เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก "เรื่องเล่าหมอชายแดน" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ว่าด้วยเรื่องโควิดในเรือนจำ
ช่วงนี้มีผู้ป่วยโควิด 19 เกิดขึ้นในเรือนจำหลายแห่งรู้สึกเป็นกังวลมากเพราะเรือนจำเป็นพื้นที่แออัด ถึงอยากจะทำมาตรการควบคุมโรคให้ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ดีได้ เริ่มต้นตั้งแต่การคัดกรองขาเข้าจะต้องเพอร์เฟคมากพอที่จะไม่ให้มีใครนำโควิดเข้าไป ระหว่างที่กักขังอยู่ข้างในนั้นก็ต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง..ระยะห่างทิพย์...ที่ผ่านมาบางห้องขังรับใหม่ผู้ต้องหายังต้องยืนตลอดเพราะนั่งไม่ได้ไม่มีที่ ตอนนอนบางครั้งต้องตะแคงไว้เพราะหงายไม่ได้จะกินที่คนอื่น กลางคืนอย่าเผลอลุกไปเข้าห้องน้ำเชียว..ความแน่นมันก็แปรผันตามจำนวนคนที่เข้ามาในแต่ละช่วงเวลา นอกจากจะดูแลผู้ต้องขังแล้ว ก็ต้องดูแลผู้คุมไม่ให้นำโรคจากภายนอกเข้าสู่ภายในเรือนจำ
เรือนจำแม่สอด..เรือนจำไม่เล็กไม่ใหญ่ อยู่คู่ชายแดนไทย-เมียนมาด้านตากตะวันตกมาช้านาน คงนึกสภาพกันออกว่าห้องขังชายแดนมันจะโกลาหลขนาดไหน คดียาเสพติด คดีค้ามนุษย์ คดีลักขโมย คดีความทางเพศ..ก็มันเป็นพื้นที่สมมติที่มีความแตกต่างของทุกสิ่ง เป็นแนวป้องกันประเทศด้านยาว ที่นี่เป็นห้องขังที่ไม่เคยหลับใหลจากคดีลักลอบข้ามแดนในช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้ต้องขังที่มากกว่า 1,200 คนในพื้นที่ที่ขยายไม่ได้ การบริหารจัดการเรื่องการควบคุมโรคติดเชื้อจึงยากมากๆ ที่นี่มีพยาบาลวิชาชีพที่แข็งแกร่งมากสองท่านสามารถทำตามมาตรการที่วางไว้เป็นอย่างดี โดยทางโรงพยาบาลแม่สอดและ สสอ.แม่สอดเป็นพี่เลี้ยง
ขาเข้าจะมีหน่วยงานความมั่นคงที่ตรึงกำลังตามชายแดนเป็นผู้จับผู้กระทำความผิดมา ส่วนใหญ่ชาวเมียนมาถูกผลักดันกลับไปฝั่งโน้น ยกเว้นมีความผิดเช่นคดีนำพาเข้าเมืองผิดกฏหมาย ส่วนสัญชาติอื่นๆ เช่น โรฮิงญา ลาว มอญ จีน จะถูกดำเนินคดี หากมีการส่งต่อไปกักขังในประเทศไทยมีการพักค้างในหน่วยงานใดๆ จะมีการตรวจเอ็กซเรย์ปอด ตรวจ PCR และออกใบรับรองแพทย์หากผลปกติ ส่งต่อเจ้าพนักงานต่อไป
ขั้นตอนทุกอย่างผ่านไปจนถึงการดำเนินคดี ศาลตัดสินเสร็จเรียบร้อยก็จะพาไปเรือนจำ ห้องแรกรับเราจะเปิดไว้รับผู้ต้องขังเข้ามาเรื่อยๆและปิดที่วันที่ 7 กักต่อไปอีกจนครบ 14 วัน ทั้งหมดในห้องนี้ทุกคนจะได้รับการตรวจ PCR ในวันที่ 1 และวันที่ 13 ของการเข้าห้อง ส่วนคนที่มาวันสุดท้ายจะได้ทำเพิ่มในวันที่ 10 ด้วย ระหว่างนั้นใครมีไข้ มีอาการหวัดจะถูกตรวจทันที
พอผลเป็นลบ จะออกจากห้องนี้ไปอีกห้องหนึ่งอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไปอีก 7 วันรวมทั้งหมด 21 วัน แล้วจึงจะปล่อยออกไปรวมให้ห้องใหญ่ได้ ระหว่างนี้ใครมีอาการไข้ มีอาการหวัดก็จะตรวจทันทีเช่นกัน
เราทำแบบนี้มาเป็นแรมปี ตรวจไป 1,400 test /3 เดือนคิดเป็นเงิน 1.6 ล้าน(ยังไม่ได้คิดทั้งหมด) มีต้องหาคดีลักลอบเข้าเมืองชาวเมียนมามีผลบวกโควิด19 บ้างแต่เราก็ดับสะเก็ดไฟได้ทันเสมอก่อนที่จะลุกลามเข้าไปชั้นใน
นับว่าโชคยังช่วยได้อยู่..แต่ก็คิดไว้ตลอดแหละ ว่าวันหนึ่งมันอาจจะถึงคิวเราที่ต้องเจอ..ถ้าประเมินตัวเอง ฉันว่าทีมแม่สอดของเราทุกหน่วยทำงานได้ดีมากนะ ในจุดที่เสี่ยงที่สุด มีการลักลอบเข้าเมืองตลอดเวลา..เรายังป้องกันได้ขนาดนี้ ยกนิ้วให้ตัวเองเลยค่ะ
ตอนนี้ฉันก็ได้ดูแลผู้ต้องหาคดีลักลอบข้ามแดนชาวเมียนมารายหนึ่ง เขามีผลโควิดบวกที่ห้องกักห้องแรก โชคดีมีผู้สัมผัสเพียง 4 คน(ผลยังลบอยู่) ว่ายน้ำข้ามมาเพราะจะมาหางานทำ จะอดตายอยู่แล้ว ซักประวัติไปก็น่าสงสารคนไข้ เฮ้อ..ชีวิตที่เลือกไม่ได้ เขาไม่เรื่องมาก ให้ความร่วมมืออย่างดีทุกอย่าง วัดไข้ วัดความดันเองอย่างเก่งทั้งๆที่พูดไทยได้กระท่อนกระแท่นมาก เราก็รักษาเขาด้วยมาตรฐานเดียวกัน แอบดูเขาผ่านกล้องวงจรปิด ทั้งวันไม่ทำอะไรมาก นั่งสมาธิ สวดมนต์ ก็ไม่รู้เหมือนกันเนาะว่าความผิดความถูก ดีเลว วัดกันที่ตรงไหน.. โควิด19 มันรบกวนมนุษย์จริงๆ ไม่มีใครอยากเป็น ไม่มีใครอยากป่วย ถ้ามีพลังวิเศษ อยากเสกให้ทุกๆคนมีชีวิตที่ดีและเลือกได้
ย้ำอีกครั้งโควิดเรือนจำเป็นเรื่องท้าทาย..ไม่ตรวจก็จะไม่เจอสะเก็ดไฟ สะเก็ดไฟเล็กๆอาจกลายร่างเป็นระเบิดปรมาณูก็ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี