4 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังอู่รถแท็กซี่ของสหกรณ์บวรแท็กซี่ บริเวณ ถ.พุทธสาคร (ฝั่งใต้-ขาเข้า ถ.พุทธมณฑลสาย 4 และ ถ.เพชรเกษม) ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังพบโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพสุสานรถแท็กซี่จำนวนมากจอดทิ้ง พร้อมกับบรรยายภาพว่าผลพวงมาตรการล็อกดาวน์จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนขับรถแท็กซี่หลายรายผ่อนต่อไปไม่ไหว ต้องยอมปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถ
แท็กซี่สภาพใหม่ ถูกจอดทิ้งจนเถาวัลย์เลื้อยพันจนรก
ซึ่งเมื่อไปถึงพบสภาพเป็นอู่รถจอดเกือบทิ้งร้าง ด้านหน้าในส่วนของสำนักงานถูกปิดเงียบ ส่วนด้านหลังเป็นลานจอดรถแท็กซี่ รถส่วนใหญ่มองภายนอกสภาพยังดูใหม่ แต่หลายคันถูกปล่อยทิ้งจนมีหญ้าขึ้นและเถาวัลย์พันรก โดย นายฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล ที่ปรึกษาสหกรณ์บวรแท็กซี่และราชพฤกษ์แท็กซี่ พาผู้สื่อข่าวเดินดูรถแต่ละคัน ซึ่งหลายคันเมื่อเปิดฝากระโปรงรถดูพบว่าสภาพเครื่องยนต์ผุพังทรุดโทรม
ฐาปกรณ์ อัศวเลิศกุล ที่ปรึกษาสหกรณ์บวรแท็กซี่และราชพฤกษ์แท็กซี่ โชว์รูปที่คนขับแท็กซี่ในกลุ่มส่งมาให้ดูว่าแต่ละวันดำรงชีวิตอยู่อย่างไร
นายฐาปกรณ์ เปิดเผยว่า อาชีพขับรถแท็กซี่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การระบาดระลอกแรก รถแท็กซี่หลายคันที่จอดที่นี่จอดมาแล้วเกือบ 2 ปี แต่หนี้สินก็ไม่หยุด ซึ่งปัจจุบันรายได้เฉลี่ยของคนขับอยู่ที่เพียงวันละ 300 บาทต่อวัน ซึ่งหักค่าเชื้อเพลิงแล้วเหลือเพียงไม่เกิน 100 บาท โดยรถแท็กซี่ 1 คันราคา 1.2 ล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยจะอยู่ที่คันละ 1.5 ล้านบาท วันนี้ที่จอดเท่ากับมีหนี้ 5-7 แสนบาทต่อคัน ซึ่งตนวิงวอนบริษัทไฟแนนซ์และลิสซิ่งอย่าคิดเบี้ยปรับ และให้ลดดอกเบี้ยลงมาให้เท่ากับรถยนต์ทั่วไป เพราะคนขับแท็กซี่ทุกวันนี้ต้องบอกว่าลำบากอย่างสาหัสจริงๆ อีกทั้งที่ผ่านมาก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ก็เป็นลูกค้าชั้นดี ส่งค่างวดรถไม่เคยขาดมาโดยตลอด
ฐาปกรณ์ ชี้ให้ดูสภาพรถแท็กซี่ที่ถูกจอดทิ้งจนเครื่องยนต์ผุพังทรุดโทรม แม้ภาพนอกจะดูใหม่ก็ตาม
“สัญญาผมทำเช่าซื้อกับลิสซิ่งลงมา แต่ผมต้องทำเช่ากับคนขับแต่ยกรถให้คนขับ เช่าแล้วได้รถ เพราะสัญญาจะไปซ้อนสัญญาไม่ได้ คือครบกำหนดแล้วได้รถไปเลย ตอนนี้เขาไมได้ขับก็ไม่ได้ส่ง ทิ้งภาระให้สหกรณ์ เพราะแต่ก่อนที่จะมีรถพวกนี้ขึ้นมา สมาชิกต้องมาจองรถก่อน ต้องมีคนขับก่อนเพื่อจัดหารถให้ ไม่ใช่ว่าผมเอารถมารอคน คนรอรถนะ ที่สหกรณ์บวรมี 5-6 พันคันคือคนรอรถนะ เราประกอบอาชีพให้คนขับมีรถเป็นของตัวเอง บางคนมีคันที่ 1 ก็มีคันที่ 2 ก็มีไปเรื่อยๆ เรายินดีสนับสนุนสำหรับคนขับที่มีวินัยมีระเบียบ เรายินดีผลักดันให้เขามีรถเป็นของตัวเอง” นายฐาปกรณ์ กล่าว
บรรยากาศภายในสำนักงานสหกรณ์บวรแท็กซี่ ถ.พุทธสาคร ดูเงียบเหงา
นายฐาปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากที่นี่แล้ว ยังมีแท็กซี่ถูกจอดทิ้งเนื่องจากคนขับไม่สามารถแบกรับภาระต่อไปได้อีกหลายจุด รวมกว่า 2 พันคัน เช่น ที่อู่ในซอยบางแวก 6 ถ.บางแวก ย่านภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ตลอดจนแท็กซี่ที่ถูกนำไปจอดไว้ตามหน้ากระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าชาวแท็กซี่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากและต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หากไม่ตอบสนองก็พร้อมจะนำรถแท็กซี่เข้าไปจอดเพิ่มเติมอีก
ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเพียงกระทรวงแรงงานที่เข้ามาช่วยเหลือ เช่น สนับสนุนข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม ทั้งนี้ ตนเสนอว่า แทนที่จะปล่อยให้รถแท็กซี่ถูกจอดทิ้งไว้เฉยๆ จนชำรุดทรุดโทรม ภาครัฐควรนำรถเหล่านี้ออกไปวิ่งซึ่งตนไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ โดยให้ภาครัฐรับผิดชอบค่าจ้างคนขับและค่าเชื้อเพลิง เช่น นำไปวิ่งรับ-ส่งผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 หรือผู้โดยสารทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล
แผนที่สหกรณ์บวรแท็กซี่ ถ.พุทธสาคร
“ตอนนี้ผมมีไลน์กลุ่มตั้งให้คนขับแท็กซี่ถ่ายรูปมาว่าความเป็นอยู่เป็นอย่างไร กินข้าวกับอะไร ก็กินข้าวกับปลาทู กินข้าวกับมาม่า สมาชิกผมมี 2 สหกรณ์ รวมแล้ว 8 พันกว่าคน ตอนนี้ลำบากมาก ผมให้ส่งภาพมาให้ดูว่าการกินอญุ่เป็นอย่างไร อันนี้ส่วนหนึ่ง ยังมีอีกเยอะแยะที่เขาลำบากมาก ผักบุ้ง ตำลึง เก็บกินจนโกร๋นหมดแล้ว ขึ้นไม่ทันแล้ว ต้องช่วยกันหน่อย” นายฐาปกรณ์ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/local/592058 (‘สุชาติ’รับปากช่วย‘แท็กซี่’เข้าประกันสังคมจ่ายเยียวยา ถามไฟแนนซ์ยึดรถตอนนี้ได้ประโยชน์อะไร)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี