กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ปลูกฝรั่งกิมจู ที่จังหวัดราชบุรีใช้เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี ควบคุมไส้เดือนฝอยในพืช ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรครากปม ทดแทนสารเคมี จากการแนะนำของศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอโพธาราม เป็นผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตร
วันนี้...พาไปดูเทคนิคการใช้เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี ในกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ปลูกฝรั่งกิมจูบ้านหนองเต่าดำ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นทางเลือกใหม่ในการควบคุมโรคพืชที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ชีวภัณฑ์เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี ควบคุมโรครากปมในพืช เป็นส่วนหนึ่งงานวิชาการเกษตรของศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เป็นผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรที่ได้มีการพัฒนาให้เกษตรกรสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาโรครากปมในพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ทดแทนสารเคมีและเกษตรกรผลิตใช้เองได้ ช่วยลดต้นทุนการผลิต
เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศไทยโดย วีรศักดิ์ และคณะเมื่อปี 2544 ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่โคกภูตากา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น ลักษณะคล้ายเห็ดนางรม แต่เป็นเห็ดมีพิษ ในตอนกลางวัน ก้าน ครีบ และดอกมีสีขาว ตอนกลางคืนดอกเห็ดจะเปล่งแสงสีเขียวอมเหลือง เป็นที่มาของชื่อเรียกว่าเห็ดเรืองแสง และเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานชื่อเห็ดเรืองแสงว่า "สิรินรัศมี" โดยสมเด็จกรมพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
การนำเห็ดสิรินรัศมีมาใช้ควบคุมโรครากปมในฝรั่ง ที่มีสาเหตุมาจากไส้เดือนฝอยรากปม เริ่มนำมาขยายผลใช้ในพื้นที่แปลงปลูกฝรั่งกิมจู ที่บ้านหนองเต่าดำ ต.รางบัว อ.จอมบึง เป็นพืชนำร่องของราชบุรี เมื่อประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกษตรกรหลายคนให้ความสนใจในชีวภัณฑ์เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี เนื่องจากในพื้นที่ปลูกเดิมพบปัญหาการระบาดของโรครากปม ขณะให้ผลผลิต การใช้เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถนำมาใช้ในการควบคุมการระบาดของโรคเป็นวิธีการที่ปลอดภัย
สำหรับขั้นตอนการผลิตนำหัวเชื้อเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีที่เจริญในขวดข้าวฟ่างมาเขย่าให้เมล็ดข้าวฟ่างแยกออกจากกัน เปิดขวดหัวเชื้อเห็ดออกลนไฟที่ปากขวดด้วยตะเกียงเพื่อฆ่าเชื้อ เทเมล็ดข้าวฟ่างประมาณ 15-20 เมล็ด ลงในถุงก้อนขี้เลื่อยที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว พร้อมเขย่าให้หัวเชื้อเห็ดในเมล็ดข้าวฟ่างกระจายแยกออกจากกัน นำสำลีที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อมาปิดจุกก้อนขี้เลื่อย ปิดทับด้วยกระดาษที่ผ่านการฆ่าเชื้อ และรัดด้วยยางวงก่อนนำไปวางบนชั้นวางที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ให้โดนแสง วางก้อนขี้เลื่อยตั้งขึ้นอย่าให้ชิดกันโดยวางทิ้งไว้ประมาณ 45 -50 วัน เส้นใยสีขาวจะเจริญเต็มก้อน
การเตรียมเชื้อเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีเพื่อใช้ในแปลงให้นำก้อนเชื้อเห็ดเรืองแสงที่มีเส้นใยเจริญเต็มก้อนมาขยี้หรือทุบ ให้เส้นใยเห็ดแยกออกจากกัน ใส่ถุงพลาสติกที่สะอาด มีประมาณเชื้อเห็ดเรืองแสงประมาณ 2 ใน 3 ส่วนต่อถุง ปิดปากถุงพอหลวมๆเพื่อให้ออกซิเจนเพียงพอ ให้เส้นใยใหม่เจริญวางไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 3-5 วันจะพบเส้นใยใหม่สีขาวเจริญออกมา จึงสามารถนำไปใช้ในแปลงปลูกพืชได้
นางอุดม วงศ์ชนะภัย นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลวิจัยของ ดร.สรีย์พร บัวอาจ #เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี มีสารออกฤทธิ์ Aurisin A ที่มีผลต่อระบบประสาทของไส้เดือนฝอยรากปมที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรครากปมทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ และตายในที่สุด
“เพราะฉะนั้นในฝรั่งในระยะแรก ๆ ถ้าจะให้ดีควรจะเอาเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีมาใช้ในช่วงก่อนปลูก หรือถ้าเราสังเกตเห็นหลังจากปลูกแล้วเห็นอาการแล้วก็สามารถที่จะเอามาใช้ได้”
การใช้เห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรลดการใช้สารเคมีมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค และยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญเกษตรกรยังสามารถผลิตและขยายใช้ได้เอง เท่ากับเป็นการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โทรศัพท์หมายเลข 032-240803 หรือ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร 025799981 ได้ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี