แจงทุกประเด็น!‘ลุงพล-ป้าแต๋น’ควงแขนแถลง เตรียมจัดระเบียบยูทูปเบอร์-สัมภาษณ์สื่อ
20 มกราคม 2564 นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ลุงและป้าของ “น้องชมพู่” พร้อมด้วย นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ร่วมแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงในกรณีต่างๆที่สังคมให้ความสงสัย
นายไชย์พล กล่าวว่า กรณีการทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าวช่องหนึ่ง ยืนยันเรื่องดังกล่าวถือเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม และไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ส่วนตัวมีนิสัยโผงผาง ไม่ได้เรียบร้อย พร้อมยอมรับผิดต่อเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้สัญญาจะไม่เกิดเหตุลักษณะนี้อีกในอนาคต อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยปิดกั้นสื่อหลัก แต่การสัมภาษณ์บางประเด็นไม่อยากตอบ ซึ่งต้องคุยกับสื่อก่อนทุกครั้ง และระยะหลังมีประเด็นมากมาย ช่วงดังกล่าวได้คุยกับ ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งว่าของดสัมภาษณ์ 2 เดือน แต่ไม่ได้คุยกับสื่ออื่น จนยูทูปเบอร์ ได้ยินเลยกันสื่อหลัก ไม่ให้เข้าใกล้ ที่สำคัญยังมีความรู้สึกดี และต้องพึ่งสื่อหลักจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ส่วนกรณีเรื่องเงินบริจาคเทพื้นสำนักสงฆ์ภูหลวง นายไชย์พล โชว์สมุดบัญชีรับบริจาค พร้อมบอกว่า ได้เงินมาจำนวน 886,934.82 บาท มีการเบิกเงินออกมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรก 1.5 แสนบาท ครั้งที่สอง 1 แสน 8 พัน 6 ร้อยบาท และครั้งที่สาม 3 แสนบาท ส่วนยอดคงเหลือตอนนี้ 328,601 บาท ในจำนวนนี้ ยังต้องจ่ายค่าปูน และค่าช่างขัดปูนด้วย
ขณะที่เงินบริจาคส่วนที่เหลือ นายไชย์พล ระบุว่า ได้พูดคุยกับพระอาจารย์สมบัติ ประธานสำนักสงฆ์ภูหลวงแล้ว โดยพระอาจารย์สมบัติปฏิเสธที่จะรับเงินส่วนนี้ ตนจึงได้แจ้งว่าจะนำไปซ่อมแซมห้องน้ำ รวมถึงศาลาการเปรียญวัดกกกอก
นอกจากนี้ยังชี้แจงประเด็นเรื่องรายชื่อเปิดบัญชี ที่มีนายธนากร ทนันไธสง หรือยูทูปเบอร์อ๋อ ซึ่งไม่ใช่คนบ้านกกกอก ร่วมเปิดบัญชี เนื่องจากตอนแรกได้มีการนิมนต์พระอาจารย์สมบัติ พร้อมคณะกรรมการสำนักสงฆ์ จำนวน 9 คนไปเปิดบัญชี แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่ใช่วัด ต่อมาจึงได้ปรึกษากันว่าจะใช้ชื่อ นายไชย์พล เป็นเจ้าของบัญชี พร้อมนำนายแถร เงินนาม หรือผู้ช่วยจ่อย และยูทูปเบอร์อ๋อ มาร่วมเปิดบัญชี เพราะคนหนึ่งเป็นผู้นำชุมชน และอีกคนเป็นตัวแทนกลุ่มยูทูปเบอร์ ที่แฟนคลับโอนเงินมาร่วมบริจาคจำนวนมาก
ขณะที่กรณีเรื่องไม้มะค่า นายไชย์พล ยืนยันไม่ได้เจตนาหลอกลวง แต่มีสิ่งลี้ลับบางอย่างเกิดขึ้นตั้งแต่เจอไม้นี้ หากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายพร้อมยอมรับ แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระบุยังไม่เคลื่อนย้ายไม้นี้ ขอฝากไว้ที่นี่ก่อน ส่วนเรื่องคลิปที่แชร์ว่าทำกริยาล้อเลียนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่หยิบมาเคี้ยวและทำท่าตรวจไม้นั้น ถือเป็นวิถีคนชาวบ้านที่เวลาเจอไม้จะดมจะเคี้ยวดู ไม่ได้ล้อเลียนบุคคลใด
ส่วนเรื่องคดีน้องชมพู่ นายไชย์พล กล่าวว่า ดีใจที่ตำรวจจะสามารถจับคนร้ายได้จริง ยืนยันคนร้ายไม่ใช่ตัวเองและป้าแต๋นแน่นอน ซึ่งรายละเอียดทุกอย่างกับตำรวจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็เหมือนเดิม ส่วนชาวบ้านที่เข้าเครื่องจับเท็จและพยานแวดล้อมจะให้การอย่างไรก็เป็นไปตามสิทธิ์ และที่สำคัญทุกวันยังนอนหลับสบาย ตื่นเช้าปกติ ก่อนนอนสวดมนต์ตลอด
“หากสิ่งที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) บอกว่า คนร้ายที่ทำรู้อยู่แก่ใจ คงนอนไม่หลับ ไม่ใช่ตัวเองแน่นอน สำหรับประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พูดว่าคนร้ายที่ทำน้องชมพู่เป็นกลุ่มไสยศาสตร์ หาเด็กบริสุทธิ์ ทำพิธีตัดเหล็กไหล ได้ค่าตอบแทนหลักสิบล้านบาท รายละเอียดส่วนนี้ให้ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ” นายไชย์พล กล่าว
นายไชย์พล กล่าวด้วยว่า ด้านเรื่องยูทูปเบอร์ ที่มีประเด็นทั้งคุกคามชาวบ้าน และการกีดกันสื่อและทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนเกิดการร้องเรียนให้ออกจากหมู่บ้านนั้น ตนจะดูแลกลุ่มนี้ หากคนไหนทำไม่ดี พฤติกรรมไม่เหมาะสม จะไม่ให้อยู่พื้นที่ และดูแลกันเอง ส่วนการที่บอกให้ลบคลิปบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ยืนยันเป็นเรื่องจริง เพราะบางครั้งยูทูปบอร์ก็ถ่ายภาพไม่เหมาะสม ตอนที่มีพฤติกรรมหรือการหยอกล้อ ที่ไม่เหมาะสม จึงสั่งให้ลบ ไม่ใช่การปกปิด เรื่องราวพฤติกรรมไม่ดี และหากชาวบ้านหรือสื่อได้รับผลกระทบจากยูทูปเบอร์สามารถมาแจ้งได้ทันที จากนี้พร้อมจะให้สัมภาษณ์สื่อตามปกติ แต่มีเงื่อนไข ต้องบอกประเด็นสัมภาษณ์ก่อน และหากสื่อไม่ต้องการให้ยูทูปเบอร์ มาถ่ายตอนสัมภาษณ์ก็แจ้งตนได้
ส่วนนายรัชพล กล่าวว่า ปมที่ทำให้ นายไชย์พล ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากนายไชย์พล ถูกความเครียดรุมเร้า อาทิ ปัญหาเรื่องการครอบครองไม้ , เรื่องเงินบริจาค และเรื่องเครื่องดักฟัง ซึ่งนายไชย์พล ถือเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่นักแสดง จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้มากเท่าที่ควร โดยหากสำนักข่าว จะดำเนินคดีถึงที่สุดพร้อมยอมรับเพราะทำผิดจริง
ขณะที่นางสมพร กล่าวว่า ส่วนตัวคือชาวบ้านปกติ ไม่ใช่ดารา หากย้อนเวลากลับไปต้องการเป็นชาวบ้านปกติ เหมือนเดิม
ด้านนางจำลอง แดนกาไสย ชาวบ้านกกกอก บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ นายไชย์พล ทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าว ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายไชย์พล ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะคงมีความเครียด จึงเกิดความกดดัน พร้อมมองว่า นายไชย์พล ไม่ได้กระทำรุนแรง ดูเป็นการหยอกล้อกัน เชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขณะนี้แม้เจ้าหน้าที่จะมาตรวจสอบแล้ว พบไม้ท่อนนี้ ไม่ใช่ไม้ตะเคียน แต่เป็นไม้มะค่าแต้ หรือไม้มะค่าหนาม ส่วนตัวยังเชื่อว่าเจ้าแม่โสรภียังสิงสถิตอยู่ในท่อนไม้ท่อนนี้ ซึ่งในอนาคตหากถูกยกไปที่อื่น ก็จะตามไปขอเลขที่นั่น
สอดคล้องกับนางพงษ์สุดา เชื้อคนแข็ง หรือย่าอชิ ชาวบ้านกกกอก กล่าวว่า ถ้า FC ให้ย่ารำให้ย่าก็รำ เพราะว่าเป็นประเพณีของบ้านเรา ประเพณีผู้ไทย เลี้ยงผีมาตั้งแต่ปู่ย่าตายายแล้ว ประเพณีหมอเหยา จ้ำปู้ตา และจ้ำบ้านจ้ำเมืองเป็นหลักบ้านของผู้ไทยถือประเพณีมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เห็นว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะยกไม้ท่อนไม้มะค่าไป ตนเองก็ไม่ได้ห้าม ก็จะรำถวายองค์ปู่พญานาคต่อไป รำถวายปู่พญานาคแล้วแต่ FC จะมีน้ำใจให้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ไม่มีอะไร ไม่เรียกร้องแล้วแต่จะให้
ด้านหมอเข้ม หมอธรรมตาทิตย์ ชาวบ้านกกตูม กล่าวว่า เหล็กไหลมีอยู่จริงมีตัวผู้และตัวเมีย ถ้าตัวเมียอยู่ด้วยจะไม่ไปไหน และความเชื่อชาวบ้านว่าเหล็กไหลอยู่คงกะพัน แต่ไม่มีชาวบ้านคนไหนได้ครอบครองเหล็กไหล ไม่มีใครได้ มีคนเชื่อว่าไม่มีแต่มี แต่ไม่ได้ลบหลู่ มันไม่ใช่ของเราเอามาไม่ได้ กรณีเรื่องน้องชมพู่ เอาตนไปตัดเหล็กไหลนั้น ตนเองว่าทำไม่ได้ จะเอาไปตัดเหล็กไหลนั้นเป็นไปไม่ได้ ขนาดมีวิชาแก่กล้า มันไม่ใช่ของเจ้าของยังตัดไม่ได้ หยดยาวลงมาจากถ้ำ ยังหดขึ้นเหมือนเดิม มีสิ่งเดียวที่ตัดได้คือขวายเทวดารามสูร และชาวบ้านยังมีความเชื่อเรื่องเหล็กไหล
นอกจากนี้จากการสังเกต พบที่บริเวณศาลเจ้าแม่โสรภี ยังมีชาวบ้านมากราบไหว้ จุดธูปเทียน โรยแป้ง และทำพิธีแก้บน อยู่อย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี