ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวถึงผลการศึกษาวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จากวารสารขององค์กรวิชาชีพทางการแพทย์และมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา องค์กรด้านสุขภาพปอดของสหรัฐอเมริกา สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา และสมาคมทรวงอกแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งระบุตรงกันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูบบุหรี่มากกว่าที่คิด แนะนำให้หลีกเลี่ยง ห้ามใช้ หรือจำกัดการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า
วารสารดังกล่าวรายงานผลการศึกษาวิจัย ระหว่างปีพ.ศ.2561-2563 ทั้งด้านที่สนับสนุนและต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้า กลับให้ผลในทิศทางเดียวกัน โดยขอบเขตการศึกษาวิจัยรวม 5 ประเด็นคือ 1.หลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าไว้ก่อนจนกว่าจะมีการวิจัยชัดเจน 2.ควรจำกัดการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ปรากฏ 3.ห้ามการโฆษณาและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า 4.สนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในการเลิกบุหรี่หรือเป็นแหล่งนิโคตินทางเลือก และ 5. สนับสนุนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในการเลิกบุหรี่มวน
ศ.นพ.รณชัยกล่าวต่อไปว่า ผลการศึกษาจากวารสาร 56 ฉบับ ใน 81 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 69.1 ได้สรุปข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยระบุให้หลีกเลี่ยงการใช้ ห้ามใช้ หรือจำกัดการเข้าถึง นอกจากนี้ การทบทวนผลงานวิจัย จำนวน 3,793 เรื่อง ของวารสารสมาคมทรวงอกแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ปี 2563 ให้ข้อสรุปว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภคที่นำมาใช้เพื่อการพักผ่อน หรือใช้แทนการสูบบุหรี่ หรือใช้ในระยะยาวสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ โดย
ผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกบุหรี่ควรใช้วิธีการอื่นที่มีประสิทธิผลและปลอดภัยมากกว่า เช่น การบำบัดด้วยยาร่วมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี