วันเสาร์ ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
คุมโรค-สิทธิฯ  ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

คุมโรค-สิทธิฯ ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
โควิด-19
  • Tweet

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพที่มีการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ด้านเศรษฐกิจที่กิจการต่างๆ ถูกรัฐใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” สั่งปิดเพื่อควบคุมไม่ให้โรคระบาดขยายตัวเป็นวงกว้าง ซึ่งทั้ง 2 ด้านนำไปสู่ผลกระทบด้านสังคมในประเด็น “สิทธิมนุษยชน” โดยสำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เป็นหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องนี้

ประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่าว่า นับตั้งแต่การระบาดระลอกแรกช่วงเดือน มี.ค. 2563 ซึ่งรัฐบาลสั่งปิดสถานที่ต่างๆ เกือบทั้งหมดเพื่อควบคุมไม่ให้การระบาดขยายตัวเป็นวงกว้าง ในเวลานั้น กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกรณีการถูกละเมิดสิทธิ โดยในจำนวนนี้เป็นเรื่อง“สิทธิแรงงาน” เสียค่อนข้างมาก

เช่น เมื่อสถานประกอบการถูกสั่งปิด นายจ้างได้สั่งให้ลูกจ้างหยุดงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง ใช้วิธีกดดันให้พนักงานลาออกเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงฉวยโอกาสเลิกจ้างพนักงานที่เป็นหญิงตั้งครรภ์-ผู้พิการ โดย กสม. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งพบว่านายจ้างส่วนหนึ่งรับลูกจ้างกลับเข้าทำงาน ขณะที่อีกส่วนเลือกจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย

“กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เขามีกองทุนที่จะดูแลแรงงานที่กำลังตั้งครรภ์ แล้วบางคนก็กำลังจะคลอดลูก ซึ่งพ่อแม่ถูกเลิกจ้าง ผลกระทบไปอยู่กับลูกก็มีมากมาย แล้วที่สำคัญบางคนร้องว่าตัวเองเป็นเสาหลักของครอบครัวด้วย พอถูกเลิกจ้างครอบครัวก็ได้รับผลกระทบมากอันนั้นก็เป็นส่วนใหญ่ที่ร้องมา” ประกายรัตน์ ยกตัวอย่าง

อีกเรื่องที่มีข้อร้องเรียนมายัง กสม. หลายกรณีคือ “สิทธิด้านความเป็นอยู่ส่วนตัว” เช่น ในช่วงแรกๆ ที่ภาครัฐเริ่มใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ให้ประชาชนลงชื่อเข้า-ออกสถานที่ต่างๆ ก็มีความกังวลว่ารัฐบาลกำลังเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของประชาชนผ่านสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือไม่ หรือมีผู้สงสัยว่ามีการทำวิจัยโดยไม่บอกกล่าวผู้เข้าร่วมหรือไม่ กรณีลดวันกักตัวลงแต่เพิ่มความถี่จำนวนครั้งการตรวจหาเชื้อต่อบุคคลเพิ่มขึ้น เป็นต้น

รวมทั้งยังมีกรณีอื่นๆ เช่น มีผู้ร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่จับกุมคุมขัง แต่ในระหว่างนั้นไม่ได้รับอาหารและยาที่จำเป็น อีกทั้งยังให้เข้ารับการตรวจคัดกรองว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งผู้ร้องเรียนก็ไม่เข้าใจว่ามาตรวจเพื่ออะไร หรือกรณีผู้ติดเชื้อเอดส์ (HIV/AIDS) ร้องเรียนว่าได้รับเบี้ยยังชีพล่าช้า ทั้งนี้ กสม. ให้ความสำคัญกับประชากรกลุ่มเปราะบางซึ่งต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องตรวจสอบตามข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายด้วย

อย่างไรก็ตาม บางกรณีก็พบหน่วยงานที่รับผิดชอบกับเรื่องนั้นๆ โดยตรงตั้งรับได้รวดเร็วจนประชาชนพอใจในระดับหนึ่ง เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน ที่เป็นมาตรการจ่ายเงิน 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบช่วงจากมาตรการสั่งปิดกิจการเพื่อควบคุมโรค ที่เจ้าภาพหลักคือกระทรวงการคลัง ตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาแจ้งอุทธรณ์กรณีถูกระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตัดสิทธิ์ เรื่องนี้จึงไม่มีการร้องเรียนมายัง กสม.

แต่อีกด้านหนึ่ง “เพื่อความปลอดภัยของสังคมโดยรวม ประชาชนเองก็ต้องยอมสละสิทธิ์บางอย่างบ้าง” เช่น จะเห็นว่าปัจจุบันเมื่อออกจากบ้านแต่ละคนจะสวมหน้ากากปิดปาก-จมูก “บางคนอาจจะบอกว่าอยากสวยไม่ใส่หน้ากากได้ไหม? แต่หากไม่ใส่แล้วมีเชื้อโควิด-19 ในร่างกายก็อาจแพร่เชื้อต่อให้ผู้อื่นได้” หรือมาตรการงดขายอาหารแบบนั่งรับประทานในร้าน ช่วงเวลา 21.00-06.00 น. หากเป็นสถานการณ์ปกติก็ถือว่าละเมิดสิทธิ์ แต่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดที่มีความรุนแรงเรื่องนี้ก็ต้องนำมาชั่งน้ำหนักกับสิทธิด้วย

“วันนี้ทางสหประชาชาติเอง สำนักงานข้าหลวงใหญ่เขาออกข้อมูล แถลงการณ์หรือข้อเสนอแนะกลไกต่างๆ ที่จะให้กรรมการสิทธิฯ เข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเรื่องโควิด แต่อย่างไรเขาก็สรุปสุดท้าย ยืนยันวิกฤติครั้งนี้ ผู้เสนอรายงานพิเศษด้านสุขภาพแห่งสหประชาชาติ รวมถึงผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ 60 กว่าคน เขาก็สรุปมาว่าต้องใช้มาตรการสาธารณสุขเท่านั้น และมาตรการฉุกเฉินที่สำคัญต่างๆ ต้องนำมาใช้ แต่มาตรการฉุกเฉินก็ให้ผนวกหลักสิทธิมนุษยชนไว้ด้วย เช่น หลักการไม่เลือกปฏิบัติ คือทุกคนต้องเท่าเทียมกัน” ประกายรัตน์ ระบุ

ประกายรัตน์ ยังกล่าวถึงการเลือกปฏิบัติหรือแสดงท่าทีรังเกียจผู้ติดเชื้อ หรือประชากรกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 โดยประชาชนด้วยกันเอง ซึ่งพบพฤติกรรมการตีตราในการระบาดทั้ง 2 รอบ เช่น คนจากพื้นที่ที่ถูกระบุว่ามีสถานการณ์การระบาดรุนแรง ถูกคนบางส่วนจากพื้นที่อื่นๆ ปฏิเสธไม่อยากให้เดินทางเข้าพื้นที่ หรือเมื่อมีข่าวว่าพบการติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก คนไทยบางส่วนก็แสดงท่าทีรังเกียจแรงงานต่างด้าว เป็นต้น

ซึ่ง กสม. ได้ออกแถลงการณ์ข้อห่วงใยไปถึงรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ด้านหนึ่งขอชื่นชมที่ยกระดับมาตรการควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว แต่อีกด้านก็ขอให้ไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่ว่าคนไทยหรือชาวต่างชาติ รวมถึงหามาตรการสื่อสารสร้างความเข้าใจด้วย อาทิ ในช่วงที่พบรายงานการระบาดรอบใหม่ที่ จ.สมุทรสาคร ในช่วงแรกๆ ที่พบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อถึง 500 คน

เรื่องนี้เข้าใจได้ว่าเมื่อเศรษฐกิจไทยเริ่มดี ธุรกิจเริ่มเคลื่อนได้ ผู้ประกอบการก็มีความต้องการแรงงาน นำไปสู่การนำเข้าแรงงานต่างด้าวโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค ประเด็นนี้ กสม. ได้เสนอแนะให้ทำการคัดแยกให้ดีระหว่างแรงงานที่ติดและไม่ติดเชื้อ รวมถึงหาช่องทางสื่อสารเป็นภาษาเมียนมา ลาวและกัมพูชาซึ่งเป็น 3 ประเทศที่มีประชากรเข้ามาทำงานในไทยจำนวนมาก เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เข้าถึงแรงงานเหล่านี้ด้วย

“พูดถึงการสนับสนุนปัจจัยที่เพียงพอต่อการดำรงชีพของประชาชน อันนี้ได้เสนอไปแล้ว เพราะการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ที่ควบคุมสูงต้องระวัง หนึ่งคือเหมือนเขาจะตกงานด้วย ช่วงนี้โรงงานปิด อย่างตลาดกุ้งปิด ตลาดประมงปิด เขาก็ไม่มีงานทำ ก็จะเห็นว่ามีนายจ้างบางคนก็เอาแรงงานไปทิ้งด้วย แล้วเขาจะกินอยู่ มีชีวิตอยู่ได้อย่างไร” ประกายรัตน์ กล่าว

กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวในท้ายที่สุดว่า ถึงกระนั้น ยังเห็นด้านดีๆ ของประชาชนชาวไทย คือการเกิดขึ้นของ“ตู้ปันสุข” ที่ผู้พอมีกำลังทรัพย์ซื้อวัตถุดิบจำพวกข้าวสารอาหารแห้งมาใส่ไว้ เพื่อให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากหยิบไปเท่าที่จำเป็น ส่วนการระบาดในรอบนี้รัฐบาลยังไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเหมือนรอบแรก บางอาชีพยังสามารถประกอบกิจการได้

ซึ่งก็หวังว่าสถานการณ์คงไม่รุนแรงถึงขั้นต้องกลับไปใช้มาตรการเต็มที่แบบนั้นอีก!!!

SCOOP@NAEWNA.COM

  • Tweet

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง

สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี

ตัวเลขลดลงต่อเนื่อง! ระยองติดโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด

หนุ่มรุ่นใหม่ปลุกกระแสท่องเที่ยวเชิงเกษตรเปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรกลางเมืองพัทยา

พบอีกพะยูนตาย'เขี้ยวหาย'กลางทะเลกระบี่ คาดมีคนลักลอบถอดออกก่อนเจอ

'ต๊ะติ๊งโหน่ง'ตลกบ้าหมาสุดช้ำ! โดนมือดีนำสุนัขติดเชื้อปล่อยที่บ้าน ทำที่เลี้ยงไว้ตายกว่า 70 ตัว

  • Breaking News
18:30 น. ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง
18:21 น. 'สมุทรสาคร'ยังหนัก! พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันเดียวพุ่งพรวด 335 ราย
18:07 น. สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี
18:07 น. พาณิชย์ชวนผู้บริโภค 'ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้' เลือกใช้หน้ากากผ้า หน้ากากทางเลือกช่วยชาติช่วยชุมชน
17:58 น. ตัวเลขลดลงต่อเนื่อง! ระยองติดโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด
ดูทั้งหมด
  • Breaking News
18:30 น. ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง
18:21 น. 'สมุทรสาคร'ยังหนัก! พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันเดียวพุ่งพรวด 335 ราย
18:07 น. สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี
18:07 น. พาณิชย์ชวนผู้บริโภค 'ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้' เลือกใช้หน้ากากผ้า หน้ากากทางเลือกช่วยชาติช่วยชุมชน
17:58 น. ตัวเลขลดลงต่อเนื่อง! ระยองติดโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด
ดูทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุมโรค-สิทธิฯ  ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

คุมโรค-สิทธิฯ ‘โควิด’สมดุล2ด้าน

13 ม.ค. 2564

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในหลายมิติ ทั้งด้านสุขภาพที่มีการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ด้านเศรษฐกิจที่กิจการต่างๆ ถูกรัฐใช้

โควิดรอบ2ฉุดบินในประเทศลดฮวบ ท่องเที่ยวดิ้นสู้หวังใช้‘รร.-สนามกอล์ฟ’กักตัวนักเดินทาง

โควิดรอบ2ฉุดบินในประเทศลดฮวบ ท่องเที่ยวดิ้นสู้หวังใช้‘รร.-สนามกอล์ฟ’กักตัวนักเดินทาง

11 ม.ค. 2564

11 ม.ค. 2564 สื่อต่างชาติ 2 สำนักจับตาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 โดยสำนักข่าว Vie

สู้จึงจะชนะ! ช้างกว่า 40 เชือกตกงาน รวมตัวกันสร้างรายได้เลี้ยงชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด

สู้จึงจะชนะ! ช้างกว่า 40 เชือกตกงาน รวมตัวกันสร้างรายได้เลี้ยงชีพ ฝ่าวิกฤตโควิด

9 ม.ค. 2564

วันนี้ (9 ม.ค.64)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้มีช้างตกงานที่มาจากพื้นที่ต่างๆ จำนวน 40 กว่าเชือก นางสาวบุญรัตน์ ศาลางาม อายุ 40 บ้านเลขที่ 207 ม.9 บ้านตากลาง

\'หมอจุฬาฯ\'ชี้เปรี้ยง เมื่อรัฐบาลไม่ล็อคดาวน์เด็ดขาด มาลองดูว่าจะเป็นเช่นไร?

'หมอจุฬาฯ'ชี้เปรี้ยง เมื่อรัฐบาลไม่ล็อคดาวน์เด็ดขาด มาลองดูว่าจะเป็นเช่นไร?

30 ธ.ค. 2563

30 ธ.ค.63 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat โพสต์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ล

ขายช้าง 7 เชือกหลังนักท่องเที่ยวไม่มาทำรายได้หดช่วงโควิด-19

ขายช้าง 7 เชือกหลังนักท่องเที่ยวไม่มาทำรายได้หดช่วงโควิด-19

21 ก.ค. 2563

มูลนิธิอนุรักษ์ช้าง และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับภาคประชาชนช่วยกันระดมทุนซื้อช้าง 7 เชือกจากช้างเผือกฟาร์มดำเนินสะดวก หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นักท่องเท

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

17 ก.ค. 2563

‘โรงเรียนหัวหิน’สุดเจ๋ง สร้างหุ่นยนต์ Lego เจลล้างมือสู้โควิด-19

‘โควิด-ASF’ป่วนอุตสาหกรรมหมูโลก ถึงเวลาหมูไทยผงาด

‘โควิด-ASF’ป่วนอุตสาหกรรมหมูโลก ถึงเวลาหมูไทยผงาด

29 มิ.ย. 2563

ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 หลายประเทศมีสัญญาณการระบาดระลอกที่ 2 ทั้งในสหรัฐ ยุโรป จีนและเกาหลีใต้ ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ของผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ของโลก

ไทยชนะทำ‘สายเมื่อย’แพ้! ร้านนวดเผยลูกค้าลงชื่อ-เบอร์ปลอม ผวา‘บ้านแตก’ ตัวอย่างมีแล้ว

ไทยชนะทำ‘สายเมื่อย’แพ้! ร้านนวดเผยลูกค้าลงชื่อ-เบอร์ปลอม ผวา‘บ้านแตก’ ตัวอย่างมีแล้ว

24 มิ.ย. 2563

ไทยชนะทำ‘สายเมื่อย’แพ้! ร้านนวดเผยลูกค้าลงชื่อ-เบอร์ปลอม ผวา‘บ้านแตก’ ตัวอย่างมีแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved