นับตั้งแต่ที่ “พระครูสุนทรศีลขันธ์” หรือ “หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร” เกจิดัง เมืองบั้งไฟ ละสังขาร อย่างสงบ เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ทำเอาพุทธศาสนิกชน ญาติโยม ศิษยานุศิษย์ ซึ่งเลื่อมใสศรัทธา ต่างพากันเศร้าโศกเสียใจ ในการจากไปของหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร อย่างไม่มีวันกลับ เป็นอย่างมาก และเดินทางไปกราบสรีระสังขาร จนแน่นวัดทุกวัน ก่อนจะถึงวันพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 9-10 มกราคม พ.ศ.2564 ที่วัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
พระยรรยงค์ สนุติกโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ดูแลใกล้ชิดหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร จนมรณภาพ กล่าวว่า วัดป่าสุนทราราม ตั้งอยู่บ้านกุดแห่ง ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ปัจจุบัน มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่จำนวน 14 รูป ไม่มีสามเณร ไม่มีแม่ชี สังกัด ธรรมยุติ และมีไวยากรณ์ประจำวัด จำนวน 15 คน
วัดป่าสุนทราราม มีเนื้อที่ จำนวน 170 ไร่ ประกอบด้วย กุฏิ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ ท่ามกลางป่าไม้นานาพันธุ์ สงบร่มรื่น เหมาะในการปฏิบัติธรรม วิปัสสนา และพุทธศาสนิกชน นิยมเข้ามานั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ฟังเทศนา เป็นประจำ
ที่โดดเด่นเป็นจุดสนใจแก่ผู้ที่เข้ามาในวัด คือ เจดีศรีสุนทรบวรมงคลกุศลไพบูลย์เพิ่มพูดบารมี ตั้งสูงเด่นเป็นสง่า ที่ความสูง 39 เมตร(เท่าตึก 13 ชั้น) ฐานกว้าง 26 เมตร แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1สถานที่ปฏิบัติธรรมของอุบาสก – อุบาสิกา ชั้นที่ 2.สถานที่ประดิษฐานรูปเหมือน พระครูสุนทรศีลขันธ์(หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร)และอัฐบริขาร ชั้นที่ 3. สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พระประธานและพระอรหันธาตุ และชั้นที่ 4. สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สำหรับ เจดีย์ศรีสุนทรบวรมงคลกุศลไพบูลย์เพิ่มพูนบารมี วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 เริ่มก่อสร้าง เดือนกรกฎาคม 2556 เสร็จสมบูรณ์ ต้นปี พ.ศ. 2560 งบประมาณค่าก่อสร้างเป็นเงิน 30 ล้านบาท วัตถุประสงค์ เพื่อบูชาพระรัตนตรัย บูชาวิสุทธิธรรม สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ให้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาและของแผ่นดินไทย และ เพื่อประโยชน์สุขแก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ตลอดกาลนาน
พระยรรยงค์ สนุติกโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม เล่าถึงประวัติหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโรว่า จากหนังสือ “ ร่มธรรม ร่มเย็น “ ระบุว่า หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร เดิมชื่อ สิงห์ทอง ประมูลอรรถ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2468 ที่บ้านกลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี มีพี่น้อง 3 คน และอุปสมบท เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2494 ณ.ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ วัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.อุบลราชธานี(เมื่อครั้งยังขึ้นกับ จ.อุบบราชธานี ยังไม่จัดตั้ง จ.ยโสธร) ได้จำพรรษาและปฏิบัติธรรม กับ พระอาจารย์ดี ฉนุโน ที่วัดป่าสุนทราราม และได้ปฏิบัติพระธรรมวินัย ตามแบบอย่างพระอาจารย์ใหญ่ดี โดยเคร่งครัด สายวิปัสสนากรรมฐาน พระธุดงค์สาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระอาจารย์ดี โดยมีความปรารถนา เพื่อพ้นทุกข์ในวัฎสงสาร
พระยรรยงค์ สนุติกโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ได้เดินธุดงค์ กรรมฐาน ไปหลายพื้นที่ เพื่อเผยแพร่ศาสนาสั่งสอนญาติโยมและโปรดสัตว์ ส่งผลให้ญาติโยม พุทธศาสนิกชน เกิดความเลื่อมใส่ศรัทธามาก ต่างก็เดินเดินทางเข้ามาวัดป่าสุนทรารามไม่ได้ขาด เพื่อฟังเทศนา ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการนำบุตรทารกน้อย เพื่อให้หวงปู่ตั้งชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิต อย่างต่อเนื่อง
เพราะสังขารไม่เที่ยง มีเกิดก็ต้องมีดับ เป็นอนิจจัง ไม่มีใครหนีพ้น หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ด้วยวัยชรา หลายโรครุมเร้า จึงเข้ารับการรักษาการอาการป่วย ที่โรงพยาบาลศรีนครินทรวิโรฒ จ.ขอนแก่น เป็นเวลา 1 ปี ไม่ได้กลับมาที่วัดเลย จนญาติโยม ศิษยานุศิษย์อดไม่ห่วง เกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น และก็เป็นจริงจนได้ เมื่อหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ละสังขาร เมื่อเวลา 18.38 น.ของวันที่ 3 กันยายน 2563 อายุ 95 ปี 8 เดือน 18 วัน บวช 70 พรรษา อย่างสงบ ที่โรงพยาบาลศรีนครินทรวิโรฒ จ.ขอนแก่น เมื่อญาติโยม พุทธศาสนิกชน ทราบข่าว ต่างเสียใจในการจากไปของหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร เป็นอย่างมาก
ต่อมา คณะศิษยานุศิษย์ ได้อัญเชิญสรีระสังขาร หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร กลับวัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสรธร ซึ่งสรีระหลวงปู่สิงห์ ปภากโร บรรจุอยู่ในโลงไม้สีทองแบบเรียบง่าย มีดอกไม้ประดับโดยรอบ ซึ่งตั้งอยู่ด้านซ้ายในศาลาการเปรียญ และห่างกันราวๆ 10 เมตร มีภาพถ่ายหลวงปู่ตั้งอยู่ที่วางไม้ยกสูงกว่า 1 เมตร กลางศาลา ท่ามกลางญาติโยม พุทธศาสนิกชน เดินทางเข้ามากรายไหว้อย่างต่อเนื่อง
พระยรรค์ยง สนุติกโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.63 ได้มีการประชุมคณะสงฆ์ เพื่อกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร โดยมี พระธรรมธิติญาณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 จ.ยโสธร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งที่ประชุมคณะสงฆ์ กำหนดให้วันที่ 9 – 10 มกราคม พ.ศ.2564 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ที่เมรุชั่วคราว วัดป่าสุนทราราม บ.กุดแห่ ต.กุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
ซึ่งพระครูสุนทรศีลขันธ์ หรือ หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ถือว่าเป็นพระเกจิดัง แห่งเมืองบั้งไฟ ยโสธร ที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เรียบง่าย สายวิปัสสนาธรรมฐาน พระธุดงค์ สายอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จึงมีลูกศิษย์ เลื่อมใส ศรัทธา เป็นจำนวนมาก และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ คณะศิษยานุศิษย์ จึงมีการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ในโอกาสต่างๆไว้หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่ 1 ทอดกฐิน ปี พ.ศ.2532 และมีพุทธคุณแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยมอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี