22 พฤศจิกายน 2563 งานแสดงช้าง สำหรับงานแสดงช้างของจังหวัดสุรินทร์ถือได้ว่าเป็นงานที่สำคัญของชาติอีกงานหนึ่ง เป็นการแสดงออกถึงวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของคนกับช้าง ที่มีมาช้านาน จวบจนปัจจุบันยังคงเป็นเมืองที่มีคนเลี้ยงช้างมากที่สุดในประเทศจนได้รับการขนานนามว่า เมืองช้าง โดยจัดให้มีงานแสดงของช้างมาแล้วปีนี้เป็นปีที่ 60 ซึ่งแต่ละปีได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก และพิเศษในปีนี้ซึ่งเป็นที่ครอบรอบ 60 ปีของงานช้างสุรินทร์ ทางจังหวัดสุรินทร์ได้จัดให้มีการแสดงของช้างในภาคกลางคืนประกอบ แสง สี เสียง ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ภาคกลางวัน ด้วยฉากการแสดงจำนวน 4 ฉากหรือ 4 องค์
ประกอบด้วย องก์ที่ 1 บูชาเทพแห่งพิฆเนศวร เป็นฉากการแสดงถึงความสำคัญของช้าง องก์ที่ 2 กำเนิดหัวเมืองเขมรป่าดง เมื่อปี พ.ศ.2260 กลุ่มผู้นําหมู่บ้านกูยที่มีความสามารถในการจับและฝึกช้างป่าอพยพจากเมืองอัตตปือข้ามลำน้ำโขง แล้วเดินทางตามลำน้ำมูลเข้ามาอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่กรุงศรีอยุธยาเรียกว่า เขตเขมรป่าดง โดยแบ่งออกเป็นเป็น 6 สาย และตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ต่าง ๆ ซึ่งเมื่อมีศึกสงครามก็จะนำช้างไปช่วยทำศึก แสดงถึงขบวนทัพช้างแห่งเอเชียอัคเนย์ในอดีต องก์ที่ 3 การจับช้างป่า หรือ การคล้องช้าง หรือการโพนช้างของชาวกูยเลี้ยงช้างจังหวัดสุรินทร์ในอดีต องก์ 4 เฉลิมยศ ฉลองเมือง พระยาสุรินทร์ภักดี โดยสมัยอยุธยา หัวหน้าชาวกูย แห่ง หมู่บ้านคูประทาย ชื่อ เชียงปุม และลูกบ้านกลุ่มหนึ่ง ได้ช่วยขุนนางผู้มียศศักดิ์จากราชสำนักอยุธยา คล้องช้างเผือกที่แตกโรงมาจากพระนคร ให้กลับคืนไปได้ ต่อมาหัวหน้าชาวกูยผู้นั้น ได้รับราชการกับราชสำนักอยุธยา จนได้รับพระราชทาน บรรดาศักดิ์เป็น หลวงสุรินทร์ภักดี จากนั้นอีกสามปี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกหมู่บ้านคูประทายขึ้นเป็นเมือง ประทายสมันต์ และเลื่อนบรรดาศักดิ์หลวงสุรินทร์ภักดี เป็นพระยาสุรินทร์ภักดี ศรีณรงค์จางวาง แล้วให้เป็นเจ้าเมืองปกครอง เมืองประทายสมันต์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
และองก์ที่ 5 แสนยานุภาพช้างไทยป้องปฐพี การแสดงการทำยุทธหัตถีของพระมหากษัติรย์สมัยโบราณ ซึ่งผืนแผ่นดินไทยดำรงอยู่ได้ด้วยพระปรีชาสามารถแห่งบูรพกษัตริย์ของไทย และ ความสามารถของ คชสาร ที่กู้ชาติ กู้แผ่นดิน ไว้ในอดีตหลายยุค หลายสมัย การศึกสงครามเมื่อ ครั้งอดีต ช้างบ่งบอกถึงแสนยานุภาพอันเกรียงไกรโดยจะใช้ช้างร่วมการแสดงกว่า 160 เชือก นับได้ว่างานช้าง 60 ปีประกอบแสงเสียงภาคกลางคืนซึ่งเป็นปีแรกได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเนืองแน่น สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับจังหวัดสุรินทร์ และอาจจะมีการจัดงานช้างภาคกลางคืนอีกในปีถัดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี