วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ตำนานพระปืด! เรื่องเล่าลี้ลับวัดปราสาทแก้ว ตั้งจิตขอพร'ยกพระเสี่ยงทาย'

ตำนานพระปืด! เรื่องเล่าลี้ลับวัดปราสาทแก้ว ตั้งจิตขอพร'ยกพระเสี่ยงทาย'

วันอาทิตย์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 08.32 น.
Tag : ตำนานลี้ลับ ทำนายพระเสี่ยงทาย พระปืด เรื่องเล่าลี้ลับ วัดปราสาทแก้ว
  •  

25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.สุรินทร์ โดยมีเรื่องเล่าของตำนานความลี้ลับ ที่มีความน่าสนใจมากๆ คือวัดปราสาทแก้ว หรือวัดพระปืด ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ.พระปืด ม.2 ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์

โดยมีตำนานความลี้ลับของตัวปราสาทแก้ว และพระปืด ที่เป็นองค์พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในตัวปราสาท รวมถึงพระเสี่ยงทาย ที่ไม่ว่าใครเข้ามากราบไหว้ขอคำทำนายเสี่ยงทาย ก็ถึงกับต้องทึ่งไปตามๆกันกับวิธีการเสี่ยงทายและผลคำทำนายที่ได้รับ


พระครูสถิตวรรัตน์ หรือพระแสงจันทร์ ฐานวโร อายุ 77 ปี เจ้าอาวาสวัดปราสาทแก้ว เล่าว่า เรื่องราวตำนานลี้ลับของปราสาทแก้วนี้คือ ปราสาทสร้างด้วยศิลาแลง ในสมัยขอม ประมาณ ค.ศ 20 และตำนานที่เล่าต่อๆกันมาคือบนยอดปราสาท จะมีลักษณ์เป็นแก้ว จึงมีชื่อว่าปราสาทแก้ว แต่ยอดปราสาทที่เป็นแก้วนั้นได้หายสาบสูญไป ซึ่งก็ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า หายไปเมื่อไหร่อย่างไร เป็นเพียงเรื่องเล่า ส่วนเรื่องลี้ลับที่ชาวบ้านเล่าต่อๆกันมา ว่าในสมัยนั้นมีกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาหาของป่า แล้วพบกับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง ที่ลักษณะคล้ายกวาง แต่ลำตัวเป็นสีทองอร่าม จากนั้นชาวบ้านที่เห็นก็พยายามวิ่งไล่ล่า และขว้างอาวุธไปถูกบริเวณขาของกวาง แล้วกวางก็วิ่งหนีหายเข้าไปในป่า

ชาวบ้านกลุ่มนั้นเดินตามหาพบเพียงลอยเลือด ที่หยดเป็นทางเข้าไปที่ตัวปราสาทแก้ว แต่พอชาวบ้านกลุ่มนี้ตามไปถึงตัวปราสาท มองเข้าไปด้านใน กลับพบเป็นองค์พระพุทธรูป ตั้งประดิษฐานอยู่ในตัวปราสาท จึงอุทานว่า เปรี๊ยะปืดๆ อีกทั้งพระพุทธรูปนั้นมีเลือดออกมาจากข้อเท้า จึงเชื่อว่า กวางทองตัวนั้นก็คือพระพุทธรูปแปลงกายมานั่นเอง

เปรี๊ยะปืด เป็นภาษากวย แปลว่า พระใหญ่ จึงเรียกว่า พระปืด มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันลอยบากที่เกิดขึ้นอยู่ที่ข้อเท้าของพระพุทธรูป ก็ยังมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือองค์พระพุทธรูปนั้นมีขนาดใหญ่กว่าช่องที่อยู่ด้านหน้าของปราสาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนยกองค์พระลอดเข้าไปตั้งประดิษฐานไว้

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2523 ก็ถูกโจรลักลอบตัดเอาเศียรไป ท่านเจ้าอาวาสได้ให้ช่างทำเศียรขึ้นมาใหม่ โดยปั้นขึ้นมาจากจิตนาการของชาวบ้านในพื้นที่ ที่จำลักษณะเศียรได้ เนื่องจากในสมัยนั้นไม่ได้มีการถ่ายภาพบันทึกเก็บไว้ จึงทำได้เพียงปั้นขึ้นมาให้คล้ายกับเศียรเดิมให้มากที่สุด

ทั้งนี้พระครูสถิตวรรัตน์ หรือพระแสงจันทร์ ฐานวโร ยังเล่าเรื่องราวความลี้ลับขององค์พระเสี่ยงทายอีกว่า พระเสี่ยงทางองค์นี้อยู่ควบคู่มากับพระปืดอยู่แล้ว ซึ่งลักษณะเป็นการปั้นขึ้นด้วยศิลปะสมัยขอม โดยองค์พระเสี่ยงทายนี้ก็เคยถูกคนร้ายขโมยไปถึง 2 ครั้ง แต่ก็เอาไปไม่ได้ ครั้งแรกชาวบ้านไปพบที่หนองน้ำบ้านบึงซึ่งอยู่ในระแวกเดียวกัน แต่เศียรถูกตัดแยกส่วนออกไป ต่อมามีชาวบ้านไปพบอยู่ในแม่น้ำเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์   

ครั้งที่สองทางเจ้าอาวาสและชาวบ้าน ได้ไปให้หมอดูทำนายตามความเชื่อ ซึ่งหมอดูทั้ง 9 คนทำนายเหมือนกันทั้งหมดว่า ไม่ต้องออกตามหา เดี๋ยวคนร้ายก็จะนำพระเสี่ยงทายกลับมาส่งคืน เวลาผ่านไปเพียง 45 วัน มีชาวบ้านไปพบที่ในทุ่งนา บ้านหนองตะครอง บรรดาชาวบ้านที่ไปพบนั้น ไม่มีใครสามารถยกองค์พระขึ้นได้ จึงพากันไปนิมนต์เจ้าอาวาสวัดปราสาทแก้ว ที่บ้านพระปืด แล้วอธิษฐานว่า หากเป็นพระคู่บ้านพระปืดจริง ขอให้ยกองค์พระขึ้นได้ พอตั้งจิตอธิษฐานแล้ว หลวงพ่อก็สามารถยกขึ้นได้โดยง่าย และนิมนต์กลับมาไว้ที่วัดปราสาทแก้วเหมือนเดิม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นจึงเป็นที่มาของความเชื่อและแรงศรัทธาต่อองค์พระเสี่ยงทายนี้

ส่วนวิธีการขอพรคำทำนายเสี่ยงทายนั้น คือต้องตั้งจิตอธิฐาน ทำจิตใจให้สงบ อธิฐานสิ่งที่อยากรู้ แล้วลองยกองค์พระขึ้น ถ้าคำอธิฐานนั้นจะเกิดขึ้นจริง ก็จะยกองค์พระขึ้นได้โดยง่าย เหมือนน้ำหนักเบา แต่ถ้าคำอธิฐานนั้นจะไม่เกิดขึ้นจริง ก็จะยกองค์พระไม่ขึ้นเลย คล้ายกับมีน้ำหนักมากจนไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นองค์พระองค์เดียวกัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

นักท่องเที่ยวโดดหนีตาย พายุพัดถล่มบ้านขุนสมุทรจีน-โฮมสเตย์พังยับ

ต้องไว้ไมตรี?! คนสนิท'พรรคส้ม'เล่าเบื้องลึก'ปชน.-พท.'กับการยื่นซักฟอก

ระทึกกลางรันเวย์! 'ไอซ์ อภิษฎา'เล่าประสบการณ์เครื่องบินมีปัญหา

'อ.ทวีสุข'ซัดใคร? อุดมการณ์แท้จริงทั้งชีวิต คือ...ทาสรับใช้นายทุน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved