วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี “องค์การอนามัยโลก (World Stroke Organization: WSO)” ได้กำหนดให้ เป็น “วันอัมพาตโลก (World Stroke Day)” โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งปัจจุบันเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญระดับโลก รวมถึงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวว่า อยากรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยประเทศไทยพบโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี รองจาก โรคมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม และภาวะน้ำหนักเกิน และยังพบว่าเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด ของโรคทางระบบประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและความพิการ หากประชาชนรู้จักดูแลตนเองก็จะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวได้
ด้านนายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา ได้กล่าวว่า อาการเตือนสำคัญที่สังเกตได้ด้วยตนเองตามหลัก FAST คือ F = Face ชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า ตามัวเห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก A = Arm อาการแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง S=Speech ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก และ T= Time เวลาที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดอย่างเฉียบพลันในรายที่มีภาวะสมองขาดเลือดแบบชั่วคราว อาจเกิดขึ้นชั่วขณะแล้วหายไปเอง หรืออาจเกิดขึ้นหลายครั้ง ก่อนจะมีอาการสมองขาดเลือดอย่างถาวร
โรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่จะพบในคนอายุมาก เนื่องจากหลอดเลือดเสื่อมตามวัย แต่ทุกเพศทุกวัยก็สามารถเป็นได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยต้องสังเกตอาการข้างต้นและรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดอาจจะช่วยลดการเสียชีวิตและความพิการได้ เนื่องจากเซลล์สมองขาดเลือดเพียง 1 นาที จะมีเซลล์สมองตายประมาณ 1 ล้านเซลล์ ถ้าได้รับการรักษาช้าอาจทำให้เกิดความพิการมากขึ้น
สำหรับแนวทางการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง คือ ต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงอาหาร รสเค็มจัดไขมันสูง ควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมันและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบหรี่ รวมถึงการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยงและความผิดปกติของร่างกาย
ท้ายสุดประชาชนควรตระหนักและมีความรู้ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตตลอดจน ศึกษาอาการเบื้องต้นของโรค หากผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วควรรักษาและรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด หากท่านใดมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อลดความพิการและอัตราการเสียชีวิต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี