ภัยคุกคามที่กำลังถาโถมสู่มนุษยชาติ มีทั้งระดับจุลภาคและมหภาค ได้แก่การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระบบเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ระดับจุลภาคคือ การล่มสลายขององค์กรที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ทำให้ก้าวไม่ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปและไม่รู้ว่าจะวางตำแแหน่งแห่งหนใหม่(repositioning) ของตนอย่างไร
การวางตำแหน่งองค์กรใหม่คือการปรับจุดยืน ทิศทางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคมแบบใหม่เพื่อความอยู่รอด ขององค์กรเองจึงต้องปรับอย่างเป็นระบบทั้ง
โครงสร้าง (structure)
อำนาจหน้าที่ (function)
การยกเครื่อง (re-engineering)
การออกแบบสร้างใหม่ (reinventing)
พื้นฐานสำคัญของการขับเคลื่อนคือความสามารถในการฉายภาพอนาคต มองอนาคตทะลุเป็นฉากๆ (scenario) ผู้นำองค์กรจึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ชนิดมองทะลุกรอบโดยมีจินตนาการ(imagination)เป็นพาหะ(carrier)นอกเหนือจากความกล้าหาญที่จะต้องเผชิญกับความผิดพลาด จากการตัดสินใจเลือกเดินลงไปบนถนนสายใหม่ที่ท้าทาย
โดยลักษณะความเสี่ยงเช่นนี้จึงมักทำให้ผู้นำองค์กรไม่อยากนำพาองค์กรของตนออกจาก”เกราะคุ้มภัย”ที่แน่นหนาเหมือนกระดองเต่า แต่กระดองเต่าจะคุ้มภัยได้แน่นหนายาวนานจริงหรือ ?
หลายองค์กรที่ขาดผู้นำที่กล้าหาญต่อการเปลี่ยนแปลงก็ยังต้องเผชิญกับการบริหารงานแบบเต็มไปด้วยลำดับชั้น ภายใต้กฎระเบียบซับซ้อน จึงไม่อาจนำองค์กรไปสู่ถนนสายใหม่ได้ ไม่ว่าถนนไปสู่ภูเขาหรือทะเล แต่ต่างย่างก้าวไปบนถนนสายเดิมที่เคยเดินย่ำมา ตามกันมา เคยเดินทางไหนก็เดินทางนั้นตามรอยเท้าคนก่อนเก่า ยึดถือระเบียบตายตัว “แข็งกระด้างดังศิลา” (rigid) โดยมิต้องใช้ภูมิปัญญาใด แต่มุ่งที่จะสร้างเกราะคุ้มภัยด้วยกฎระเบียบ (laws and regulations) รูปแบบ (form) มากกว่าเนื้อหา (content) หลักบริหารที่ใช้คือ “การบริหารแบบไม่ต้องบริหาร” (management without managing)หรือการบริหารงานแบบ “แย้มยิ้มเข้าไว้” กลายเป็นองค์กรแช่แข็ง (freezing organization)
เทคโนโลยีที่เคยชินมีส่วนทำให้ผู้คนในองค์กรเกิดความเคยชินไม่ว่าในด้านการออกแบบ การผลิต การพัฒนา เคยทำกันมาอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้น ทำให้ครบถ้วนก็พอแล้ว ความเคยชินยังทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่เย็นชาแข็งกระด้าง (rigid) บางองค์กรเดินทางผ่านกาลเวลามาเป็นศตวรรษยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ผู้คนในองค์กรไม่คิดนอกกรอบ คงอยู่อย่างคุ้นเคยและรักษาสถานะเดิม (status quo) ไว้ให้ได้
เราจึงมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากแม้ว่าจะเป็นองค์กรที่จะต้องสนองตอบอย่างฉับไวต่อปัญหาความต้องการที่ซับซ้อนขึ้นในโลกปัจจุบัน กระแสการเรียกร้องธรรมาภิบาลจากรัฐทุกระดับเซ็งแซ่ขึ้นทุกหัวระแหงของโลก ไม่เว้นแม้แต่ในหมู่บ้านหลังภูเขาหรือเกาะกลางทะเลที่สัญญาณการสื่อสารไปไม่ถึง แต่การตื่นตัวภาครัฐทุกระดับก็ยังเฉื่อยชาอยู่ในระดับกระทรวง ทบวง กรม ภูมิภาคและท้องถิ่น
องค์กรที่เป็นต้นแบบอย่างการบริหารงานที่เป็นเลิศ ฉับไว ตื่นตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งคือกระทรวงสาธารณสุข มิฉะนั้นเราคงต้องประสบปัญหาการรับมือกับไวรัสโควิด-19 อย่างบางประเทศมหาอำนาจที่ล้มตายกันเป็นเบือยิ่งกว่าภาวะสงคราม ประเทศเล็กๆอย่างไทยกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางการแพทย์ไปแล้ว ได้ยังความตื่นตะลึงให้กับโลก
ทั้งโลก กระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นแม่แบบของการตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อม
เหตุสำคัญที่ทำให้เป็นองค์กรนำ มีสองประการคือ สามารถมองภาพอนาคต (scenario) ไกลเป็นร้อยปี และเป็นทั้งผู้ปฏิบัติจริงกับคนไข้และเป็นนักวิชาการที่ต้องติดตามพัฒนาการของโลกอยู่ตลอดเวลา แทบจะกล่าวได้ว่าหลักสูตรแพทย์ยาวนานกว่าสาขาอื่นหลายปี ถามว่าบุคลากรกระทรวงอื่นไม่เก่งกาจทัดเทียมแพทย์หรือไร มีแน่นอนแต่วิสัยทัศน์อาจแตกต่างกัน
เมื่อกล่าวถึงองค์กรที่ฝังตัวแนบแน่นกับ ประชาชนในตำบลหมู่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ได้รับการออกแบบ (design) มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ จนบัดนี้เป็นเวลา ๒๓ ปีมาแล้ว แต่มีการปฏิรูป ปรับปรุง ออกแบบใหม่ (redesign) ที่สำคัญมีเพียงไม่กี่ครั้ง ปัจจุบันจึงจำต้องออกแบบให้มีสมรรถนะมากขึ้นในการตอบสนองต่อปัญหา ความจำเป็นและเป็นจริงของชาวบ้านในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยึดหลักธรรมาภิบาล (good governance) การมีส่วนร่วมของชุมชน (people participation) อันเป็นประเด็นหลักการวิพากษ์ของสังคมปัจจุบันถึงเวลาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบจะต้องกำหนดแห่งหน (repositioning) ของตนใหม่ให้เหมาะสมกับบริบททางสังคมที่แปรเปลี่ยนไปทุกด้าน ถึงเวลาที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะผู้กำกับดูแล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องศึกษาออกแบบรูปแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใหม่ในลักษณะ “การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่” (reinventing local government) เลยทีเดียว
การออกแบบใหม่จำเป็นต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจัง จริงใจ และไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป
โลกหมุนเร็วขึ้น นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่สังคมอย่างซับซ้อน กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ออกแบบองค์กรนี้มาแต่ต้น บัดนี้เวลาล่วงเลยมาแล้วกว่าสองทศวรรษ
เจ้าภาพคนใหม่คือกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ถนนสายใหม่จะตัดไปสู่ภูเขาหรือทะเลก็สุดแต่บริบทสังคมและภาวะผู้นำของผู้นำองค์กรเอง
ภักดิ์ รตนผล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี