วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
การปิดประตูอบายก็คือระงับเหตุที่พาให้ไปเกิดในอบายคือกระทำบาป ๕ ข้อ : พระอาจารย์สุชาติ

การปิดประตูอบายก็คือระงับเหตุที่พาให้ไปเกิดในอบายคือกระทำบาป ๕ ข้อ : พระอาจารย์สุชาติ

วันศุกร์ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 19.13 น.
Tag : ปิดประตูอบาย พระอาจารย์สุชาติ ทานศีลภาวนา
  •  

"...ลักษณะของผู้ที่มาเกิดจากอบาย จะเป็นคนที่อาภัพวาสนาบารมี ในทางตรงกันข้ามผู้ที่มาเกิดจากสวรรค์ จะเป็นผู้มาเกิดด้วยวาสนาบารมี ได้ร่างกายที่สวยงามผิวพรรณผ่องใส มีเงินมีทองร่ำรวย เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย มีอาการ ๓๒ ครบสมบูรณ์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน มีอายุยืนยาวนาน มีนิสัยใจคอที่ดี เป็นคนใจบุญใจกุศล นี่คืออานิสงส์ของการทำบุญ เวลามาเกิดก็จะมาเกิดด้วยบุญบารมี แล้วก็จะมาทำบุญต่อจะไม่ทำบาป ถ้าทำบาปก็อาจจะน้อยกว่าทำบุญ นี่คืออนาคตของพวกเราถ้าเรายังมีการทำบุญทำบาปกันอยู่ ยังมีความอยากที่จะหาความสุขจากสิ่งต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้อยู่ คือยังอยากมีความสุขจากลาภยศสรรเสริญ จากรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ เราก็จะกลับมาเกิดอยู่เรื่อยๆ เพราะว่าความอยากนี้เป็นตัวที่จะดึงดวงวิญญาณของพวกเราให้มามีร่างกายอันใหม่ เพื่อที่เราจะได้ใช้ร่างกายอันใหม่เป็นเครื่องมือหาความสุขจากรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะชนิดต่างๆ และการหาความสุขจากรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะก็จะหาโดยวิธีทำบาปบ้างไม่ทำบาปบ้าง ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์สถานภาพของตน ขึ้นอยู่กับนิสัยเดิมด้วย 

ถ้ามีนิสัยเดิมชอบหาทำอะไรด้วยวิธีทำบาปก็มักจะใช้วิธีทำบาป ถ้าเป็นนิสัยที่ไม่ชอบทำบาปก็จะหาความสุขจากลาภยศสรรเสริญ จากรูปเสียงกลิ่นรสโดยวิธีไม่ทำบาป แล้วพอตายไปก็จะไปรับผลบุญผลบาปในโลกทิพย์ต่อไป ในโลกของจิตวิญญาณ จนกว่าบุญกับบาปนั้นหมดกำลังที่จะดึงเอาไว้ ก็จะปล่อยให้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ นี่คือพวกที่ยังมีความอยากหาความสุขจากลาภยศสรรเสริญสุขอยู่ แล้วก็มีคนอีกจำพวกหนึ่งที่เบื่อกับการหาความสุขจากลาภยศสรรเสริญ จากรูปเสียงกลิ่นรส คนกลุ่มนี้ก็จะไปหาความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง คือหาความสุขจากการทำใจให้สงบด้วยการนั่งสมาธิเข้าฌานก็จะไปอยู่แบบนักบวชหรือเป็นนักบวช เพราะไม่มีความต้องการที่จะหาความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกาย เนื่องจากเห็นว่าถึงแม้จะเป็นความสุข แต่เวลามันไม่มีก็ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้นมาได้อย่าแสนสาหัส จึงอาจจะเข็ดหลาบอจากการที่จะต้องทุกข์กับการสูญเสียความสุขทางลาภยศสรรเสริญ ทางรูปเสียงกลิ่นรสไป จึงเลยไปเปลี่ยนวิธีหาความสุขด้วยการหาความสุขจากการทำใจให้สงบให้เข้าฌานในระดับต่างๆได้ บุคคลเหล่านี้ถ้าตายไปก็จะไปเกิดบนสวรรค์ที่สูงกว่าสวรรค์ชั้นเทพ สวรรค์ที่บุญส่งไป


สวรรค์ชั้นพรหมนี้เป็นสวรรค์ที่ฌานหรือสมาธิเป็นผู้ส่งไป เป็นสวรรค์ที่มีความสุขมากกว่าสวรรค์ชั้นเทพ มีอยู่ ๒ ระดับ ระดับ รูปพรหม กับ อรูปพรหม ผู้ที่นั่งสมาธิได้รูปฌานขั้นต่างๆ ก็จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นรูปฌาน ผู้ที่ได้สมาธิระดับอรูปฌานก็จะไปเกิดในสวรรค์ชั้นอรูปพรหม แต่สวรรค์ทั้ง ๒ ระดับนี้ก็ยังเป็นสวรรค์ที่เสื่อมได้ เพราะยังอยู่ภายใต้กฎของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พอสมาธิหมดกำลังลง ฌานหมดกำลังลง จิตก็จะเลื่อนกลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกรอบหนึ่ง พอมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะมาหาความสุขแบบที่เคยหา คือไปหาความสุขแบบนักบวช เราจึงมีคนจำพวกนี้อยู่ในโลกนี้คือพวกที่เป็นนักบวช เราอาจจะไม่เข้าใจว่า เอ๊ะทำไมเขาถึงต้องไปบวชกัน ทำไมเขาไม่อยู่แบบเรา มีครอบครัวแบบเรา มีความสุขแบบเรา ก็เพราะว่าเขาเคยมีแต่เขาเข็ด เวลาที่เขาต้องสูญเสียสิ่งที่เขารักไปสิ่งที่ให้ความสุขกับเขา เพราะเขาเห็นว่ามันไม่เที่ยงเขาเลยอยากจะหาความสุขแบบที่ไม่ต้องเสียเสียไป ความสุขแบบที่ไม่เสียก็คือความสุขที่ได้จากการเข้าสมาธิ ทำใจให้สงบ เข้าฌานขั้นต่างๆ อันนี้สามารถเข้าได้ตลอดเวลาถ้าเรารู้จักวิธีเข้าแล้ว แล้วจะมีความสุขไปจนวันตายจากการเข้าฌานเข้าสมาธิขั้นต่างๆ แต่ยังต้องกลับมาเกิดใหม่ ต้องกลับมาเติมฌานกลับมาเติมสมาธิใหม่ เหมือนกับรถยนต์ที่เราวิ่งไปไหนมาไหน เดี๋ยวเราก็ต้องแวะจอดตามสถานีบริการต่างๆ เพื่อเติมน้ำมันถึงจะวิ่งต่อไปได้ ภพของมนุษย์นี้เป็นเหมือนสถานีบริการที่เรามาเติมบุญก็ได้เติมบาปก็ได้ เติมสมาธิก็ได้ 

นี่คือการไปของพวกเราหลังจากที่ร่างกายของพวกเราตายไปแล้ว เราจะไปตามกรรมของเรา กรรมก็คือการกระทำของเราในขณะที่เรามีชีวิตอยู่นี้ คำว่ากรรมนี้แปลว่าการกระทำ ไม่ได้หมายความว่าบาป แต่บางครั้งเราก็ใช้คำว่ากรรมแทนว่าบาป แต่โดยทั่วไปคำว่ากรรมนี้แปลว่าการกระทำ ก็มีการกระทำหลายรูปแบบ กระทำบาปก็เป็นรูปแบบหนึ่ง กระทำบุญก็เป็นรูปแบบหนึ่ง เข้าฌานเข้าสมาธิก็เป็นกรรมอีกรูปแบบหนึ่ง และเมื่อทำแล้วก็จะมีการสะสมผลของกรรมเหล่านี้ไว้ในดวงใจ พอร่างกายตายไป ผลของกรรมเหล่านี้ก็จะส่งผลทำให้เป็นดวงวิญญาณที่ทุกข์หรือเป็นดวงวิญญาณที่สุข หรือเป็นดวงวิญญาณที่สงบ ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่เราทำกันอยู่ในขณะนี้ 

ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่แล้วเราก็จะทำอย่างนี้กันไปเรื่อยๆ ท่านเรียกว่าเป็นการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ สังสารวัฏก็คือภพ ไตรภพที่เราอยู่กันนั่นเอง พวกที่เสพกาม พวกที่หาความสุขจากลาภยศสรรเสริญ จากรูปเสียงกลิ่นรสก็จะเกิดในกามภพ ผู้ที่เสพรูปฌานก็จะไปเกิดในรูปภพ พวกทีเสพอรูปฌานก็จะไปเกิดในอรูปภพ ก็จะเวียนไปเวียนมาอย่างนี้ พอไปสวรรค์ไปอบายหรือไปรูปภพหรืออรูปภพ แล้วเดี๋ยวก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ กลับมาเกิดเพื่อมาเติมบุญเติมบาปเติมฌานกันใหม่ จะเป็นอย่างนี้ไปไม่มีวันสิ้นสุด จนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ ที่จะรู้วิธีที่จะดึงดวงวิญญาณที่ท่องเที่ยวอยู่ในไตรภพ ที่ติดอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดของไตรภพนี้ ให้ออกจากไตรภพไปได้ เพราะพระพุทธเจ้าจะทรงมีความขวนขวาย ทรงไม่ปรารถนาที่อยากจะกลับมาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตายอยู่เรื่อยๆ 

จึงได้ทรงค้นหาทางที่จะออกจากการเวียนว่ายตายเกิด พอได้ทรงค้นพบทาง พระองค์ก็เป็นผู้ที่หลุดออกจากไตรภพเป็นคนแรก พอได้หลุดออก รู้ทางว่าจะออกจากไตรภพนี้ออกอย่างไร ก็กลับมาสั่งสอนผู้ที่ติดอยู่ในไตรภพอย่างพวกเรา ถ้าพวกเรามีความปรารถนาที่ไม่อยากจะกลับมาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตายกันอยู่เรื่อยๆ อย่างที่เป็นกันอยู่ในขณะนี้ เราก็จะทำตามคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ขั้นต้นพระพุทธเจ้าก็สอนว่าให้ปิดประตูอบายก่อน ก่อนจะออกจากไตรภพได้ต้องปิดประตูอบาย 

การปิดประตูอบายก็คือระงับเหตุที่พาให้ไปเกิดในอบาย คือกระทำบาป ๕ ข้อด้วยกัน คือ ๑.การฆ่าสัตว์ ๒.การลักทรัพย์ ๓.การประพฤติผิดประเวณี ๔.การพูดปด และ ๕.การดื่มสุรายาเมาและอบายมุขอื่นๆ เช่นการเล่นการพนัน การเที่ยวเตร่ ความเกียจคร้านและคบคนที่ชอบอบายมุขเป็นมิตร เพราะอบายมุขนี้เป็นจะผลักดันให้จิตใจต้องไปทำบาปนั่นเอง เนื่องจากการเสพอบายมุขนี้ไม่มีรายได้มีแต่รายจ่าย ถ้าเสพอบายมุขไปเรื่อยๆ ก็จะไม่มีเวลาไปทำมาหากินหารายได้ เงินทองที่มีอยู่ถ้าใช้กับการเสพอบายมุขต่อไปก็จะไม่พอใช้ พอไม่พอใช้ก็จะต้องไปหาเงินทองโดยวิธีทำบาปนั่นเอง ไปหลอกลวงโกหกหลอกลวง ไปลักทรัพย์ไปฉ้อโกง หรืออาจจะต้องไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพื่อให้ได้เงินทองมาเสพอบายมุขต่อ 

ดังนั้น ถ้าต้องการจะปิดประตูอบายไม่ทำบาปก็ต้องอย่าไปเสพอบายมุขด้วย อย่าดื่มสุรา อย่าเล่นการพนัน อย่าเที่ยวเตร่ อย่าเกียจคร้าน อย่าคบคนที่ชอบอบายมุขเป็นมิตรเป็นเพื่อน เพราะถ้าคบกับเขาเป็นเพื่อน เขาชอบดื่มสุราเขาก็จะชวนเราไปดื่มสุรา เขาชอบเล่นการพนันเขาก็จะชวนเราไปเล่นการพนัน เขาชอบเที่ยวเตร่เขาก็จะชวนเราไปเที่ยวเตร่ เขาชอบความเกียจคร้านเขาก็จะชวนให้เราเกียจคร้าน เราก็จะมีแต่ใช้เงินใช้ทองไม่มีรายได้ พอเงินทองไม่พอใช้ก็ต้องไปหาโดยวิธีง่ายๆเร็วๆ ก็คือวิธีทำบาปต่างๆ ถ้าไม่เสพอบายมุขเราก็จะมีรายได้และก็จะสามารถรักษารายได้เก็บไว้ใช้กับสิ่งที่จำเป็นได้ ทำให้เราไม่ต้องไปทำบาป เพราะเราจะมีเงินทองพอกินพอใช้อยู่เรื่อยๆ นี้คือข้อที่ ๑ การที่จะออกจากสังสารวัฏ ออกจากไตรภพ ภพของการเวียนว่ายตายเกิด 

เบื้องต้นให้ปิดประตูอบายก่อน ถ้ายังกลับมาเกิดก็อย่างน้อยก็มาเกิดในภพที่ดีคือภพของเทวดาของมนุษย์หรือของพรหม แต่จะไม่ไปเกิดในภพของอบาย ไม่ต้องไปเกิดเป็นเดรัจฉานเป็นเปรตเป็นอสูรกายไปนรก ถ้าเรารักษาศีล ๕ ได้ ละเว้นจากการเสพอบายมุขต่างๆ ได้ ถ้าเรายังทำบาปอยู่ยังเสพอบายมุขอยู่ เราก็ควรจะตั้งสัจจะอธิษฐานว่าต่อไปนี้จะขอลด ถ้ายังเลิกแบบทั้งหมดไม่ได้ก็ขอลดการเสพอบายมุขของการทำบาปให้น้อยลงไปตามลำดับ ลดเท่าที่เราทำได้ในเบื้องต้นก่อน พอเราทำได้แล้วต่อไปเราก็จะมีกำลังที่จะทำได้เพิ่มมากขึ้นไปเอง ลดทีละข้อก่อนทีละอย่างก่อนก็ได้ เคยติดสุรายาเมาก็เลิกดื่มสุรายาเมาหรือดื่มให้น้อย ลดลงสักครึ่งหนึ่ง เคยกินขวดหนึ่งลดลงเหลือสักครึ่งขวด เคยกินทุกวันก็ลดเหลือแค่วันเว้นวัน อะไรทำนองนี้ไปก่อน ค่อยๆ ลดลงไปถ้าเราไม่มีกำลังที่จะลดแบบฮวบฮาบ แต่ถ้าเรามีศรัทธามีความเชื่อมีความกลัวผลของบาปของอบายมุข เราอาจจะสามารถเลิกแบบเด็ดขาดเลยก็ได้ เลิกเสพอบายมุขเลิกกระทำบาปเลย พอเราปิดประตูอบายได้แล้ว ขั้นต่อไปท่านก็มาสอนให้เรามายกระดับจิตของเราให้ขึ้นสู่ระดับของเทพของพรหมต่อไป..."

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี วันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ (เพจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) - 003
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ทุกข์ในจิต\' : ถ้าไม่อยากตายก็จะทุกข์ทรมานใจ ถ้ายอมรับความตายก็จะไม่ทุกข์ 'ทุกข์ในจิต' : ถ้าไม่อยากตายก็จะทุกข์ทรมานใจ ถ้ายอมรับความตายก็จะไม่ทุกข์
  • \'วัดอโศการาม\' สมุทรปราการ ดินแดนแห่งธรรมเหมาะเจริญ \'ทาน ศีล ภาวนา\' 'วัดอโศการาม' สมุทรปราการ ดินแดนแห่งธรรมเหมาะเจริญ 'ทาน ศีล ภาวนา'
  • \'หมอดู\'...อย่าไปเชื่อหมอดู อย่าไปเชื่อคุณไสย อย่าไปเชื่ออะไรที่ไม่เป็นสาระที่ไม่เป็นความจริง 'หมอดู'...อย่าไปเชื่อหมอดู อย่าไปเชื่อคุณไสย อย่าไปเชื่ออะไรที่ไม่เป็นสาระที่ไม่เป็นความจริง
  • \'ปีชงมันไม่มีหรอก ชงกันขึ้นมาเอง\' ดีหรือชั่วไม่ได้อยู่ที่วันเดือนปี มันอยู่ที่การกระทำ 'ปีชงมันไม่มีหรอก ชงกันขึ้นมาเอง' ดีหรือชั่วไม่ได้อยู่ที่วันเดือนปี มันอยู่ที่การกระทำ
  •  

Breaking News

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

'ไพบูลย์'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา'ทักษิณ' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved