เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.ย.63 นายสราวุฒิ บุญสร้าง หัวหน้ากู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบางคล้าได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้ช่วยจับจระเข้ภายในสวนพื้นที่ ม.1 ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังอาสาสมัครพร้อมด้วย อวน แห และอุปกรณ์อื่นที่ใช้ในการจับจระเข้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอาสากู้ภัยได้มาดูพื้นที่ก่อนที่จะมีการวางแผนเพื่อที่จะจับให้ได้และไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ ขึ้น 

ทางอาสากู้ภัย จุดบางคล้ากว่า 10 นาย พร้อมอุปกรณ์เข้าไปในท้องร่องสวนมะพร้าวน้ำหอม และได้ทำตามแผนโดยการเฝ้าสังเกตอยู่ห่างๆ ก่อนที่จะพบตัวจระเข้ที่นอนตากแดดอยู่บนขอบบ่อใต้ต้นมะพร้าวก่อนที่จะมุดลงไปในบ่อน้ำชึ่งมีความกว้างประมาณ 15x30 เมตร ลึกประมาณ1.20-1.50 เมตร ในบ่อมีแหนและกิ่งไม้เต็มไปหมด จากนั้น อาสากู้ภัยได้ใช้อวนตาห่างลงลากในพื้นที่บ่อซึ่งค่อนข้างยากลำบากเพราะกิ่งไม้กับแหนที่ลอยอยู่เต็มบ่อ บวกกับต้องระวังอันตรายระหว่างลาก เพราะเกรงว่าจระเข้อาจจะทำอันตรายได้ จากนั้นอาสาได้ลากอวนควบคุมพื้นที่จนหมดและได้ลากขึ้นมาจนพบตัวจระเข้ติดขึ้นปนมากับแหน ซึ่งอาสากู้ภัยได้ใช้ความระมัดระวังและจับเอาไว้ได้ ซึ่งจระเข้ตัวที่จับได้มีความยาวประมาณ 1.20 เมตร น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม มีอายุประมาณปีเศษ

จากการเปิดเผยของนายมาโนช แก้ววงษ์นุกูล อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของสวนมะพร้าว เล่าว่า ตนและเพื่อนบ้านเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวมานานหลายเดือนแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ซึ่งทีแรกก็นึกว่าเป็นตัวเงินตัวทองจนกระทั่งเพื่อนบ้านที่ผ่านไปมาเห็นและถ่ายรูปมาให้ดู บวกกับเคยเห็นมันขึ้นมาตากแดด ซึ่งพยายามที่จะจับ แต่ก็จับไม่ได้จึงได้ตัดสินใจประสานกู้ภัยมาจับ เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นในวันข้างหน้า

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบางคล้าได้ประสานนายคนึง คมขำ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา มารับตัวจระเข้เพื่อที่จะนำส่งมอบให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เขต 2 นครสวรรค์ เพื่อดูแลตามระเบียบกรมประมงว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่ตกเป็นของแผ่นดิน พ.ศ. 2541 ต่อไป