตว์อีกด้วย
ในทางกลับกัน หากใช้สารเคมีอย่างผิดวิธีก็อาจนำมาสู่ผลกระทบในแง่ลบต่อการดำรงชีวิตในหลายๆ ด้านเช่นกัน ดังนั้น การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและการบริหารจัดการสารเคมีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง
นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล ประธานกิตติมศักดิ์กรรมการคณะกรรมการกลุ่มอุตสาหกรรมเคมี กล่าวว่า สารเคมีเป็นเหรียญที่มีสองด้าน มีทั้งประโยชน์และโทษคู่กัน ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ อ่านฉลากก่อนใช้งาน รู้จักสัญลักษณ์สารเคมี และสวมถุงมือหรืออุปกรณ์ป้องกันก่อนใช้ การใช้ตามคำแนะนำและปริมาณที่กำหนด เพื่อให้ปลอดภัย และปราศจากสารตกค้าง ตลอดจนสารปนเปื้อนในอาหาร แล้วสังคมจะอยู่คู่กับเคมีได้อย่างปลอดภัย และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความเห็นและมุมมองของนักวิชาการในวันนี้ จะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจในบทบาทของสารเคมี ให้ความสำคัญกับการใช้งานและการบริหารจัดการเคมีและร่วมกันพัฒนา ต่อยอด ประสานการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีตามหลักสากล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าหลายคนมักจะมองว่า“สารเคมี” อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว ทุกสิ่งในโลกนี้นั้นล้วนเกิดมาจากองค์ประกอบทางเคมีทั้งสิ้น ร่างกายของเรา ประกอบด้วย สารเคมีหลายร้อยหลายพันชนิดสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำ คือ การพัฒนาวิธีการที่จะทำให้เกิดองค์ประกอบทางเคมีใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน โดยสารเคมีสามารถเป็นได้ทั้งพระเอกและผู้ร้าย ซึ่งสารเคมีจะอันตรายเพียงใดขึ้นอยู่กับระดับของความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับเข้าไป มีสารเคมีหลายชนิดที่ถ้าเราได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อย ก็เกิดอันตรายได้ เช่น ถ้าได้รับสารหนู เข้าไปเพียงแค่ 52 มิลลิกรัม ก็ถึงตายได้ ขณะเดียวกัน ถ้าดื่มน้ำเปล่าเข้าไป 6 ลิตร ภายใน 1 ชั่วโมง ก็มีสิทธิที่จะตายได้เช่นกัน ดังนั้น การใช้สารเคมีแต่ละชนิดจึงควรใช้เท่าที่จำเป็นและในปริมาณที่เหมาะสม
นายเฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮาซเคม โลจิสติกส์ แมเนจเมนท์ จำกัด ประธานกลุ่ม Responsible care ดูแลด้วยความรับผิดชอบ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเคมีเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ โดยในปี ค.ศ.2018 สร้างรายได้ทั่วโลกมากกว่า 3,347 พันล้านยูโร และในช่วง 10 ปีหลัง พบว่า ตลาดในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชียมีการเจริญเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ส่วนในประเทศไทยอุตสาหกรรมเคมี ถือเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับประเทศ การพัฒนาด้านศาสตร์ทางเคมีก่อให้เกิด นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีในด้านความเป็นอยู่ของประชากรโลกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ศ.ดร.ศุภวรรณ ตันตยานนท์ นายกสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความเห็นเรื่อง Green Chemistry หรือ เคมีกรีน ว่า เคมีกรีนไม่ได้แปลว่าจะไม่ใช้สารเคมีเลย แต่หมายถึงการทำให้ได้ผลิตภัณฑ์เคมีที่ต้องการโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งผู้ทำ ผู้ใช้ และสิ่งแวดล้อมเราก็ยังคงต้องใช้สารเคมีแต่ทำการออกแบบให้ลดความเป็นอันตรายลง เพราะรอบตัวของมนุษย์หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เราใช้คือสารเคมีทั้งสิ้น และสารเคมีทุกชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับว่าคุณสมบัติของสาร ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าใช้อย่างไรตลอดจนการจัดการ หากมีความเข้าใจ ทำได้ถูกต้องตามข้อควรระวัง ก็จะไม่เกิดอันตราย หลักการของเคมีกรีนนี้จะต้องทำให้สมดุลกันใน 3 เรื่อง คือ ความปลอดภัยค่าใช้จ่าย และผลผลิตที่ได้ตามความต้องการ เพื่อให้เกิดเป็นความยั่งยืนและจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทุกวันนี้ เมื่อพูดถึง “เคมี” มักจะถูกสังคมมองถึง ด้านลบ เพียงด้านเดียว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้ร้ายของสังคม และถูกมองว่าเป็นสิ่งอันตราย เป็นภัยต่อผู้ใช้โดยส่วนรวม แต่เราทุกคน ลืมไปหรือไม่ ว่า “เคมี”ก็เหมือนกับเหรียญสองด้าน มิได้ให้ผลต่อผู้ใช้เพียงด้านเดียว แต่ยังมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในทุกวันนี้ เพียงแต่เราต้องใช้อย่างถูกวิธี
ศ.นพ.วินัย วนานุกูล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และหัวหน้าศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดีให้ความเห็นว่า สิ่งที่แยกกันระหว่างสารเคมีที่อันตรายกับสารเคมีที่จะเป็นยา คือ ปริมาณ ที่ได้รับเข้าไปในร่างกาย สารเคมีไม่ได้เป็นผู้ร้ายหรือพระเอก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนที่นำไปใช้ที่สามารถใช้ได้อย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้านำไปใช้ในปริมาณที่ถูกต้อง สารเคมีจะกลายเป็นยา เป็นประโยชน์ให้กับผู้ป่วย แต่ถ้าใช้ในปริมาณหรือในทางที่ผิด สารเคมีก็จะกลายเป็นผู้ร้าย เป็นตัวอันตราย เพราะฉะนั้นจึงอยู่ที่เราเป็นคนบริหารจัดการ
บทสรุปของการเสวนาครั้งนี้คือ “สารเคมี”เป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ไม่มีสารเคมีใดไม่เป็นอันตราย แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ และการรู้จักใช้สารเคมีอย่างรับผิดชอบต่อสังคม
“สารเคมี” จึงเป็นได้ทั้ง “พระเอก” และ “ผู้ร้าย”ขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปใช้อย่างไรเท่านั้นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี