บรรยากาศรอบ "พุน้ำโซดา" พ่อค้าแม่ขาย รวมทั้งแม่ค้าลอตเตอรี่ตั้งร้านขายของคึกคัก ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) ยืนยันชาวห้วยกระเจาได้น้ำดื่มสะอาดตามาตรฐานน้ำดื่มแน่นอน ส่วนน้ำที่มีรถชาดซ่าคล้ายโซดา เหตุมีแร่ไบคาบอร์เนตผสม ส่วนปัญหาที่ตั้งบ่ออยู่นอกเขตตำบลห้วยกระเจา ไร้ปัญหา ผู้นำตั้งโต๊ะคุยกันลงตัว
ความคืบหน้ากรณีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลโดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผอ.สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล น.ส.อัคปศร อัคราช ผอ.ส่วนวิจัยและพัฒนางานสำรวจน้ำบาดาล นายทะนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) พร้อมทีมงานลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา และ ต.บ่อพลอย อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งสามารถเจาะบาดาลได้ทั้งหมด 4 บ่อในพื้นที่
แต่ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยทั้งประเทศก็คือรสชาติของน้ำซ่าคล้ายโซดา ซึ่งถือว่าเป็นบ่อบาดาลแห่งแรกของประเทศไทย แต่ขณะเดียวกันบ่อบาดาลที่มีรสชาติซ่าคล้ายโซดานั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ 12 ต.บ่อพลอย ชาวบ้านจึงเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาไม่สามารถกระจายน้ำไปให้ชาว ต.ห้วยกระเจาได้
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (13 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจบรรยากาศที่บริเวณบ่อบาดาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 12 ต.บ่อพลอย อ.ห้วยกระเจา อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลปรากฎว่ามีประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางมาชมบ่อบาดาลเป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายลอตเตอรี่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากที่วานนี้มีเพียงแค่ประมาณ 2 ราย ส่วนร้ายค้าที่เป็นรถเข็นขายน้ำอัดลม ลูกชิ้น และอื่นๆ ก็เพิ่มขึ้นร่วม 10 ร้าน จากที่วานนี้มีแค่ร้านเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้บรรยากาศมีความคึกคักเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภายในบริเวณเต้นท์พบนายนายภัชรพล สืบดา กำนันตำบลห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา นายสิริพงศ์ สืบเนียม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา นายจักรกฤษ บางอ้อ กำนันตำบลบ่อพลอย พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังนั่งประชุมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับที่ตั้งของบ่อบาดาล ผลการปรึกษาหารือเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยไม่มีปัญหาซึ่งทางฝั่งกำนันตำบลบ่อพลอยก็ยินดีที่จะให้ใช้พื้นที่เพราะชาวตำบลห้วยกระเจามีความเดือดร้อนเรื่องภัยแล้งมาอย่างยาวนาน
ต่อมาพบนายทะนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.รสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) เดินทางมาติดตามความคืบหน้า พร้อมกับให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เบื้องต้นขอกล่าวอ้างถึงที่มาที่ไปที่เราเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ตรงนี้ก่อนว่าโปรเจคของทางกรมน้ำบาดาลที่เข้ามาดำเนินการในพื้นที่บริเวณนี้ ก็เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำให้กับชาวตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้มีน้ำกินน้ำใช้ที่สะอาด เนื่องจากที่ผ่านมานั้นชาวตำบลห้วยกระเจามีปัญหาการขาดแคลนน้ำมาโดยตลอดตั้งแต่มีการก่อสร้างหมู่บ้านบ้านมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยไม่เคยมีแหล่งน้ำที่ใดมารองรับการขาดแคลนแหล่งน้ำได้เลย
โครงการของเราก็คือการ ลงพื้นที่สำรวจและเจาะสำรวจ เราได้ผลการเจาะสำรวจบริเวณนี้แล้ว เราก็มาดำเนินการออกแบบระบบที่จะแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำกินน้ำใช้น้ำเพื่อการเกษตรการออกแบบระบบของเราก็จะมีระบบหอถัง ระบบกระจายน้ำ และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ สำหรับชาวบ้านของอำเภอห้วยกระเจาขอยืนยันได้แน่นอนว่าน้ำที่ชาวบ้านจะมีกินในอนาคตจะเป็นน้ำที่สะอาดถูกหลักอนามัย ตามมาตรฐานน้ำดื่มอย่างแน่นอน
ถามว่าน้ำบาดาลที่ได้มานั้นนอกจากตำบลห้วยกระเจาจะใช้ประโยชน์แล้ว ประชาชนจะได้ใช้น้ำครอบคลุมพื้นที่ติดต่อกันคือตำบลบ่อพลอยด้วยหรือไม่นั้น ซึ่งเป้าหมายเรามาช่วยในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจาก่อน เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้มีการขาดแคลนน้ำเป็นอย่างมาก เราจึงมีการลงพื้นที่มาสำรวจและเจาะสำรวจ ผลการเจาะสำรวจนั้นเป็นขั้นตอนแรกเท่านั้นเองซึ่งก็ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตกใจในเรื่องนี้
ส่วนสาเหตุที่น้ำบ่อบาดาลมีรสชาดซ่าคล้ายน้ำโซดานั้นเนื่องจากพื้นดินข้างล่างมีแร่ธาตุไบคาร์บอเนต น้ำจึงมีส่วนผสมของแร่ไบคาบอร์เนตด้วย จึงทำให้น้ำมีทั้งความหวานและความซ่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลของเราได้น้ำตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์คุณภาพน้ำแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี