หลายคนคงมีความฝันที่แตกต่างกันออกไปบางคนพยายามไปให้ถึงฝันโดยไม่ต้องสร้างอะไรมากแต่กับบางคนที่เกิดมาต้นทุนน้อยมากกว่าคนอื่นอาจจะต้องเหนื่อยและดิ้นรนเพื่อทำตามความฝันให้สำเร็จ วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้มีโอกาสไปพูดคุย ผ่าน “บอย นายกิตติ ประทาน” อายุ22ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย คณะคุรุศาสตร์ภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม กับประเด็น “ความฝันที่เริ่มจากศูนย์” เดินตามความฝันเพื่ออนาคตและไม่ทิ้งสิ่งที่ตัวเองรัก
บอย กิตติ ได้เผยว่า ทุกจุดสำคัญในชีวิตที่ทำให้ตนมีวันนี้ได้นั้นเกิดมาจากความตั้งใจ ความอดทนและเพียรพยายามที่มีครอบครัวเป็นแรงบรรดาลใจ ด้านตนนั้นเกิดมาในครอบครัวที่เป็นอาชีพเกษตรกรรายได้เฉลี่ยก็ไม่มากนัก ตนนั้นเคยตัดสินใจที่จะไม่ศึกษาต่อเนื่องจากตนมีน้องชายซึ่งตนนั้นกลัวครอบครัวต้องแบกภาระเยอะเพราะด้านครอบครัวต้องส่งตนศึกษาควบคู่ไปกับน้องชายตนด้วย แต่พอตนได้คิดทบทวนดีๆ การศึกษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ช่วงปิดเทอมตนจึงได้ หารับจ้างทำงาน เช่น ทำบายศรี ผูกผ้า จัดดอกไม้ แต่งหน้า และอื่นๆ ก่อนที่จะเข้ามหาลัยตนจึงมีเงินเก็บอยู่บ้าง ตนจึงอยากพยายามแบ่งเบาภาระครอบครัวให้ได้มากที่สุด
บอย เผยอีกว่า จุดเริ่มต้นที่เลือกเข้าศึกษาต่อคณะคุรุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทยนั้น เนื่องจากตนยังไม่รู้เลยว่าจะศึกษาต่อคณะอะไร พอขึ้นมาตอนม.4 ก็เริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าตนชอบสายครู หลังจากนั้นก็มีความตั้งใจมากขึ้น ศึกษาต่ออีกว่าตนเหมาะกับสายวิชาไหน ตนเองเหมาะกับบุคลิกภาพครูวิชาอะไร พอขึ้นม.5 ตนเริ่มรู้ว่าตนเหมาะกับคุณครูภาษาไทย ตนจึงฟันธงเลยว่าตนนั้นจะเข้ามาศึกษาต่อคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย ให้ได้
บอย ได้เผยว่า การที่เราเกิดมามีต้นทุนชีวิตน้อยกว่าคนอื่นนั้นตอนแรกอาจจะน้อยใจบ้าง แต่จะมาน้อยใจนานไม่ได้ ชีวิตเราต้องสู้และเดินหน้าต่อไปไม่ว่าเราจะเกิดมามีต้นทุนน้อยขนาดไหนเราต้องพยายามดิ้นรนหาสิ่งต่างๆที่ดีที่สุดเข้ามาในชีวิตเพื่อพลักดันชีวิตของตนและครอบครัวเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งได้พิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นด้วยว่า เมื่อเราเลือกทางเดินเองเรายังสามารถส่งตัวเองเรียนได้ด้วยซึ่งมาถึงจุดนี้นับว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ภาคภูมิใจในตัวเองมาก
ตนนั้นชอบงานศิลปะมาก การแต่งหน้าก็เหมือนศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่ทำให้ตนได้วาดเส้น ได้คิดรูปแบบใหม่ๆที่แตกต่าง เพื่อสร้างงานศิลปะที่มีความแฟนตาซี ความตั้งใจในการสร้างผลงาน ความคิดสร้างสรรค์ การแต่งหน้าจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตนรักมากและไม่มีวันทิ้งสิ่งที่ตนรักแน่นอน หากมีคนมาดูถูกสิ่งที่ตนรักตนเผยว่า ตนจะไม่คิดอะไรจะ ตนจะทำสิ่งที่ตนทำอยู่ให้ดีที่สุดให้คนอื่นได้เห็นคุณค่าเห็นศักยภาพในงานของตนเพราะตนเชื่อเราเราทุกคนมักมีสิ่งที่ตัวเองรัก “หากวันใดคนที่ดูถูกเราได้มาอยู่ในจุดเดียวกับเราเขาก็จะรู้เองว่าเรารู้สึกอย่างไร และมีวิธีการรับมืออย่างไร”
ด้านครอบครัวตนไม่ยอมรับเลยในช่วงแรก อย่างที่บอกไปข้างต้นตนได้พยายามพิสูจน์ตัวเองมาเรื่อยๆ ตนพยามยามทำสิ่งต่างๆที่ไม่ให้ครอบครัวเดือดร้อน หาเลี้ยงตัวเอง แบ่งเบาภาระครอบครัว ซึ่งที่ผ่านมาจึงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าครอบครัวมีการเปิดรับและเข้าใจตนมากขึ้นและโอเคกับสิ่งที่ตนเป็นแล้ว ด้านครอบครัวคอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจในที่สุด “ความพยายามทำให้เราเก่งขึ้นจริงแต่การฝึกฝนและการคว้าโอกาสนั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆในการพัฒนาตนเองเราอาจจะไม่ได้เก่งที่สุดแต่เรามีทักษะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”
“เริ่มต้นเราตั้งเป้าหมายในชีวิตก่อนว่าตัวเราเองอยากทำอะไร แล้วค่อยๆลงมือทำ ถึงแม้วันนี้เราอาจจะยังทำได้ไม่เต็มที่แต่ว่าถ้าเราค่อยๆทำไปเรื่อยๆผลสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ วันนี้คนรอบข้างเราอาจจะยังไม่เห็นคุณค่าของเราแต่ถ้าวันหนึ่งเราพยายามพิสูจน์ตัวเองทำให้สิ่งที่เราทำอยู่ประสบความสำเร็จขึ้นมาแน่นอนว่าคนรอบข้างของเราก็จะยินดีและเข้าใจเรายอมรับเราได้แน่นอนครับ” กิตติ ประทาน กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี