“วัยแรงงาน” เป็นช่วงวัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กรไม่ว่าหน่วยงานของรัฐและเอกชน “สวัสดิการแรงงาน” จึงมีความสำคัญในฐานะเครื่องมือช่วยให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตของแรงงานดี มีความสุขในการทำงาน ส่งผลต่อประสิทธิภาพของงานซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งต้นสังกัดและชาติบ้านเมือง
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการจัดงานเสวนา (ออนไลน์) หัวข้อ “แรงงานและสวัสดิการที่ควรรู้ เพื่อการทำงานอย่างมีความสุข” โดยสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย (RILCA) มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่ง กฤษฎา ธีระโกศลพงศ์นักวิชาการอิสระด้านแรงงาน กล่าวว่าหากมองถึงเรื่องสวัสดิการจะไม่มองแค่การช่วยเหลือทางสังคมหรือการบริการทางสังคมเพียงอย่างเดียว จะต้องครอบคลุมถึงเรื่องการรักษาพยาบาล การศึกษา และการทำงาน หรือรวมไปถึงกิจกรรมงานอดิเรกต่างๆ ด้วย
เพื่อให้รองรับกับการเผชิญความเสี่ยงของเศรษฐกิจและสังคมซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 โดยเทคโนโลยีจะมาแข่งขันกับคน หรือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ต้องดูด้วยว่าสวัสดิการจะเข้ามาตอบโจทย์ในบริบทแต่ละช่วงเวลา การคุ้มครองทางสังคมจะไม่ได้มองว่าสวัสดิการเป็นความต้องการปัจจัยขั้นพื้นฐานอย่างเดียว แต่จะมองเรื่องของสิทธิด้วย ซึ่งในปัจจุบันสวัสดิการมักจะเป็นเรื่องของมาตรฐานขั้นต่ำ ประชาชนไม่เคยได้รับสวัสดิการที่สูงกว่านั้นตามมาตรฐานแรงงานสากล หรือกฎหมายระหว่างประเทศ
เช่น “ค่าจ้างขั้นต่ำ” ซึ่งทำไมยังอยู่แค่ 300 กว่าบาท ซึ่งสวนทางกับค่าครองชีพที่สูงมาก จึงทำให้ไม่พอใช้จ่าย หรือ “การศึกษาภาคบังคับ” ที่มองว่าเป็นนโยบายการศึกษาหรือเป็นสวัสดิการของคน แต่ไม่สามารถตัดขาดจากเรื่องของสวัสดิการได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังมองแค่ว่าการศึกษาภาคบังคับจะต้องเรียนกี่ปีถึงกี่ปี แต่ไม่ได้มองเรื่องของคุณภาพของการศึกษาควบคู่กันด้วย
“เมื่อพูดถึงสวัสดิการจะต้องนึกถึงแรงงาน ซึ่งมุมมองในเรื่องนี้จะอยู่ที่การมองว่าจะให้กลุ่มเหล่านี้เป็นอะไร ถ้าหากมองว่าแรงงานเป็นปัจจัยการผลิต หมายความว่าแรงงานมีมูลค่าไม่เท่ากับเครื่องจักรอย่างแน่นอน จึงเป็นเหตุให้แรงงานถูกเอารัดเอาเปรียบและเกิดการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แต่ถ้าหากมองว่าแรงงานเป็นสิ่งมีชีวิต หมายความว่าแรงงานเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม” กฤษฎา กล่าว
นักวิชาการผู้นี้ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า “การแบ่งระหว่างแรงงานนอกระบบ และแรงงานในระบบ เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้แรงงานนอกระบบจะไม่ได้รับการปฏิบัติ หรือการเข้าถึงมาตรการหรือนโยบายของรัฐ” แต่ถึงกระนั้น “การยกเลิกเส้นแบ่งระหว่างแรงงานก็เป็นเรื่องยากเพราะในระดับสากลก็ใช้สิ่งเหล่านี้ในการเก็บข้อมูลทางสถิติ” ซึ่งเมื่อพูดถึงสวัสดิการแรงงานนอกระบบ แทบจะไม่มีเพื่อรองรับกลุ่มเหล่านี้ เห็นได้จากการที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ เนื่องจากไม่มีรายการเดินบัญชี (Statement) เพื่อยืนยันรายได้ จึงไม่สามารถกู้เงินเพื่อมาประกอบอาชีพได้
นอกจากนี้ นโยบายของรัฐก็ไม่มีความชัดเจนกับแรงงานนอกระบบจึงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นคงทางอาชีพ และยังสะท้อนให้เห็นว่าภาครัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ในนช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่ามีมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือทางสังคม รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตให้มากพอกับค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะจะทำให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้าน ว่าที่ ร.ต.(หญิง)ศิริวรรณ สมศรี เจ้าหน้าที่แรงงานสัมพันธ์ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สวัสดิการแรงงานในระบบมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการต้องจัดสวัสดิการตามพื้นฐานของกฎหมายแรงงาน โดยพื้นฐานจะต้องมีวันลางาน วันหยุดตามกฎหมาย มีค่ารักษาพยาบาล มีประกันสังคม หรือนอกเหนือจากกฎหมายพื้นฐาน แต่บางบริษัทก็มีสวัสดิการที่มากไปกว่านั้น เช่น มีที่พักฟรี อาหารกลางวันฟรี หรือมีรถรับ-ส่งฟรี เป็นต้น
“เวลาแรงงานเลือกที่ทำงาน จะเลือกบริษัทที่มีสวัสดิการที่ดีกว่า เนื่องจากสวัสดิการเหล่านี้สามารถทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น แรงงานข้ามชาติในมหาชัย ซึ่งแรงงานที่นำเข้ามาส่วนใหญ่จะไม่มีญาติพี่น้อง ทำให้สถานประกอบการมีสวัสดิการเอื้อต่อแรงงานเช่น มีที่พักอาศัยให้ และมีสวัสดิการที่ทำให้ความเป็นอยู่แรงงานเหล่านี้ดีขึ้น เมื่อสวัสดิการครอบคลุมจะทำให้คุณภาพชีวิตของแรงงานดีขึ้น สิ่งสำคัญต่อมาคือแรงงานรู้สึกรักและผูกพันองค์กรดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือผลผลิตที่แรงงานผลิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ว่าที่ ร.ต. (หญิง)ศิริวรรณ กล่าว
ว่าที่ ร.ต.(หญิง)ศิริวรรณ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นควรมี 3 สิ่งนี้ ได้แก่ 1.ที่พัก ควรจัดสรรที่พักให้กับแรงงานโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายจากพนักงาน 2.อาหารกลางวัน ควรมีอาหารกลางวันฟรีให้กับแรงงาน และ 3.รถรับ-ส่ง ควรมีรถไปรับและไปส่งแรงงานเพราะส่วนใหญ่รายได้ของแรงงานจะถูกใช้จ่ายกับหอพัก การกิน การเดินทางจึงทำให้ไม่มีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
หากสถานประกอบการมี 3 สิ่งนี้จะทำให้แรงงานในสถานประกอบการจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังสะท้อนคุณภาพชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้นด้วย!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี