"เพราะคิดถึงจึงมาหา" หัวใจพาให้ออกเดินทางอีกครั้ง ทริปนี้แนวหน้าพาเที่ยวจะพาทุกคนไปตะลุยจังหวัดตาก อีกหนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่มีธรรมชาติสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงามไม่แพ้จังหวัดยอดนิยมอื่นๆ ไปดื่มด่ำธรรมชาติเอาใจสายกรีน พร้อมแวะกินของอร่อยชวนให้สายคาเฟ่อยากมาตามรอย เข้าร่วมกิจกรรมแสนสนุกที่หาทำที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ตากเท่านั้น ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวทริปนี้อยู่ภายใต้โครงการ "เหนือความคิดถึง" โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ลากกระเป๋าออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า นกแอร์พาเราข้ามฟ้าข้ามจังหวัดเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่าก็มาถึงจังหวัดตาก
เปิดทริปมาเราบุกป่าฝ่าถ้ำเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเลย เราอยู่กันที่ "ถ้ำสีฟ้า" ตั้งอยู่ที่สำนักสงฆ์พุทธคยาถ้ำสีฟ้า หมู่ 6 ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สอด 30 กิโลเมตร อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ที่อยากให้ทุกได้รู้จัก
ถ้ำแห่งนี้มีความโดดเด่นสวยงามอยู่ที่สีหินภายในถ้ำเป็นสีฟ้าสมกับชื่อของถ้ำ ลวดลายของหินมีสีขาวสลับเป็นแนวลายเส้นพลิ้วไหว โถงทางเดินที่ถูกกัดเซาะสวยงามราวกับตั้งใจจนกลายเป็นอุโมงค์ลักษณะคล้ายงวงช้างขนาดใหญ่ เส้นทางเดินง่าย ปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ข้อแนะนำคือควรพกไฟฉายมาด้วย เพื่อชมความงามของหินได้อย่างชัดเจน เนื่องจากภายในถ้ำมืดจะมีการติดไฟให้บางแห่งเท่านั้น
ต่อเนื่องความกรีนกันต่อกับ "น้ำตกป่าหวาย" ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านป่าหวาย ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีจำนวนชั้นมากกว่า 100 ชั้น สภาพป่าบริเวณน้ำตกที่มีความสมบูรณ์เขียวขจีโดยเฉพาะต้นหวาย โดยเราได้เดินลงไปตามเส้นทางก็จะพบกับความสวยงามของน้ำตกหินปูนสีส้มชั้นเล็กๆ ลดหลั่นกันไป ได้สัมผัสน้ำเย็นชื่นใจจากธรรมชาติ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีเลยทีเดียว
จากนั้นเรามาลุยกับสารพัดกิจกรรมแสนสนุกที่ "บ้านเพราะช้าง" เราได้ทักทายกับเหล่าพี่ช้างตัวโตแสนน่ารัก ก่อนไปลองทำของโปรดของพี่ช้างทั้งหลาย นั่นก็คือวิตามินช้าง ซึ่งประกอบด้วย ข้าวเปลือก มะขาม กล้วย เกลือ ต้นตูมกา ต้นส้าน นำมาตำรวมกันแล้วปั้นเป็นก้อนพอดีคำ มีสรรพคุณดีต่อร่างกายเพราะช่วยให้ช้างเจริญอาหาร เป็นยาระบายอ่อนๆ สูตรนี้มาจากบรรพบุรุษชนเผ่าปกากะญอที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น สำหรับปริมาณช้างตัวใหญ่ให้กินวันละ 3 ลูก ส่วนช้างเด็กตัวเล็กได้กินวันละ 1 ลูก
ป้อนวิตามินเสร็จก็ได้เวลาพาพี่ช้างไปเล่นน้ำกันที่น้ำตกเล็กๆ ด้านหลังบ้านเพราะช้าง เดินไปก็ได้ชมวิวทุ่งนาสวยชวนผ่อนคลาย ใครไม่สะดวกเดินก็นั่งรถอีแต๊กไปก็ได้ หรือใครอยากลองขี่พี่ช้างก็มีควาญคอยช่วยดูแลพาเดินไปเล่นน้ำที่ลำธารด้วยกัน โดยกิจกรรมนี้ดูจะถูกใจพี่ช้างกันใหญ่ ทุกเชือกต่างแสดงท่าทางผ่อนคลาย เอนตัวเล่นน้ำให้ควาญถูตัวกันอย่างสนุกสนาน
เห็นความน่ารักและความฉลาดแสนรู้แบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าที่นี่เขาฝึกช้างกันอย่างไร สอบถามจึงได้ความว่า ผู้ดูแลช้างทุกเชือกของที่นี่จะเลี้ยงช้างด้วยความรัก เลี้ยงเหมือนลูก เวลาฝึกจะให้กล้วยเป็นรางวัล หากดื้อจะมีการตีเตือนเล็กน้อยไม่ได้ใช้ตะขอช้างแต่อย่างใด ซึ่งผู้เขียนก็ได้สังเกตบริเวณหัวและใบหูของช้างมาแล้วทุกเชือกก็ไม่พบรอยตะขออย่างที่บอกจริงๆ
เล่นกับเหล่าพี่ช้างจนเพลิดเพลินก็ได้เวลาให้พี่ช้างไปพักผ่อน ส่วนเราชาวคณะก็มาชมการทำ "ขนมโก้คลิ" ขนมที่ทำกินในงานมงคลของชนเผ่าปกากะญอ วิธีทำเริ่มแรกด้วยการนำกระทะมาตั้งบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนๆ พอกระทะเริ่มร้อนก็นำแป้งข้าวเหนียวผสมมะพร้าวโรยเป็นแผ่นกลมบาง ทิ้งให้แป้งจับตัวประมาณ 1 นาที ก็สามารถร่อนแป้ง นำไปสู่ขั้นตอนต่อไป จากนั้นนำไส้มะพร้าวที่ผัดกับน้ำตาลจนได้ที่ มาใส่ในแผ่นแป้งแล้วม้วนคล้ายสายไหมเป็นอันเสร็จสิ้น สำหรับรสชาตินั้นมีความคล้ายคลึงขนมต้มของไทย อร่อยถูกปากเลยทีเดียว
นอกจากกิจกรรมที่กล่าวไปข้างต้น ที่นี่ยังมีบริการโฮมสเตย์ให้บริการอีกด้วย เหมาะกับสายแคมปิ้งที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ใช้เวลาตั้งแต่ตื่นลืมตามาชมแสงเช้า ทำกิจกรรมที่คุณเลือกสรรระหว่างวัน จนกระทั่งชมแสงอาทิตย์ตกกระทบใบข้าวในทุ่งนาตอนเย็น
สำรวจธรรมชาติกันมาทั้งวัน เราหันมาสำรวจความอร่อยของเครื่องดื่มและเบเกอรี่กันที่ "Rocha Cafe (โรชาคาเฟ่)" คาเฟ่ขนาดใหญ่สไตล์โรงนา สวยสะดุดใจตั้งแต่การตกแต่งร้านด้านนอกที่มีไม้เรื้อยปกคลุมทั่วทั้งโรงนา
เมื่อเข้าไปด้านในพบการตกแต่งแบบลอฟท์ ผสมผสานด้วยพรรณไม้ต่างๆ ให้โทนสีเขียว-ไม้-หินลงตัวเป็นธรรมชาติ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยปัง ขณะที่เมนูอาหารเครื่องก็มีให้เลือกหลากหลาย คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอแม่สอด วิธีการเดินทางมาทางอำเภอพบพระอุ้มผาง ตามหลักกิโลเมตรที่ 34 เข้าซอยมาประมาณ 800 เมตร ร้านตั้งอยู่บนเนินเขาด้านขาวมือ
ปลุกร่างกายให้พร้อมลุยกับตารางเที่ยวในวันที่ 2 เช้านี้เราจะเข้าใกล้ธรรมชาติกันมากกว่าเดิมกับการล่องแก่งแม่ละเมา ตั้งอยู่ที่ ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก สำหรับแก่งแห่งนี้มีความยาวประมาน 8-9 กิโลเมตร ความแรงของน้ำอยู่ในระดับ 1-2 นั่นก็คือน้ำไม่แรงมาก ไม่อันตราย สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสกับหมู่มวลแมกไม้ เทือกเขาสูงตระหง่าน ได้ดูคุณลุงมือพายลากอวนจับปลา เก็บผักกูดริมตลิ่ง เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบมาทำอาหารกลางวันให้เราได้กินกันหลังล่องแก่งเสร็จ
ซึ่งเสน่ห์ของมื้อนี้คือ การหุงข้าวจากกระบอกไม้ไผ่ ย่างหมูบนไม้ไผ่สาน ปิ้งปลาจากกองไฟ แกงผักกูดในกระบอกไม้ไผ่ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปเดินป่ากันจริงๆ โดยเชฟของมื้อนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลคือเหล่ามือพายที่พาเราล่องแก่งมานั่นเอง ช่วยกันคนละไม้คนละมือใช้เวลาไม่นานก็ได้อาหารหน้าตาน่ากินมาวางตรงหน้า ด้วยความเหนื่อยและความหิว ทุกคนไม่รอช้าลงมือกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ลิ้มรสข้าวหุงสุกพอดีมีกลิ่นหอมจากกระบอกไม้ไผ่ แกงผักกูดรสชาติจัดจ้าน หมูย่างสุกกำลังดีมีกลิ่นหอมควันไฟ ปลาปิ้งจิ้มเกลือตัดคาวและช่วยเสริมรสชาติของปลา มื้อนี้พูดได้เต็มปากว่าอร่อยเด็ดทุกเมนู
เข้าที่พักมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ออกเดินทางไปเติมความสนุกให้กับร่างกายและหัวใจกันที่ "มะลิวานคาเฟ่" คาเฟ่แนวใหม่เอาใจสายแดนซ์ เพราะที่นี่ตกแต่งร้านเสมือนเป็นผับอีกแห่งหนึ่งทั้งเสียงเพลงแนว EDM ไฟเลเซอร์ที่จัดหนักจัดเต็มกระหึ่มร้าน ต่างเพียงแค่เมนูที่เสิร์ฟให้กับลูกค้าจะเป็นเครื่องดื่มชา กาแฟ ขนมเค้กรสชาติต่างๆ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่กินเค้กไปก็อดโยกตัวตามเพลงบีทหนักจังหวะสนุกนี้ไม่ได้ เจ้าของร้านเขาออกตัวว่าคาเฟ่ผับแห่งนี้เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ใครที่เบื่อคาเฟ่แนวเดิมๆ ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าลอง
มาเที่ยวต่างจังหวัดหนึ่งสิ่งขาดไม่ได้เลยก็คือ วัดวาอาราม ที่พึ่งทางจากของคนในพื้นที่ โดยเรามาทำบุญกันที่ "วัดไทยวัฒนาราม" ตั้งอยู่เลขที่ 160 บ้านแม่ตาวเมย หมู่ 1 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เดิมชื่อวัดแม่ตาวเงี้ยว หรือ วัดไทยใหญ่ เป็นวัดไทยศิลปะเมียนมาที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาภายในวัดก็สะดุดตากับการตกแต่งที่วิจิตรตระการตาอร่ามไปด้วยสีทองทั้งโบสถ์ เจดีย์ รูปปั้นสิงห์ รูปปั้นหงส์คู่
เดินชมความงามเข้าไปด้านในจะพบกับโบสถ์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธมหามุณี พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่ององค์ใหญ่ จำลองมาจากพระพุทธมหามุณีองค์จริงจากเมืองมัณฑเลย์ ประเทศเมียนมา โดยรอบผนังประดับด้วยกระเบื้องกระจกสะท้อนแสงไฟระยิบระยับสวยงาม
เมื่อเดินไปด้านหลังของวัดจะพบกับพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ ความยาวประมาณ 40 เมตร ให้นักท่องเที่ยวได้มาสักการะกัน เป็นการปิดท้ายการท่องเที่ยววันที่สองอิ่มบุญกันถ้วนหน้า
เข้าสู่วันสุดท้ายของทริปแห่งความคิดถึงนี้ ในวันนี้เราจะเน้นไปที่กิจกรรมสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจกัน สถานที่เราไปเยือน "อโรคยาศาล โป่งคำราม" ตั้งอยู่ที่ 358 หมู่ 6 บ้านน้ำดิบ ตำบลแม่กาษา จังหวัดตาก ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของสายสุขภาพ เปิดให้บริการแช่ออนเซ็นจากน้ำแร่ร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ปราศจากกรดและกลิ่นกำมะถัน โดยจากการวิจัยยังพบว่าเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพ มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยบำบัดรักษาโรคผิวหนังได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของการออนเซ็นโป่งคำราม คือการนั่งแช่น้ำร้อนสุดชิลในถังไม้โอ๊คแบบญี่ปุ่นโดยมีธรรมชาติรายล้อม สะอาดสะอ้าน มีบริการผ้าถุง ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างดี สำหรับโซนแช่น้ำร้อนนั้นจะแบ่งเป็นชาย-หญิงอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถนอนแช่ได้อย่างสบายใจตามต้องการ แต่มีข้อแนะนำคือควรแช่ในเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 20 นาที สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไม่ควรแช่นานเกิน 10 นาที และหลังจากแช่เสร็จอย่าลืมอาบน้ำเย็นกระชับรูขุมขน เพื่อให้การแช่น้ำร้อนส่งผลดีกับร่างกายในทุกๆ ส่วน
ที่สำคัญคือออนเซ็นแห่งนี้ให้บริการฟรี เป็นไปตามผู้ก่อตั้งที่ตั้งใจสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่รัชกาลที่ 9 โดยผู้ใช้บริการสามารถบริจาคเงินเพื่อบำรุงสถานที่แล้วแต่กำลังศรัทธา
นอกจากการแช่ออนเซ็นแล้ว ที่นี่ยังมีบริการเพิ่มความผ่อนคลายให้กับร่างกายอื่นๆ อีก อาทิ นวดไทย สปาขัดผิว และคาเฟ่สุดชิลที่ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มเครื่องดื่มพร้อมแช่น้ำร้อนที่เท้ากันไป ชมวิวทุ่งนาสวยสบายตาสบายใจ
ปิดท้ายทริปนี้กันที่้ "ร้านธูปหอมอัมพัน" ตั้งอยู่ที่ 82 หมู่ 3 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จังหวัดตาก ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ธูปหอมไล่ยุง ถ่านดูดกลิ่น สินค้าอโรม่าให้ความหอมแบบไทยๆ ผลิตจากวัตถุดิบภายในชุมชนแต่ดีไซน์ระดับสากล ซึ่งที่นี่นอกจากผลิตและจำหน่ายแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเวิร์คช็อปทำธูปกำยานกันอีกด้วย
โดยธูปกำยานของแบนรด์อัมพัน ประกอบด้วยส่วนผสมจากผงไม้จันหอม ผงถ่านเมล็ดปาล์มที่ผ่านการเผาในอุณภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส ซึ่งจะช่วยลดควัน ให้เหลือเพียงควันที่เกิดจากตัวสมุนไพรเท่านั้น
ไม่รอช้าพวกเราจับจองที่นั่งลงตรงหน้าอุปกรณ์ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ ก่อนลงมือทำตามผู้สอนทีละขั้นตอน ตั้งแต่การผสมส่วนประกอบให้เข้ากัน เติมน้ำสกัดมะกรูดเพื่อให้ธูปจับตัวเป็นก้อน เมื่อนวดได้ที่แล้วจะนำมาปั้นใส่แม่พิมพ์ลวดลายน่ารักต่างๆ แล้วนำไปตากแห้งเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอน ได้ลงมือทำกันไปแล้ว รู้ว่าคุณภาพดีเกรดส่งออกแบบนี้เราไม่ลืมที่จะแวะซื้อของฝากสุดเก๋กลับไปกันด้วย
ทริปเหนือความคิดถึงตะลุยจังหวัดตากได้จบลงอย่างประทับใจ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่ามาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า ทริปหน้า "แนวหน้าพาเที่ยว" จะพาคุณผู้อ่านไปตะลุยภาคไหนจังหวัดใดอย่าลืมติดตามกัน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี