คนไทยไม่ทิ้งกันแม้จะเสี่ยงก็พร้อมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ที่อุดรธานีมีเหตุการณ์หนุ่มช่างแผนกเทคนิคโรงงานที่สมุทรปราการ ติดโควิด-19 ขับรถคนเดียวเดินทางไกลกว่า 700 กม.มุ่งหน้าไปรักษาตัวที่บ้านเกิดที่ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร แต่เกิดรถแบตเตอรี่รถยนต์เสียกะทันหันที่อำเภอหนองหาน พากันผวาหนักติดต่อไร้คนช่วยเพราะกลัวโควิด สุดท้ายกำนันตำบลบ้านเชียง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมจุดอำเภอิหนองหานต้องสวมใส่ชุด ppe พ่นยาฆ่าเชื้อและซื้อแบตเตอรี่ใหม่ให้เดินทางถึงบ้านเข้ารับการรักษาตัวทันที
เช้าวันนี้ (22 ก.ค.64) เวลา 08.30 น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีคนป่วยโควิด-19 เดินทางมาจาก จ.สมุทรปราการ แต่รถเกิดเสียกลางทางกลับไปยังไม่ถึงบ้านเนื่องจากแบตเตอร์รี่หมดไม่สามารถไปต่อได้ จอดอยู่บริเวณถนนสายอุดรธานี-สกลนคร ก่อนถึงปากทางเข้าบ้านปูลู ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และได้ขอความช่วยเหลือแต่ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือเพราะผวากลัวติดโควิดไปด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมด้วยนายวรินทร บุญเสริม กำนันตำบลบ้านเชียง เดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือพบกับชายคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี นั่งอยู่ในรถปิกอัพโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู จอดอยู่ริมถนน สอบถามได้ความว่า มีอาชีพเป็นช่างเทคนิคในโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคที่ จ.สมุทรปราการ จะกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิดที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เดินทางออกจาก จ.สมุทรปราการคนเดียวตั้งแต่ 05.00 น.ของวานนี้ (21 ก.ค.64) และไม่ได้แวะพักที่ไหน ง่วงนอนก็แวะข้างทางงีบหลับ ข้าวก็ยังไม่ได้ทาน แต่พอถึงบริเวณนี้รถเกิดแบตฯ เสียตั้งแต่เวลาตี 4 จึงได้ติดต่อไปยัง 191 ขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย เพราะตนแจ้งว่าตนติดโควิดด้วย โดยการเดินทางกลับบ้านไปรักษาตัวครั้งนี้ได้ติดต่อรพ.ปลายทางไว้เรียบร้อยแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง สิบเอก เอกพันธ์ ลายกิ่ง หัวหน้าอาสากู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี จุดบริการ อ.หนองหาน ซื้อแบตเตอร์รี่รถยนต์มาเปลี่ยนให้ โดยเจ้าหน้าที่ฯ ต้องใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันและมีเจ้าหน้าที่จาก อบต.บ้านเชียง มาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อรอบคันรถเพื่อเป็นการป้องกันให้ จากนั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเสริมธรรมจึงสามารถเปลี่ยนแบตเตอร์รี่รถยนต์ใหม่ รถสตาร์ทติดสามารถขับไปต่อเพื่อทำการรักษาได้
ในโอกาสนี้นายวรินทร บุญเสริม กำนันตำบลบ้านเชียง ได้ซื้อข้าวกล่องจำนวน 4 กล่องและน้ำอีก 3 ขวดมอบให้กับชายคนดังกล่าวนี้ด้วย โดยก่อนเดินทางต่อชายคนดังกล่าวได้ยกมือไหว้ขอบคุณกำนันและเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ช่วยเหลือเขาในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี