‘เกม พลช’นศ.คณะวิศวกรรมฯ PIM ชี้นายหน้า-บริษัทนำแรงงานเถื่อนเข้าไทยเห็นแก่ตัว แนะตั้งรับโควิด‘การ์ดอย่าตก’
“การ์ดอย่าตก” หลายคนคงได้ยินคำนี้ดีในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา จนมาถึงการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มาอย่างรวดเร็ว โดยการแพร่กระจายมาจากพื้นที่ตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ที่มีการลักลอบแอบนำแรงงานต่างด้าวเถื่อนมาทำงานโดยกลุ่มคนบางคนที่เห็นแก้ตัว
จนทำให้ประเทศไทยกลับเข้ามาสู่สภาวะตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อได้รับฟังข่าวสารและตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เพียงสัปดาห์ยอดผู้ป่วยสะสมกว่า 6,000 ราย และกระจายไปกว่า 34 จังหวัดทั่วประเทศ เราจึงต้องเตรียมรับมือการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสนี้ แต่แน่นอนในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วเราทุกคนก็ต้องตั้งรับให้ดี “การ์ดอย่าตก” เพราะเชื่อว่าเราคนไทยจะต้องผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” ได้พูดคุยกับ “พลช มานะปัญญาเดช” หรือ “เกม” อายุ 20 ปี นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง?
“พลช มานะปัญญาเดช” ให้เหตุผลว่า ความคิดเห็นของตนคิดว่าคนไทยบางคนยังไม่เห็นความสำคัญของเชื้อไวรัสนี้ ยังอยู่ในจุดที่เพิกเฉย และยังไม่มีการป้องกัน บางคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัย คิดว่าใส่เพื่อป้องกันโรค แต่จริงๆ แล้วเราใส่หน้ากากอนามัย เพราะป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสไปติดคนอื่น เนื่องจากว่าคนที่แพร่เชื้อไม่ว่าจะเป็นการไอหรือจามก็จะมีละอองของเชื้อโรคแพร่กระจายออกไป ซึ่งหากไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยก็จะทำให้ผู้อื่นติดเชื้อได้ง่าย จึงอยากให้คนไทยช่วยกันป้องกันไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกไปข้างนอก และควรพกเจลแอลกอฮอล์ และที่สำคัญคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องเช็กตัวเองโดยการกักตัว 14 วัน หากมีอาการก็ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
นายพลช ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลตัวเองและคนในครอบครัว ตนจะพยายามไม่ออกไปข้างนอก เพราะข้างนอกเราไม่ทราบว่าใครติดเชื้อบ้าง ซึ่งหากไปในที่ที่มีคนแออัด เราไม่สามารถรู้เลยว่าใครมีเชื้อหรือไม่ เพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันไม่ได้แสดงอาการเด่นชัดว่าเป็นคนป่วย และเมื่อเราเกิดติดเชื้อโควิด-19 เราก็จะไม่สามารถรู้เลยว่าเราติดหรือไม่ จึงเป็นความเสี่ยงต่อคนที่ใกล้ชิดเราด้วย หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ออกไปนอกบ้าน จะพยายามอยู่บ้านและใช้ชีวิตปกติอยู่ภายในบ้านไปก่อน
เมื่อถามว่ารู้สึกกังวลกับการแพร่ระบาดเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 หรือไม่? นายพลช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้มีความกังวล แต่พอมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีความกังวลและถามตัวเองตลอดว่าเราติดเชื้อโควิดหรือยัง และในปัจจุบันถ้าไม่จำเป็นจริงๆต้นก็จะไม่ออกจากบ้าน จริงๆแล้วการกลับมาของโควิด-19 ระลอกใหม่อาจเป็นเพราะคนไทยบางกลุ่ม “การ์ดตก”
บางคนยังมองว่าคนไทยไม่สามัคคีกัน แต่ตนมองว่าคนไทยมีความสามัคคีกัน และช่วยกันป้องกัน เพราะมีความร่วมมือการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งบางคนอาจมองว่าเขาไม่ได้สนใจ แต่พวกเขาก็สามัคคีกันใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ ก่อนออกจากบ้าน นี่ก็คือความสามัคคีอย่างหนึ่งแล้ว
“ผมคิดว่าการเปิดประเทศให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาภายในประเทศไทย มีนายหน้า หรือบริษัท ลักลอบแอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาภายในประเทศไทย ซึ่งเราไม่สามารถรู้เลยว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัสมาหรือไม่ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมผมคิดว่าเราควรจะปิดประเทศไปก่อน และค่อยเปิดประเทศตอนที่เรามั่นใจว่าประเทศเรานั้นไม่มีความเสี่ยง หรือทางที่ดีอาจจะปิดไว้ก่อนให้โควิด-19 หายไป ซึ่งเราก็ไม่ทราบได้ว่าประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศใกล้เคียงติดโควิด-19 แล้วเดินทางเข้ามาในประเทศไทย อาจจะติดเชื้อเข้ามา และวนอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ สำหรับผลกระทบหากเราปิดประเทศอาจจะมีการกระทบกับเศรษฐกิจ ซึ่งผมเห็นว่าทางรัฐบาลก็ได้มีการเปิดโครงการต่างๆ ช่วยเหลือ อาทิ เราเที่ยวกัน คนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่จริงๆแล้ว เรื่องเศรษฐกิจนั้นมีความสำคัญมาก แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับการเปิดประเทศแล้วคนไทยภายในประเทศติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น เราต้องเห็นความสำคัญของชีวิตมนุษย์สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด” นายพลช กล่าว
จริงๆ อยากฝากให้ทุกคนมองภาพส่วนรวมจากที่เมื่อก่อนเราได้ควบคุมการแพร่เชื้อภายในประเทศได้ไปในระยะหนึ่ง แต่ตอนนี้มันกลับมามีเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศอีกครั้ง จึงอยากให้ทุกคนตระหนักให้มากๆ และอยากให้ทุกคนสามัคคีกันคือการช่วยเหลือกันโดยการใส่หน้ากากอนามัยเมื่อเวลาต้องไปในที่ที่มีคนจำนวนมากหรือเดินทางออกไปนอกบ้าน อยากให้พยายามใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง และพกเจลแอลกอฮอล์เวลาสัมผัสกับอะไรก็ให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ หรือไปสถานที่ข้างนอกหรือเป็นสถานที่เสี่ยงก็อยากให้กับตัว 14 วัน
“ผมมีความรู้สึกว่านายหน้า หรือบริษัทที่ลักลอบแอบเอาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในภายในประเทศไทยเท่ากับคนที่ทำแบบนั้นได้คือคนที่เห็นแก่ตัวมากกว่าส่วนรวม เพราะว่าเราเป็นคนไทยเราควรที่จะให้ความสำคัญกับคนภายในประเทศเราก่อนการที่พาคนเหล่านั้นเข้ามามันเป็นการที่เห็นแก่ตัวมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนพวกนั้นที่เข้ามาจะมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ มันเท่ากับเป็นการฆ่าตัวเอง เพราะว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเทศเราเลยและขาดความสามัคคี” น้องเกม กล่าว
น้องเกมยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า เทศกาลปีใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น จริงๆตนเห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น อาจจะส่งผลกระทบตามมาภายหลัง ตนคิดว่าการล็อกดาวหรือชัดดาวประเทศไปเลยอาจจะลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งตนเห็นว่าปีนี้อาจจะงดการจัดเทศกาลปีใหม่ไปก่อน ปีหน้าหากเชื้อไวรัสหายแล้วค่อยไปใช้วันหยุดทดแทนก็ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี