ลมหนาวที่เริ่มพัดมาให้ได้สดชื่นกันในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ช่างเป็นความสวยงามแห่งรอยต่อฤดูกาล เหมาะแก่การออกไปสัมผัสธรรมชาติและเที่ยววิถีชุมชนแบบไทยๆ ทริปนี้แนวหน้าพาเที่ยวจะพาทุกคนไปตะลุยแหล่งผ้าโบราณ ปั่นจักรยานชมเมืองเก่า ลุยกินของอร่อยกันที่จังหวัดสุโขทัย เมืองแสนสงบที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายและเต็มไปด้วยมนเสน่ห์ ภายใต้โครงการ มรรคาแห่งผ้า อดีตที่ล่วงมาสู่แรงบรรดาใจของเรา โดยทริปนี้ จัดขึ้นเพื่อทดสอบเส้นทางท่องเที่ยว สนับสนุนโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
สถานที่แรกที่เราจะไปในช่วงเวลาตอนเที่ยงหลังจากมาถึงสุโทัย จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากจะพาทุกคนมาแวะกินของอร่อยขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัยกันที่ร้านไม้กลางกรุง ร้านอาหารบรรยากาศดีตกแต่งแบบไทยโบราณ ราสชาติอร่อยแบบต้นตำหรับ เมนูแรก ออเดิฟเป็นอาหารทานเล่นของทางร้าน เป็นข้าวเกรียบปากหม้อ เสิร์ฟแบบโบราณโดยราดหน้าด้วยน้ำกะทิสดและโรยงาตาม และเมนูเด็ดที่ใครมาถึงสุโขทัยห้ามพลาดนั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย สูตรต้นตำรับ นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเดียวซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อหลายอย่าง ข้าวคลุกกะปิ ผัดไทยกรอบ ข้าวผัดปลาทู และปิดท้ายด้วยของหวานอย่างลอดช่อง และทับทิมกรอบ ล้างปากก่อนจะแวะเข้าไปดูภายในห้องที่มีผ้าตีนจกให้ได้เลือกชมเลือกซื้อก่อนจะไปสถานที่ต่อไป
อิ่มท้องกันแล้วก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคําแหง สุโขทัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหงเป็นเก็บที่รวบรวม และจัดแสดงศิลปโบราณที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีภายในเมืองสุโขทัย และที่ประชาชนมอบให้บริเวณพิพิธภัณฑ์แบ่งส่วนการแสดงโบราณวัตถุไว้เป็น 3 ส่วนคือ จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยสุโขทัย อาทิ พระพุทธรูป ศิลาจารึก เครื่องใช้ ถ้วยชาม เครื่องสังคโลกอีกมากมาย พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยเป็นงานสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น สะท้อนความงามตามอุดมคติแห่งความสงบเรียบง่ายโดยมีพื้นฐานแนวคิดจากพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท เราจะเห็นได้ว่าตามพระพุทธรูปหรือการแกะสลักต่างๆลงบนเทวรูปนั้น ถ้าสังเกตดีแล้วล่ะก็จะเห็นลวดลายของผ้าไทยปรากฏอยู่ตามเครื่องนุ่งห่ม ถึงจะไม่มีหลักฐานหรือผ้าไทยเป็นตัวอย่างให้ได้ชมเนื่องจากการสลายไปตามธรรมชาติ แต่ก็สันนิษฐานได้ว่าเกิดจากการเอาลวดลายบนผ้าจริงๆมาสลักลงบนเทวรูปแกะสลักต่างๆ ทำให้เราได้จินตนาการถึงความงามของเครื่องแต่งกาย และได้เห็นรวดลายที่แตกต่างกันไประหว่างการแต่งกายของแต่ละชนชั้นนั้นสวยงามแตกต่างกันอย่างไร
อากาศสบายๆยามบ่ายแบบนี้ จะทำกิจกรรมอื่นเป็นไม่ได้นอกจากการจิบน้ำชายามบ่ายนั่งกินลมชมทุ่งนาแบบชิวๆกันที่ บ้านมะขวิด เป็นร้านกาแฟโบราณและเป็นโฮมสเตย์เล็กๆอบอุ่นสไตล์ไทยๆ นั่งจิบกาแฟและชมทิวทุ่งนา
นอกจากนี้ มานพ ยังประเสริฐ เจ้าของบ้านมะขวิด เล่าให้ฟังว่า ตนได้แรงบันดาลใจมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงสอนเรื่องความพอเพียง การทำเกษตรผสมผสาน และตนเห็นว่าการทำเกษตรผสมผสานน่าจะนำมาใช้ทำเกี่ยวกับธุรกิจได้ จึงมีแนวคิดที่เปิดบ้านเป็นการผสมผสาน นอกจากนี้แหล่งรวมผ้าโบราณผ้าตีนจก และยังเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่อง ย่าม หรือ ถุงย่าม ที่น่าจะเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยอีกด้วย คุณมานพ เล่าว่านอกจากจะสะสมย่ามแล้ว ยังได้ศึกษาวัฒนธรรมความเป็นมาของย่ามแต่ละใบ แต่ละท้องถิ่นไปด้วย ซึ่งแต่ละใบจะมีเรื่องราว-เรื่องเล่า บางใบมีอายุเกือบ 200 ปี บางใบก็มีใบเดียวในโลกและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เช่น ย่ามยกไหมทอง ที่ทอยกด้วยไหมทองจากอินเดีย บ้านมะขวิดจึงเป็นอีกสถานที่ ที่ยังรักษาซึ่งเอกลักษณ์ของจังหวัดไว้ได้อีกด้วย
แสงสีส้มของตะวันที่เริ่มคล้อยลงมาเรื่อยๆ ก่อนที่พระอาทิตย์จะตก เราจะมาปั่นจักรยานกินลมชมเมืองเก่ากันที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ทางเข้าอุทยานจะมีจักรยานให้เช่าปั่น ก่อนจะไปปั่นจักรยานทาง อพท.ได้มีกิจกรรมสนุกๆให้ได้ร่วมสนุกกันด้วยนั่นก็คือ Cut Out Sketch คือการเข้าภาพหุ่นตุ๊กตามาแล้วตัดส่วนเสื้อผ้าออก แล้วนำมาถ่ายภาพคู่กับสิ่งต่างให้ออกมาเป็นลวดลายของเสื้อผ้า
เมื่อปั่นเข้าไปเราจะพบกับวัดมหาธาตุ เป็นวัดใหญ่อยู่กลางเมือง มีพระเจดีย์ต่างๆ รวมถึง 200 องค์ นับเป็นวัดสำคัญประจำกรุงสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุ ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์แบบศรีวิชัยผสมลังกาก่อด้วยอิฐอยู่ที่มุม ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาด ใหญ่ก่อ ด้วยศิลาแลงมีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบัน ได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ ที่ด้านเหนือและด้าน ไต้เจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า "พระอัฎฐารศ" ด้านใต้ยังพบแท่งหินเรียกว่า "ขอมดำดิน" อีกด้วย อุทยานแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากรด้วยความช่วยเหลือจากองค์การยูเนสโก มีผู้เยี่ยมชมหลายพันคนต่อปี ซึ่งสามารถเดินเท้าหรือขี่จักรยานเที่ยวชมได้ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกแหล่งมรดกโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ที่กำแพงเพชรและศรีสัชนาลัยภายใต้ชื่อว่า เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร
หลังจากปั่นจักรยานดูพระอาทิตย์ตกและเที่ยวชมเมืองเก่า จนเหนื่อยแล้วเราจะมาฝากท้องกันที่ ร้านสินวนา ร้านอาหารบรรยากาศดีอาหารอร่อย ก่อนที่จะพาทุกคนมามาเอนกายพักผ่อนในคืนนี้ legendha sukhothai resort เป็นรีสอร์ทที่โดดเด่นด้วยความงามของบ้านทรงไทยเเต่เเฝงไปด้วยความสะดวกสบาย เลเจนด้า สุโขทัย รีสอร์ทโดดเด่นด้วยการนำเสนอรีสอร์ทสไตล์บูติคที่เน้นความเป็นหมู่บ้านไทยร่วมสมัย มีเรือนไทยไม้สักไว้รับรอง เพิ่มเติมสีสันเเละความมีชีวิตชีวา ด้วยเครื่องประดับพื้นบ้านอันหลากหลายเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศให้เป็นเสมือนหมู่บ้านเรือนไทยที่จัดไว้รับรองท่าน เข้าไปในภาพรวมของเเนวคิดการตกเเต่งรีสอร์ท อีกทั้งเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในการพักผ่อนในสุโขทัย เลเจนด้า สุโขทัย รีสอร์ท ได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเข้าไปเติมเเต่งความเป็นบูติค เเละความทันสมัยเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ สระว่ายน้ำเเบบสระเกลือ เพื่อดูเเลสุขภาพผิวพรรณ เเละปลอดภัยสำหรับคนที่เเพ้คลอรีนที่ใส่ในสระว่ายน้ำทั่วไป
เข้าสู่วันที่สองของการเดินทางเช้านี้เราจะพาทุกคนไปที่ชุมชนไทครั่ง ก่อนจะเข้าไปในชุมชนบรรดาแม่ๆและน้องๆทั้งหลายได้เตรียมการแสดงต้อนรับแบบอบอุ่นสไตล์ไทครั่งมาให้ได้ชมนั่นก็คือ การรำแคน ซึ่งเป็นการแสดงของชาวไทครั่ง และมีขนมโค้ง ขนมโบราณและน้ำใบเตยหอมเย็นชื่นใจไว้ต้อนรับอีกด้วย ที่บ้านเกาะน้อยยังเป็นที่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวครั่งหรือลาวภูครัง ซึ่งอพยพมาจากเมืองภูคลัง หลวงพระบาง ประเทศลาว ชาวไทครั่งกลุ่มนี้ยังได้นำเอาวิถีชีวิตดั้งเดิมติดตัวมาด้วยก็คือ การเลี้ยงครั่งเพื่อเอาไว้สำหรับย้อมผ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ถนัดเป็นอย่างดี นอกจากนี้ชาวไทครั่งก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อื่นๆ ไว้อีก ไม่ว่าจะเป็น ภาษาพูด ประเพณีแห่ธงช่วงสงกรานต์ แห่กัณฑ์หลอนในประเพณีออกพรรษา รวมถึงการสืบสานการทอผ้ามัดหมี่ตีนจกอีกด้วย
ดอกทานตะเวนหรืออีกชื่อก็คือดอกทานตะวันที่เรารู้จักกันนั่นเอง ชาวไทครั่งจะใช้ดอกทานตะเวนประดับในประเพณีแห่ธงของชาวไทครั่งบ้านเกาะน้อยที่จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี โดยสีหลักๆของดอกทานตะเวนมีอยู่ห้าสีด้วยกันคือ สีแดงหมายถึงความมั่งคั่ง มั่งมี สีขาวหมายถึงความอยู่เย็นเป็นสุข ร่มเย็น สงบ สีดำหมายถึงความเข้มแข็งอดทน พลังอำนาจ สีเขียวหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและสะท้อนพลังอันมีชีวิตชีวาของชีวิต ช่วยป้องกันภัยจากโรคร้าย สีเหลืองหมายถึงความรุ่งเรืองเหมือนรวงข้าวสีทองความเจิดจ้าและสว่างไสว ความเชื่อใจ เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่และชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากสีหลักๆห้าสีแล้วยังมีสีอื่นที่ให้ความหมายได้อีกเช่น สีชมพูให้ในเรื่องความรัก นอกจากจะทำเป็นดอกตะเวนในงานบุญแล้วทางชุมชนยังได้นำดอกตะเวนมาดัดแปลงเป็นสร้อยคอ ต่างหู พวงกุญแจน่าน่ารักๆ ให้ได้เลือกซื้อกันด้วยแและราคาเบาๆไม่แพงเลย
นอกจากนี้ภายในของศูนย์การเรียนรู้บ้านไทครั่งยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงของสะสมและผ้าทอโบราณที่บางผืนมีอายุนับร้อยๆ ปี รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ของชาวไทยครั่ง ทั้งอุปกรณ์จักสาน เครื่องใช้โบราณ เครื่องสังคโลก ถ้วย จาน ลูกปัด ทั้งในตัวบ้านและนอกบ้าน ให้เป็นสถานที่ให้ความรู้และเล่าเรื่องราวของไทครั่งให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย และทางชุมชนยังมีสินค้าจากชาวบ้านจำหน่ายอีกมากมายทั้งผ้าตีนจก ตระกร้าสาน ซึ่งราคาเมื่อเทียบกับภูมิปัญญาและความปราณีแล้วถือว่าไม่แพงเลย เดินชมของเก่าของโบราณไปมาเวลาก็ล่วงเลยมาจนเที่ยง แม่ๆก็มีอาหารกลางวันมาให้กินรับรองรสชาติแซ่บนั่วถึงใจกันเลยทีเดียว
ออกจากชุมชนเราก็มุ่งหน้าสู่สุนทรีผ้าไทย เป็นศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านโบราณหาดเสี้ยว เป็นศูนย์ที่ผลิตผ้าทอพื้นเมืองที่คนไทยเชื้อสายไทยพวนสืบทอดกันมานาน โดยเฉพาะผ้าทอพื้นเมืองของชาวบ้านหาดเสี้ยว เป็นผ้าทอพื้นเมืองที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ลวดลายสีสันสะดุดตาสวยงาม ผ้าทอหาดเสี้ยวผลิตขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าตีนจก เป็นที่ยอมรับว่าเป็นผ้าที่ถักทอด้วยความปราณีตงดงาม ผ้าตีนจกมีทั้งหมดเก้าลายด้วยกัน มีลายเครือน้อย ลายเครือกลาง ลายเครือใหญ่ ลายสีขอ ลายแปดขอ ลายน้ำอ่าง ลายสองท้อง ลายมนสิบหก ลายสิบสองหน่วยตัด ทางสุนทรีผ้าไทย ยังได้ต่อยอดธุรกิจร่วมกับดีไซด์เนอร์ พัฒนาให้สินค้าเป็นมากกว่าผ้าผืน ด้วยการประยุกต์เป็นเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ชุดปูโต๊ะ เน็ทไท สายห้อยโทรศัพท์มือถือ ผ้าพันคอ กระเป๋า ทำให้มีความทันสมัยเข้าถึงง่าย
แต่มีผ้าตีนจกพิเศษอยู่หนึ่งผืน ผ้าฝ้ายทอผืนนี้ ตีนจกมีห้าลาย และดิ้นทอง ราคาแค่ 1.5 แสน แต่ถ้าผืนนีเมีครบทั้งเก้าลาย ราคาจะพุ่งสูงถึง1.9 แสน เลยทีเดียว
ที่สุนทรีผ้าไทยยังมีบ้านโบราณของชาวไทยพวนให้ได้เยี่ยมชมและศึกษาวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมี workshop ทอผ้าเช็ดหน้าตีนจก ด้วยขนเม่น ถามว่าทำไมต้องขนเม่น เพราะขนเม่นจะมีความเรียบเนียนไม่เป็นขลุยทำให้การจกผ้าเรียบเนียนสวยงาม มีลายแบบโบราณง่ายๆให้เลือทำก็คือลายนกคุ้มจะมีสองแบบคือนกตามกัน และนกกินน้ำ หรือเราอยากจะครีเอทลายผ้าเป็นของเราเองก็ได้ เป็นผ้าทอผืนเดียวในโลกสำหรับของเราเอง ระหว่าง workshop ยังมีขนมโบราณของไทยพวนอย่าง ข้าวโค้ง เป็นขนมมีรสชาติหวานมัน ออกเค็มบ้างก็ได้ถ้าใส่เกลือ ชาวไทยพวนแต่ละบ้านนิยมทำกันในงานบุญต่างๆ เช่นงานบุญกำฟ้า บุญบั้งไฟ บุญออกพรรษา แล้วแต่โอกาส และน้ำมะนาวอัญชัญให้ดื่มกันชื่นใจมีแรงทอผ้าต่อ คุณรวีวรรณยังได้บอกอีกว่าสิ้นเดือนนี้ที่งานลอยกระทงจะมีออกไปขายมากมาย ทั้งพวงกุญแจ แม็กเน็ต หรือจะเป็นสร้อยคอ โชคเกอร์ ที่วัยรุ่นนิมยมใส่ ทำจากผ้าตีนจกมาให้ได้ซื้อกันอีกด้วย ให้ที่ว่างๆอย่าลืมไปอุดหนุนของไทยแล้วยังได้เที่ยวงานลอยกระทงกันด้วยน่ะคะ
ตะวันที่ใกล้จะลับขอบฟ้าก่อนที่แสงจะหมดไป เย็นนี้สถานที่ ที่เราจะพาไปเป็นสถานที่ ที่เหล่าฮิปเตอร์อย่างเราๆไม่ควรพลาดอย่างยิ่งนั่นก็คือ สตรีท อาร์ตสวรรคโลก จุดเช็คอินแห่งใหม่ในจังหวัดสุโขทัย ถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ กับภาพวาดฝาผนังตามบ้านเรือนในย่านชุมชนเก่า ที่ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินสตรีทอาร์ทชั้นนำของเมืองไทยและต่างชาติ ได้ศิลปินจากประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา มาร่วมสร้างสรรค์ภาพวาดศิลปะลงบนผนังตึกเก่า ทั้งหมด 7 จุด ในบริเวณย่านชุมชนเก่าชาวจีน ใจกลางอำเภอสวรรคโลก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และกิจกรรมที่น่าสนใจให้ได้ไปเที่ยชมอีกมากมาย หนึ่งในนั้นขอแนะนำร้าน ซ่งเจียลั่ว หมูโค้วไหหลำ รสเด็ด ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน แค่พูดก็หิ้วแล้ว และยังมีน้ำมะนาวดองถั่ว รสชาติจะออกเปรี้ยวๆเค็มหน่อยๆและได้ความมันจากถั่วลิสง ได้กินตอนอากาศร้อนๆรับรองว่าสดชื่นถึงใจ
และบริเวณนั่นยังมีจุดให้แวะถ่ายรูปอีกมากมาย เช่น สถานีรถไฟสวรรคโลก อาคารไม้แบบเก่า ทำให้ดูแล้วมีความวินเทจมากๆ น่ามาถ่ายรูปเล่น ซึ่งถ้าใครอยากจะนั่งรถไฟมาที่สวรรคโลกแบบชิวๆก็จะมี ขบวนรถไฟมีสองรอบ คือ กทม. – สวรรคโลก 10.50 น. และ สวรรคโลก – กทม. 17.55 น. และโรงพักเก่า โรงพักเรือนปั้นหยา มรดกทางประวัติศาสตร์ในยุคก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 จะมีของเก่าที่ใช้ในโรงพักจริงๆ สำหรับการชมและศึกษาพร้อมกับมีภาพประวัติศาสตร์ ความเป็นมาที่บอกเล่าถึงเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
พอตะวันตกดินเสียงในท้องก็เริ่มดังประท้วงขึ้นมา มื้อนี้เราจะพาทุกคนมาทานข้าวเย็นกันที่ร้านสิบสองหน่วยตัด ชื่อร้านมาจากชื่อของลายผ้าตีนจก นอกจากเป็นทั้งร้านอาหารแล้ว ที่พักและมีคาเฟ่ไว้บริการ เดิมเป็นฟาร์มปลูกเมล่อนชื่อรุ่งอรุณแห่งความสุข ต่อมาเจ้าของขยายพื้นที่ โดยอนุรักษ์บ้านเก่า นำบ้านทรงไทยของนายอารยะ ชุมดวง มาปรับปรุงใหม่เค้าโครงเดิมเพื่อทำเป็นร้าน ติดสระบัว สวยงาม มีมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะเลย
ทางร้านยังได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สะสมผ้าขนาดเล็ก สะสมภาพโบราณที่หาชมได้ยากไว้อีกด้วย บางผืนประมูลได้จากต่างประเทศซึ่งเป็นผ้าลายที่หาชมได้ยาก บางผืนอยู่ในช่วงยุคสมัยเจ้าดารารัศมี ทำให้ผ้าที่ประมูลมาได้นั่นไม่สามารถตีเป็นราคาได้เลยเพราะมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปะ และมีอยู่หนึ่งผืนที่มีความทันสมัยในยุคนั้นก็คือผ้าซิ่นแบบซีทรู ทำให้เห็นได้ความยุคสมัยนั้นเรื่องแฟชั่นการแต่งตัวไม่ได้น้อยหน้าคนปัจจุบันแต่อย่างใดเลย
เข้าสู่วันสุดท้ายของการเดินทางที่สุโขทัย วันนี้เราจะเริ่มเช้าอันแสนสดใสด้วยการพาทุกคนไปตักบาตรตอนเช้ากันที่ วัดตระพังทอง โบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำที่เรียกว่า “ตระพังทอง” มีเจดีย์ประธานทรงระฆังที่ใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐาน ส่วนด้านบนนั้นใช้อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างรอบเจดีย์ประธาน และมีเจดีย์รายล้อมจำนวน 8 องค์ บรรยายกาศยามเช้าเริ่มคึกคักมากขึ้นผู้คนเริ่มมาจับจ้องที่นั่งเพื่อรอใส่บาตรพระ จุดเด่ดของที่วัดคือ พระจะบิณฑบาตผ่านสะพานบุญที่ข้ามระหว่างตัววัดกับถนนด้านนอก ทำให้ได้ความรู้สึกแบบวิถีชุมชนของชาวสุโขทัย
สถานที่ต่อไปเป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมจากไม้ กันที่ชุมชนร้องตาเพชร หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า หมู่บ้านแกะปลาฟันนกคุ้ม การแกะสลักในนชุมชนจะมีการประดิษฐ์จากไม้หลายรูปแบบทั้งการแกะสลักไม้เป็นรูปพระพุทธรูปรูป การแกะสลักไม้รูปปลา และการแกะสลักนกคุ้มซึ่งเป็นความเชื่อโบราณของคนสุโขทัยว่าถ้าบ้านไหนมีนกคุ้ม จะคุ้มครองทรัพย์สิน คุ้มเย้าคุ้มเรือน คุ้มครองให้คนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนที่ได้ดำเนินการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
การตื่นเช้าวันนี้อาจจะทำให้ง่วงนอนไปบ้างแต่เราจะพาทุกคนมาแวะจิบกาแฟ The pipe เป็นคาเฟ่สุดชิค ตกแต่งด้วยสไตล์ loft industrial และยังเปิดเป็น Hostel ใช้นักท่องเที่ยวได้มาพักกันด้วย โดยตัวเจ้าเองนั้นเป็นอดีตสถาปนิกที่ได้ผันตัวมาเปิดคาเฟ่ และได้แรงบรรดาลใจในการออกแบบ จากการไปท่องเที่ยวต่างประเทศแล้วเห็นท่อน้ำซีเมนต์ขนาดใหญ่ที่คนไร้บ้านไปอาศัยอยู่ จึงไปได้นำมาออกแบบดีไซด์ให้เป็นที่พักและค่าเฟ่สุดชิคให้ได้มา ถ่ายรูปเช็คอินกัน นอกจากคาเฟ่มีที่ให้ถ่ายรูปแล้ว เครื่องดื่มของที่นี่รสชาติอร่อยไม่แพ้ที่อื่นเลย และยังมีกาแฟสกัดเย็นที่เป็นจุดเด่นของที่นี่อีกด้วย รับรองว่ารสชาติถูกใจคอกาแฟอย่างแน่นอน
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปคือ นะโม แฮนดิคราฟท์ เป็นแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาเรื่องการทอผ้าพื้นเมืองและการตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือเป็นของที่ระลึกต่างๆ แต่เนื่องจากการระบาดของโรค โควิด-19 กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก ทางชุมชนจึงได้ปรับตัวเพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของตลาด ด้วยการนำผ้าพื้นเมืองที่มีอยู่ มาตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัย วันนี้เราจะพาทุกคนมา Workshop ทำหน้ากากอนามัยรูปนกคุ้ม ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของชุมชน และทางชุมชนยังมีของให้เลือกซื้ออีกหลากหลายรูปแบบเช่น พวงกุญแจ ตุ้มหู กระเป๋าย่าม หมวก ของทุกชิ้นจะมีเอกลักษณ์ที่ลายของนกคุ้มและเป็นงานฝีมือจากชุมชนทั้งหมด ไม่รอช้าเรามาเริ่มทำหน้ากากอนามัยที่ไม่มีซ้ำใครกันเลย
ก่อนจะเดินทางกลับเราจะพาทุกคนมากินข้าวกลางวันกันที่ ร้านสุ-จินต์ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เราอาจจะเห็นก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยหลากหลายร้าน แต่ที่ร้านสุ-จินต์ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย จะเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวมาในชามสังคโลก สอดคล้องกับบรรยากาศการตบแต่งร้านด้วยของเก่าที่เจ้าของใช้เวลาครึ่งชีวิตในการสะสมทั้งตู้โบราณ และเครื่องทองเหลือง รวมถึงอุปกรณ์ทำมาหากินที่ย้อนไปถึงวิถีชีวิตในอดีต และจะมีการใช้หมูกรอบที่ทำจากหมูสามชั้นเพิ่มเข้ามานอกเหนือจากหมูบดและหมูชิ้น ทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น และปิดท้ายด้วยบัวลอยมันม่วง ที่เจ้าของร้านการันตีความอร่อย ว่าถ้าไม่อร่อยจะไม่คิดตังกันเลยทีเดียว
แนวหน้าพาเที่ยวครั้งนี้ได้พาทุกคนไปปั่นจักรยานชมความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเก่าแก่ ผ่านโบราณสถาน งานศิลปกรรมต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังเต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ รวมถึงชุมชนน่ารักๆ มีเสน่ห์ ใครที่ยังไม่เคยไปเยือนเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน เรียนรู้อัตลักษณ์ของแต่ละชนชาติ ว่าการทอผ้าไม่เป็นเพียงแค่เสื้อผ้าห่มคลุมร่างกายเท่านั้น ยังแฝงเรื่องราวต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงคุณค่าความเป็นมานั้น ต้องใช้จินตนาการจากการไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เมื่อมองย้อนกลับไปกลับมาก็จะพบว่าหลายเรื่องหลายแห่งเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้กับเราได้กลับไปใช้ชีวิต หรือออกแบบประสบการณ์ใหม่ให้กับเราได้สู่การสร้างสรรค์ลวดลายเพื่อความสวยงาม ทำให้การได้มาสุโขทัยครั้งนี้เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆที่หลายคนอาจไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่อยากให้ใครหลายๆคนได้ลองไปสักครั้ง รับรองจว่าจะตกหลุมรักสุโขทัยอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี