‘สิงห์อมควัน’มีหนาว! นักวิชาการชี้ช่องกฎหมาย ร้องเรียนปม‘เดือดร้อนรำคาญ’

‘สิงห์อมควัน’มีหนาว! นักวิชาการชี้ช่องกฎหมาย ร้องเรียนปม‘เดือดร้อนรำคาญ’

วันอังคาร ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 17.49 น.

24 พ.ย. 2563 ที่โรมแรมเดอะสุโกศล ถ.ศรีอยุธยา กรุงเทพฯ มีการจัดสัมมนาเรื่อง “การคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุด” โดย รศ.ดร.สสิธร เทพตระการพร คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 1,204 คน แบ่งเป็นผู้สูบบุหรี่ 176 คน และไม่สูบ 1,028 คน ที่พักอาศัยในอาคารชุดในพื้นที่ 10 เขตของกรุงเทพมหานคร (กทม.) พบว่า 1.ในกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ 3 อันดับแรก ร้อยละ 48 สูบที่บริเวณริมระเบียงห้องพัก ร้อยละ 35 สูบในพื้นที่ส่วนกลางของอาคารชุด และร้อยละ 12 สูบภายในห้องพัก

2.กลุ่มตัวอย่างทั้งที่สูบและไม่สูบบุหรี่ ส่วนยอมรับว่าเคยได้กลิ่นควันบุหรี่ลอยมาจากห้องพักของผู้อื่น โดยกลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่อยู่ที่ร้อยละ 72 และกลุ่มที่สูบร้อยละ 78 แต่เมื่อถามต่อไปว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อได้กลิ่นควันบุหรี่ดังกล่าว กลุ่มตัวอย่างที่สูบบุหรี่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 50 ตอบว่าเฉยๆ รองลงมา ร้อยละ 37 รำคาญ และร้อยละ 13 หายใจไม่ได้และต้องปิดหน้าต่าง ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ไม่สูบ ส่วนใหญ่ร้อยละ 38 ตอบว่ารำคาญ รองลงมา ร้อยละ 34 หายใจไม่ได้และต้องปิดหน้าต่าง มีเพียงร้อยละ 27 ที่ตอบว่าเฉย ๆ และร้อยละ 1 ตอบว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่จนปวดหัว


ขณะที่ รศ.ดร.นิภาพรรณ กังสกุลนิติ อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า การสูบบุหรี่ในอาคารชุดส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพ คือมลพิษจากควันบุหรี่มือสองที่แม้ผู้สูบจะสูบในห้องของตนเอง แต่ควันบุหรี่สามารถลอยออกไปด้านนอกผ่านช่องทางต่างๆ ไปถึงผู้อื่นได้ รวมถึงควันบุหรี่มือสาม หมายถึงแม้ควันจะหายไปแล้วแต่สารพิษในบุหรี่จะยังคงเกาะตามเสื้อผ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสารพิษที่อยู่ในควันบุหรี่ก่อให้เกิดโรค เช่น มะเร็ง หลอดเลือดหัวใจ เส้นเลือดในสมอง

โดยเฉพาะหากผู้รับควันบุหรี่เป็นเด็กจะยิ่งส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกาย เช่น สมรรถภาพของปอดลดการเจริญเติบโต รวมถึงก่อโรคหอบหืด และยังกระทบในด้านความเสี่ยง โดยมีผลการศึกษาในสหรัฐอเมริกา พบว่า การไม่สูบบุหรี่ในอาคารชุดจะประหยัดงบประมาณป้องกันอัคคีภัยได้ถึง 16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 480 ล้านบาท นอกจากนี้ยังประหยัดงบประมาณทำความสะอาดได้อีก 43 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.29 พันล้านบาท

นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ กล่าวว่า การควบคุมยาสูบจัดเป็นปัญหาการสาธารณสุขที่สำคัญของโลก รวมถึงประเทศไทย จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2562 ระบุว่า ยาสูบฆ่าคนมากกว่า 8 ล้านคน/ปี เป็นผู้ใช้ยาสูบโดยตรงเสียชีวิตกว่า 7 ล้านคน และอีก 1.2 ล้านคนเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง

ทั้งนี้ ปัจจุบันสังคมไทยมีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น การอยู่อาศัยร่วมกันของผู้คนในเมืองใหญ่จึงมักอยู่ในรูปแบบของอาคารชุด เช่น คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนท์ ปัญหาเรื่องควันบุหรี่ของผู้ที่สูบในอาคารชุดเป็นปัญหาที่สังคมต้องการแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอาคารชุดเข้ามีมีบทบาทในการสร้างการรณรงค์การคุ้มครองสิทธิของผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่

ศ.ดร.ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ นักวิจัยภายใต้การสนับสนุนของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ยกตัวอย่างมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในอาคารชุดของต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เคยมีกรณีนิติบุคคลคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งเรียกประชุมผู้พักอาศัยเพื่อให้ออกเสียงประชามติว่าจะให้มีกฎห้ามสูบบุหรี่และกัญชาในคอนโดมิเนียมหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ได้ถูกนำเข้าไปวินิจฉัยในชั้นศาล และศาลมีคำตัดสินว่านิติบุคคลมีอำนาจออกกฎดังกล่าวหากผู้พักอาศัยส่วนใหญ่สนับสนุน แม้จะมีผู้ออกเสียงเพียงร้อยละ 50 ของผู้พักอาศัยในอาคารนั้นก็ตาม

เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ในรัฐวิคตอเรียและรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่นิติบุคคลอาคารชุดสามารถออกกฎห้ามสูบบุหรี่ได้เช่นกันหากได้รับเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่จากการทำประชามติผู้พักอาศัยในอาคารนั้น ขณะที่สหรัฐอเมริกา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เจ้าของโครงการอาคารชุด หรือเจ้าของอาคารชุดให้เช่า สามารถกำหนดข้อห้ามสูบบุหรี่ไว้ในสัญญาซื้อ-ขาย หรือสัญญาเช่าได้ โดยเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อหรือผู้เช่าต้องศึกษาข้อมูลก่อนซื้อหรือเช่าว่าจะรับเงื่อนไขได้หรือไม่

อีกด้านหนึ่ง นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 (4) กล่าวถึงเหตุเดือดร้อนรำคาญ ดังนั้นผู้ใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากควันบุหรี่ สามารถร้องเรียนไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ ซึ่งท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลไม่ให้มีผู้ก่อความเดือดร้อนรำคาญ แม้จะเป็นสถานที่ของเอกชนก็ตาม

“ท้องถิ่นสามารถออกคำสั่งได้ด้วย ในคำสั่งสามารถบอกว่า เช่น ไม่ให้คุณดำเนินการในช่วงดังกล่าว แม้จะเป็นสถานที่เอกชน แต่ผมไม่แน่ใจว่าในทางปฏิบัติ กทม. หรือท้องถิ่นได้เคยใช้อำนาจนี้หรือเปล่า ก็จะมีเขียนไว้ในมาตรา 28 ในกรณีที่มีเหตุรำคาญเกิดขึ้นในสถานที่เอกชน ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้เเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่นั้นระงับเหตุรำคาญภายในเวลาอันสมควรตามระบุไว้ในคำสั่ง อันนี้ก็เป็นอำนาจที่สามารถทำได้ แล้วถ้ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน มีโทษตามกฎหมายด้วย” นายไพศาล ระบุ

อย่างไรก็ตาม นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริหารสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยและสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า การกำหนดเงื่อนไขซื้อ-ขายอาคารชุดที่รับเฉพาะผู้ไม่สูบบุหรี่ จะกระทบต่อยอดขายอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน โดยยอดขายของผู้ประกอบการรายนั้นจะตกประมาณร้อยละ 20-30 หากเทียบกับรายอื่นๆ แต่หากต้องการจะสร้างสังคมที่ดี ผู้ประกอบการก็ต้องอดทนให้ได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมหลายแห่งที่สามารถจัดพื้นที่แยกต่างหากสำหรับสูบบุหรี่ได้ แต่หมู่บ้านจัดสรรการจัดพื้นที่น่าจะทำได้ยากกว่า เช่น หากจัดไว้ที่สวนตรงกลาง ผู้อยู่อาศัยอาจมองว่าไกล แล้วตัดสินใจสูบบริเวณพื้นที่หน้าบ้านของตนเองซึ่งแนวป้องกันทำได้ยาก ดังนั้นจึงอยู่ที่การพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้เกิดแนวทางการอยู่อาศัยร่วมกันแบบส่งกระทบต่ำที่สุด

นายจรัญ กล่าวต่อไปว่า แต่การทำให้คนที่มาอยู่ร่วมกันในโครงการอสังหาฯ ต่างๆ รู้จักคุ้นเคยกันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกด้วยความที่เป็นสังคมเมืองซึ่งสังคมแบบนี้ความสัมพันธ์ของผู้คนแม้ไม่ถึงขั้นเป็นศัตรู แต่ก็รู้สึกว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ไม่ค่อยอยากทำความรู้จักกัน ซึ่งในฐานะที่ตนอยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มาประมาณ 20 ปี งานอย่างหนึ่งคือการทำให้ผู้ที่มาอยู่ในโครงการเหล่านี้รู้จักกันให้ได้

“เวลาเกิดเหตุเราไม่อยากให้ปะทะ เราก็จะแจ้งเสมอว่าให้แจ้งฝ่ายจัดการนิติบุคคล จะมี รปภ. มีแม่บ้าน เข้าไปพูดคุย ต่างๆ เหล่านี้เราต้องฝึก จะทะเล่อทะล่าเข้าไปไม่ได้เพราะอารมณ์มันต่างกัน ยิ่งกว่านั้นเราพยายามทำให้คนที่อยู่ร่วมกันรู้จักกันผ่านกิจกรรมต่างๆ นานา พยายามให้เขารู้จักกันให้ได้ อันที่ดีที่สุดทำบุญตักบาตร เวลารู้จักกันมันจะง่าย จะคุยจะอะไรมันเหมือนเป็นเพื่อนกัน เออพี่!เบาๆ หน่อยนะ พอดีมีเด็ก มันคุยกันง่าย” นายจรัญ กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top