นพ.ธเนศ ผู้อำนวยการ รพ.ปากช่องนานา เล่าเหตุการณ์จาก รพ.สนาม มีผู้ป่วยเด็กติดโควิดกว่า 20 ชีวิต โดยมีเด็กชายไม่ยอมทานข้าว อาละวาด ขว้างปาข้าวของ เนื่องจากถูกแยกตัวมารักษาเพียงลำพังและคิดถึงแม่ สุดท้ายต้องปรึกษาทีมจิตเวช จึงอนุญาตให้แม่ใส่ชุด PPE เข้าเจรจา หมอเผยกอดสุดท้ายก่อนลาของแม่ลูกทำเอาน้ำตาซึม
28 เม.ย.64 นพ.ธเนศ ผู้อำนวยการ รพ.ปากช่องนานา อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Thanet Santirojanakul" เลา่าเรื่องราวจาก รพ.สนาม มีผู้ป่วยเด็กติดโควิดกว่า 20 ชีวิต โดยมีเด็กชายไม่ยอมทานข้าว อาละวาด ขว้างปาข้าวของ เนื่องจากถูกแยกตัวมารักษาเพียงลำพังและคิดถึงแม่ สุดท้ายต้องปรึกษาทีมจิตเวช จึงอนุญาตให้แม่ใส่ชุด PPE เข้าเจรจา หมอเผยกอดสุดท้ายก่อนลาของแม่ลูกทำเอาน้ำตาซึม
โดยข้อความระบุว่า "วันนี้ยาวนิดนึงครับ ความผูกพันของพ่อแม่ลูกเป็นเรื่องที่ซับซ้อนละเอียดอ่อน จนบางทีผมเอง ที่ยังไม่มีโอกาสเป็นพ่อคน อาจไม่เข้าใจ จนกระทั่งหัวค่ำคืนนึง ราวๆ1ทุ่ม มีโทรศัพท์จากหอผู้ป่วยโควิดที่ถูกเนรมิตจากห้องประชุม เพื่อรองรับคนไข้เกือบ 50 เตียง "คุณหมอคะ น้องไม่ยอมทานข้าว อาละวาด ขว้างปาข้าวของใหญ่เลยค่ะ" ผมรีบถาม"เกิดอะไรขึ้นครับ" พยาบาลรีบตอบสวนมาโดยไม่ทันรอผมเอ่ยคำถามจนจบ "น้องคิดถึงคุณแม่ค่ะ" เอาหล่ะสิ กะไว้แล้ว น้องเข้ามานอนโรงพยาบาลสนามเพียงลำพัง โดยคุณพ่อคุณแม่เป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงสูง ที่ตรวจไม่พบเชื้อ เอาไงดีหล่ะ ผมว่าคุณแม่เองก็คงคิดถึงน้องมากๆ ไม่แพ้กันแน่ๆ หลังจากผมและทีมตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมก็รีบโทรปรึกษาผู้ใหญ่และพี่ทีมจิตเวช ได้ข้อสรุปเห็นพ้องต้องกัน จึงรีบให้ทีมโทรตามคุณแม่มาที่โรงพยาบาลทันที
ผมมาถึงโรงพยาบาลสนาม คุยวางแผนกับทีมเล็กน้อย เพียงไม่ถึง 15 นาที คุณแม่ก็มาถึง เร็วเกินคาด แต่คงนานมาก สำหรับหัวใจของแม่คนนึง ผมตัดสินใจสวมชุดหมี PPE cover all ก่อน และสอนคุณแม่ใส่ชุด PPE cover all เช่นกัน ระหว่างนั้นก็แอบทำข้อตกลงกันเล็กน้อย จากนั้นเราสองคนเปิดประตูก้าวเข้าสู่โถงห้องประชุม มุ่งหน้าตรงไปที่เตียงของน้อง รอยยิ้มแบบเก็กๆ กลัวเสียฟอร์มของเด็กชายคนหนึ่ง แต่ไม่อาจหลบสายตาที่มองผ่านเฟซชิลด์ของผมได้ "น้องครับ หมอพาคุณแม่มาหา แต่เราต้องมีข้อตกลงกันก่อนนะครับ" เด็กน้อยพยักหน้าตามทันที "วันนี้หมอพาคุณแม่มาเยี่ยมได้แค่วันเดียวนะ เพราะถ้าคุณแม่เข้ามาหาบ่อยๆ คุณแม่จะอันตราย น้องไม่อยากให้คุณแม่เป็นอันตรายใช่ไหมครับ" เด็กน้อยพยักหน้าตลอดจนผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจผมพูดหรือเปล่า
แต่เอาน่าลุยต่อ "เดี๋ยวหมอให้อยู่กับคุณแม่แป๊บนึงนะ แต่ต้องสัญญาว่าหลังจากนี้ น้องจะเข้มแข็ง อีก 12 วันก็ได้เจอกันแล้ว ค่อยโทรคุยกับคุณแม่ทุกวัน ตกลงไหมครับ" คุณแม่ก็หันไปยิ้ม พร้อมให้กำลังลูก นาทีนี้ผมนับถือหัวใจคุณแม่มากๆครับ ผมรู้ว่าคุณแม่เองก็ไม่ไหว แต่ต้องกลั้นน้ำตา ทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าลูกไว้ ผมปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันสักพัก แอบมองตอนเขากอดกัน น้ำตาซึมไปด้วยเลยครับ พอได้เวลาสักพัก ผมจึงเข้าไปคุยขอตัวคุณแม่ออกมา กอดสุดท้ายก่อนออกจากห้อง เล่นเอาผมเกือบร้องตาม จากนั้นผมพาคุณแม่ออกมา คุมกำกับการถอดชุดหมี ทีละชิ้นอย่างระมัดระวังที่สุด สุดท้ายคุณแม่บอกกับทีมว่า ขอบคุณมากๆ และเข้าใจความลำบากของแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนแล้ว ว่าการใส่ชุดหมีทำงาน ทั้งเหนื่อย ร้อน หายใจลำบากแค่ไหน เขาใส่แค่แป๊บเดียวก็เกือบไม่ไหวแล้ว
ก่อนจากกันคุณแม่และพวกเรา ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจกันและกัน แบบใส่หน้ากากอนามัย และเว้นระยะ 2 เมตร social distancing จบคืนนี้ด้วยรอยยิ้ม ลุ้นวันต่อไป ว่าน้องจะงอแงอีกไหม 555 สุดท้ายน้องเข้มแข็งขึ้น เริ่มเล่นกับเพื่อน หายห่วงแล้วลุงหมอ ป.ล. ตอนนี้รพ.สนามเรา กลายสภาพเป็นเนอสเซอรี่สนาม รองรับเด็กน้อย กว่า 20 ชีวิต (เยอะพอๆกับคนไข้ผู้ใหญ่) วุ่นวายพอสมควร แต่มีรอยยิ้มได้ทุกวัน ลุงหมอ ทีม และเพื่อนๆ ต้องช่วยกันจัดหาขนม นมกล่องมาให้ทุกวัน หากใครสนใจมาบริจาคร่วมกันได้นะ แจ้งมาที่ผมได้เลยครับ ดูแลลูกๆหลานๆชาวปากช่องเราด้วยกันนะครับ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี