นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ราชบุรี เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี สมัยที่ 1 ประจำปี 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึก อบจ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ถึงนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดราชบุรีว่า ในการประชุมสภาฯ ตนได้แถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีหลักการคือขอให้ เชื่อมั่น มั่นใจเราจะขับเคลื่อนราชบุรีไปด้วยกัน โดยมีนโยบายการพัฒนาเร่งด่วน คือ การพัฒนาพื้นที่เขาแก่นจันทน์ สวนสาธารณะจักรีอนุสรณ์สถาน และศูนย์เครื่องจักรกลของ อบจ.ราชบุรีให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ สวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ สถานที่ออกกำลังกาย สถานที่จัดกิจกรรมและเป็นปอดใหญ่ใจกลางเมืองราชบุรี
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายการพัฒนาด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการเกษตรที่ปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมและบริการท้องถิ่น จัดให้มีระบบข้อมูลเพื่อการจัดการอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมและพัฒนาสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พัฒนาระบบนิเวศท้องถิ่น การขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ ส่งเสริมการปลูกไม้มีค่าเป็นพืชเศรษฐกิจ สนับสนุนการรวมกลุ่มสร้างเครือข่ายเพื่อประสานแลกเปลี่ยนความรู้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชื่อมกิจกรรมร่วมกัน
ด้านสาธารณสุขและการกีฬา ส่งเสริมการออกกำลังกาย สนับสนุนกีฬาทุกประเภท สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีสุขภาพดี ส่งเสริมและพัฒนาการกีฬาทุกประเภทเพื่อเป็นศูนย์กลางกีฬาจังหวัดราชบุรี
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้การคมนาคมและขนส่งผลผลิตได้สะดวก รวดเร็ว การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง การพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรอย่างทั่วถึง ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมการบริหารจัดการน้ำในชุมชนตามแนวพระราชดำริโดยจัดหาแหล่งน้ำแบบบูรณาการให้เพียงพอต่อความต้องการ
ด้านการเมืองการบริหารมีนโยบายบริหารโดยใช้หลักธรรมมาภิบาลส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารและพัฒนาท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งจากฐานราก พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ และเผยแพร่ข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง
นายวิวัฒน์ กล่าวถึงแผนการปรับปรุงพัฒนาบริเวณเขาแก่นจันทน์ ในระหว่างที่เดินทางขึ้นไปสักการะพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือพระสี่มุมเมือง บนยอดเขาแก่นจันทน์พร้อมสำรวจพื้นที่เตรียมปรับปรุงพัฒนาบริเวณเขาแก่นจันทน์ให้เป็นจุดพักผ่อน แลนด์มาร์กแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองราชบุรีด้วยว่า ทาง อบจ.มีแนวคิดเตรียมปรับปรุงห้องสุขาในศาลาเอนกประสงค์ ติดไฟฟ้าส่องสว่างตรงเส้นทางขึ้นบันได เพิ่มให้มีห้องอาบน้ำ สำหรับผู้มาออกกำลังกาย การขยายเวลาเปิด ปิด การขึ้นเขาแก่นจันทน์ เสาร์ อาทิตย์ ขอเปลี่ยนเป็นเปิดเวลา 03.00 น.ให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลสนามหญ้าให้เขียวอยู่สม่ำเสมอ
ปรับปรุงน้ำพุให้ใช้งานได้ตลอดในช่วงเวลาที่มีการออกกำลังกาย จัดระเบียบรถบรรทุกผักที่มักจะนำมาจอดบริเวณสวนสาธารณะ ควรมีการลงทะเบียนรถ ทำป้ายห้ามสูบบุหรี่ ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดภายในสวน ทำลู่วิ่งเหมือนสนามกีฬา ปรับปรุงเส้นทางขึ้นเขาขอตีเส้นทางขึ้นจักรยานขึ้น ลง จัดระเบียบที่จอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์สำหรับผู้มาออกกำลังกาย จัดระเบียบร้านค้าให้เป็นแถวระเบียบเรียบร้อยสำหรับการขายของ สร้างฟิตเนสเก็บเงินค่าบริการแบบไม่แพงมาก จัดที่ทิ้งขยะให้ดูสวยงามและขอให้มีศาลาพักระหว่างทางขึ้นเขาประมาณ 3 จุด
นายวิวัฒน์ เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นโครงการเร่งด่วนที่คณะผู้บริหารจะได้พัฒนาสวนสาธารณะแห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของราชบุรี เป็นสถานที่พักผ่อนให้คนมีสถานที่ออกกำลังกาย เป็นสถานที่จัดกิจกรรม เป็นลานกีฬา นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขึ้นไปสักการะบนยอดเขาแก่นจันทน์ได้ จะไปพัฒนาบนยอดเขาให้เป็นจุดชมวิว ชมเมืองราชบุรีด้วย เท่าที่พบเห็นมาหลายปีแล้วที่ชาวราชบุรีให้ความสนใจสถานที่ตรงนี้ โดยการมาออกกำลังกาย และพักผ่อนกันมีจำนวนมากขึ้น แต่สถานที่อาจจะรองรับไม่เพียงพอคับแคบไป ส่วนบริเวณกองช่างมีพื้นที่อยู่ประมาณ 30 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ดูแลอยู่จึงคิดว่าจะย้ายกองช่างออกเพื่อยกพื้นที่นี้ให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ทำให้มีพื้นที่มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี