ล่าแสนรายชื่อถวายฎีกาสวนมติ มส. เชื่อมือมืดสอดไส้-บิดเบือนปลด 3 พระสังฆาธิการ
จากกรณีประชาชนคนกาฬสินธุ์ เคลื่อนไหวคัดค้านคำสั่งมหาเถรสมาคม (มส.) ที่แต่งตั้งพระสังฆาธิการ และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 หนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เคลื่อนไหวมีมติคัดค้านทันที เพราะมองว่าไม่เป็นธรรม ไม่มีเหตุที่จะปลดและคำสั่งนี้ทำให้ประชาชนเสียขวัญ เนื่องจากพระเทพสารเมธีเป็นพระที่มีปฏิปทาที่งดงาม จนมีการเคลื่อนไหวคัดค้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2564 เวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาหอฉันวัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาถวายภัตตาหารเช้ากันตามปกติ แต่ไม่ปรากฏ พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ลงหอฉันแต่อย่างใด ทราบว่า พระเทพสารเมธี ไม่ต้องการที่จะให้เกิดปัญหาใด จึงได้ปลีกวิเวก แต่ในขณะที่ญาติธรรมและคณะสงฆ์ ที่เลื่อมใสศรัทธา ได้นำแผ่นป้ายผืนผ้า คัดค้านไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับคำสั่งปลดของมหาเถรสมาคม ที่มีใจความว่า คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เห็นด้วยกับการถอดถอนและแต่งตั้ง จจ.กาฬสินธุ์(ธ) และข้อความชาวพุทธกาฬสินธุ์คัดค้านการแต่งตั้ง จจ.กาฬสินธุ์ สายพระป่า ฯลฯ
ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. ปรากฏมีพุทธศาสนิกชนทยอยเดินทางมาจากทุกสารทิศ ส่วนใหญ่เป็นตัวแทนจาก 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ามาลงชื่อพร้อมถ่ายเอกสารบัตรประชาชน และมีนักการเมืองภายในจังหวัดที่เลื่อมใสศรัทธาพระเทพสารเมธี(ธ) อาทิ นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 1 , นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ , นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล อดีต ส.ว.กาฬสินธุ์ เครือข่ายองค์กร นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชนกว่าหนึ่งพันคน ที่พากันสลับแสดงความรู้สึกที่ไม่เข้าใจและเชื่อว่ามีขบวนการแอบแฝงต่อคำสั่งปลดพระสังฆาธิการทั้ง 3 รูป โดยเฉพาะพระเทพสารเมธี จ.จ.กาฬสินธุ์(ธ) ที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจพี่น้องชาวจังหวัดกาฬสินธุ์
นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงและไม่มีใครเชื่อว่า มส.จะมีคำสั่งปลด พระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี เพราะท่านเป็นพระที่มีปฏิปทางดงาม สร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องชาวกาฬสินธุ์อย่างมากมาย เป็นพระสายกรรมฐานที่ปฏิบัติดีงามไม่มีข้อครหาใดๆ ส่วนตัวเห็นพร้อมกับพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ ที่จะต้องปกป้องเพราะคำสั่งนี้ถือเป็นการทำลายชื่อเสียงคนกาฬสินธุ์ ทำลายความดีงามของเจ้าคุณบัวศรี และทำลายความศรัทธาของคนกาฬสินธุ์ที่มีต่อพระพุทธศาสนา จึงต้องการให้ มส.แก้ไขในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป
ด้าน ดร.กฤตชญา วิเชียรเพริศ ข้าราชการบำนาญ จ.กาฬสินธุ์ และทนายความ กล่าวว่า เท่าที่ศึกษา กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอนพระสังฆาธิการ เชื่อว่ามติมหาเถรสมาคมไม่ถูกต้อง เพราะในส่วนที่ 3 กรณีเจ้าคณะจังหวัด ข้อที่ 14 ต่อการดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนั้น ขาดคุณสมบัติตั้งแต่ข้อแรก คือ ต้องมีสำนักอยู่ในเขตจังหวัดนั้น และกำลังดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดนั้นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี แต่ในกรณีนี้เป็นพระครูที่อยู่ในจังหวัดหนองคาย และไม่เคยมีวัดหรือปฏิปทาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงเชื่อว่ามีเรื่องการเมืองในคณะสงฆ์อย่างแน่นอน จึงต้องการให้เร่งแก้ไขข้อให้ มส.ทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรม เพื่อไม่กระทบต่อศรัทธาชาวพุทธกาฬสินธุ์
ส่วนนายสมพงษ์ สร้อยเสนาะ อายุ 70 ปี ทายกวัดประชานิยม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการทำของผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาท่านเจ้าคุณบัวศรี เพราะท่านไม่รู้สึกยินดียินร้ายในเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่ตนและผู้ที่เลื่อมในศรัทธารับไม่ได้ต่อคำสั่งปลดเพราะมีคำถามว่าปลดเรื่องอะไร ท่านทำอะไรผิด สิ่งที่ท่านบำเพ็ญเพียร มาเสียชื่อเพราะคำสั่งปลดนี้หรือ แต่เพื่อความสงบจะมีการลงชื่อให้ครบ 100,000 รายชื่อ เพื่อถวายฎีกา ซึ่งขณะนี้เพียงสองวัน มีพุทธศาสนิกชนมาลงชื่อแล้วกว่าหนึ่งหมื่นคน คาดว่าไม่กี่วันก็จะครบจากนั้นก็จะเดินทางไปที่สำนักพระราชวังเพื่อถวายฎีกา ขอความเมตตาให้ มส. ทบทวน คำสั่งปลดและสร้างความเป็นธรรมให้คณะสงฆ์และสร้างความสบายใจให้ชาวพุทธด้วย
ขณะที่นางพัชรี มณีไพโรจน์ อายุ 55 ปี กล่าวว่า รู้สึกหัวใจสลายที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เกิดขึ้น และการรวมตัวในครั้งนี้ไม่ได้มาสู้ให้หลวงพ่อ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อชาวกาฬสินธุ์ เพราะท่านคือศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธกาฬสินธุ์ เพื่อมีเหตุการณ์นี้ก็จะต้องทวงเอาความถูกต้องเป็นธรรมและศักดิ์ศรีของคนกาฬสินธุ์ด้วย
ส่วน ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สกลนคร ได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ ว่า กรณีดังกล่าวเชื่อว่ามีกระบวนการสอดไส้ เพื่อทำลายความศรัทธาของชาวพุทธในกรณีปลดพระสังฆาธิการทั้ง 3 รูปนั้น มีการสอดไส้รายชื่อบิดเบือนเบื้องสูงอย่างแน่นอน และมีเบื้องหน้าเบื้องหลังในการกลั่นแกล้งพระสังฆาธิการทั้ง 3 รูป ตัวอย่างในกรณี พระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ทั้งที่มีปฏิปทาที่งดงาม เป็นพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ซึ่งขณะที่ตนบวชเรียนเป็นมหา ก็เคยเห็น พระเทพสารเมธี ซึ่งขณะนั้นเป็นพระเลขาของหลวงปู่อ่อน เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) สมัยนั้น ยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย ยังมี พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นต้น
“จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะมีคำสั่งปลดนี้ เพราะเป็นการทำลายพระสังฆาธิการที่มีปฏิปทาดีงาม เหมือนให้ตายทั้งเป็น เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ตนพอจะรู้มาแล้วว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพราะมีฆราวาสเข้าไปยุ่งในกิจการของสงฆ์ คอยชักจูงไปในทางเสียหาย มีการตั้งพวกพ้องของตนเอง แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าตั้งพระครูที่มีตำแหน่งเล็กๆ ข้ามห้วยไปเป็นเจ้าคณะจังหวัด” ดร.นิยม กล่าว
ดร.นิยม กล่าวว่า ขณะนี้ในการเคลื่อนไหวได้ทำการประสานสำนักพระราชวัง ในการถวายฎีกา โดยในส่วนของสายคณะสงฆ์พระป่า จะนำเรื่องราวทูลเกล้าให้พระองค์ทรงทราบข้อเท็จจริงที่จะต้องมีการเปิดเผยว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่มีพระเข้าข่าย “สังฆเภท” หลายองค์ อีกทั้งเรื่องนี้เมื่อเปิดสภา ตนและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็จะอภิปรายในสภาให้ประชาชนได้รับรู้รับทราบต่อกระบวนการล้มล้างศาสนาพุทธต่อไป
สำหรับความเคลื่อนไหวนั้นหลังจากประชาชนลงรายชื่อได้พากันสวดมนต์ขอพรให้ พระเทพสารเมธี โดยมีคณะสงฆ์จากหลายอำเภอสลับกันหมุนเวียนนำสวด ที่ยังเป็นการปัดเป่าสิ่งอัปมงคลให้ออกไปจากปัญหาคำสั่งนี้อีกด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี