วันศุกร์ ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
ไปเที่ยว'วัดม่วง'ดูต้นโพธิ์อายุเกือบร้อยปีรากปกคลุมซุ้มประตูวัดกลายเป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

ไปเที่ยว'วัดม่วง'ดูต้นโพธิ์อายุเกือบร้อยปีรากปกคลุมซุ้มประตูวัดกลายเป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น

วันจันทร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2564, 11.14 น.
Tag : ต้นโพธิ์ ท่องเที่ยว บ้านโป่ง ราชบุรี วัดม่วง
  •  

พบต้นโพธิ์อายุเกือบร้อยปีที่วัดม่วง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ริมแม่น้ำแม่กลองในอดีตเคยเป็นทางขึ้นวัด แต่ปัจจุบันรากต้นโพธิ์ได้ขึ้นปกคลุมซุ้มประตูวัดกลายเป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้นดูสวยงามแปลกตา ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวที่ขับรถผ่านจะชอบแวะกราบขอพร โดยเฉพาะคอหวยที่มักจะไม่พลาดเข้าขอเลขเด็ดกันทุกงวด

วันนี้..."ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" พาไปเที่ยวชมความแปลกของต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุราวๆ เกือบ 100 ปีที่รากขึ้นปกคลุมซุ้มประตูวัดจนดูเป็นศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่ริมแม่นำแม่กลองหน้าวัดม่วง ต.บ้านม่วง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งวัดม่วงถือเป็นวัดที่เก่าแก่ตามประวัติบอกไว้ในคัมภีร์ใบลานเขียนด้วยอักษรมอญว่ามีอายุในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายมอญ ซึ่งต้นโพธิ์ที่ว่านี้มีลักษณะรูปทรงแปลกตาโดยได้รับคัดเลือกให้เป็นต้นโพธิ์ จ.ราชบุรี เป็น "รุก ข มรดก" ของแผ่นดิน ของกระทรวงวัฒนธรรมด้วย


จากประวัติทราบว่าต้นโพธิ์นี้มีเส้นรอบวง 11 เมตร ความสูง 10 เมตรอยู่บริเวณวัดม่วงมีกิ่งก้านสาขาปกคลุม โดยรอบๆ ซ้อมประตูวัด รากของต้นโพธิ์แทงเข้าไปตามซอก และโครงสร้างของซุ้มประตู กิ่งของต้นมีรูปร่างคล้าย ๆ กับช้างทรงขนาดใหญ่ มองดูแล้วสวยงาม 

ภายในซุ้มยังมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์พระอสีติ "มหาสาวกแห่งโชคลาภ" ประดิษฐานอยู่เพื่อให้ประชาชนมากราบไหว้ขอพรปัจจุบันอยู่ในความดูแลของวัดม่วง ถือเป็น "รุก ข มรดก" ของแผ่นดิน ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม 

ช่วงวันหยุดมักจะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดขับรถผ่านและจะชอบแวะกราบขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งด้านในจะมีพวงมาลัยดอกไม้สด น้ำแดง น้ำเปล่า ผลไม้ หลายคนก็ยังมาขอโชค ขอลาภ จากองค์พระสังกัจจายน์ กันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงใกล้ ๆ วันหวยออกสังเกตจากบริเวณด้านข้างจะมีพานสีทอง สีเงิน น้ำแดง จัดถวายไม่ขาดจากคำเล่าลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของต้นโพธิ์ต้นนี้ มีคนได้โชคลาภไปหลายงวดนำผลไม้ น้ำแดงมาถวายกันไม่ขาดสาย 

นางสอางค์ พรมอินท์ อายุ 80 ปี ประธานพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง เปิดเผยว่า ตอนเด็ก ๆ ก็เห็นต้นโพธิ์นี้แล้วเพราะเคยวิ่งเล่นเที่ยวอยู่แถววัดม่วง เมื่อก่อนเป็นทางขึ้นหน้าประตูวัด ช่วงนั้นที่เห็นต้นโพธิ์อายุประมาณ 12 ปี ตอนนี้อายุ 80 ปีแล้ว ตอนนั้นยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งจะอยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง ความศักดิ์สิทธิ์นั้นเคยมีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไปชมต้นโพธิ์ และยังเคยขอโชคลาภด้วย

นายสวัสดิ์ เจิมเครือ เจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง กล่าวว่า ต้นโพธิ์ที่รูปร่างแปลก แต่เดิมเป็นซุ้มประตูอยู่บนวัดเดิมชายแม่น้ำใช้การเดินทางโดยเรือ แม้แต่เขตป่าช้าก็อยู่ชายแม่น้ำหมด แต่ต่อมาเกิดพังทลายก็ต้องย้ายหนี คงเหลือแต่ซุ้มประตูสมัยก่อนแข็งแรงดี ต่อมาต้นโพธิ์ขึ้นปกคลุมใหญ่ขึ้นก็เลยซ้อนพันเกี่ยวกัน จนต่อมามีผู้ศรัทธานำองค์พระสังกัจจายน์มาถวายไว้ด้านในให้กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล จนรากต้นโพธิ์ได้ซอนพันขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นตามรูปลักษณ์ในปัจจุบัน ด้วยความแปลกได้มีการประกวดวัตถุโบราณเก่าทางจังหวัดได้ส่งเข้าประกวด จึงได้รับคัดเลือกได้รับรองชนะเลิศ "รุก ข มรดก" ของแผ่นดิน ของกระทรวงวัฒนธรรม

สำหรับวัดม่วงเป็นวัดเก่าแก่ดั้งเดิมของลุ่มแม่น้ำแม่กลอง สมัยก่อนเป็นป่าทั้งสองฝั่งได้พัฒนาหาที่ดินทำการเกษตรชาวมอญจะเดินทางโดยการล่องแพเรื่อยมาอพยพมาอยู่ที่นี่กว่า 300 ปีแล้ว ชื่อบ้านม่วงได้สันนิษฐานว่ามีต้นมะม่วงป่าเยอะที่ฝั่งนี้กับที่เมืองมอญหมู่บ้านเก่าเรียกว่าบ้านม่วงและได้มีการตั้งวัดม่วงพร้อมกับตั้งเจดีย์มอญขึ้น ที่หมู่บ้านยังคงรักษาวัฒนธรรมการพูดภาษามอญ การแต่งกายเดิมไว้ ส่วนการทอผ้าก็ยังคงมีอยู่มากว่า 300 ปีแล้ว 

นายสวัสดิ์ เจิมเครือ เจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง กล่าวอีกว่า ส่วนต้นโพธิ์อายุราวๆ ขึ้น 70 ปี ส่วนอีกต้นมีอายุกว่า 100 ปี สมัยก่อนเคยมีศาลาอยู่ริมน้ำและมาพังทลายลงเมื่อประมาณกว่า 30 ปี ส่วนพิพิธภัณฑ์หลังนี้สร้างมากว่า 20 ปี แต่เดิมเป็นศาลาเอนกประสงค์เรือนไม้ได้ไว้จัดประเพณีต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ส่วนของเก่านั้นเป็นของวัดบ้าง มีชาวบ้านนำมาถวายวัดบ้างและได้รวบรวมเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ จนตกทอดมาถึงพระครูวรธรรมพิทักษ์ ร่วมกับกรมศิลปากรและชาวบ้านม่วง สร้างพิพิธภัณฑ์หลังนี้ขึ้นมา สมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเปิดพิพิธภัณฑ์หลังนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าชมของเก่า ได้ความรู้ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย 

ด้านในมีวัตถุโบราณที่สำคัญ เช่น ข้าวของเครื่องใช้โบราณของชาวมอญ เครื่องประดับ โอ่ง ไห ถ้วยชามโบราณ เครื่องแต่งกายโบราณ นอกจากนี้ยังมีใบลานที่ตกทอดมานานหลายร้อยปี บอกถึงตำรายาสมุนไพร คาถาไล่ผี ประวัติบ้านม่วง มีคัมภีร์งาช้าง 1 ชุด และเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่มสมัยโบราณอีกหลายชิ้น ชาวมอญก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีให้คงอยู่คู่ท้องถิ่นแต่อดีตมาจนถึงทุกวันนี้

จากข้อมูลประวัติของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงนั้นเชื่อว่าบรรพบุรุษของชาวมอญได้ติดตามพระมหาเถระคันฉ่อง เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ริมน้ำแม่กลอง ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อรำลึกถึงบ้านเก่ที่จากมา จึงเรียกบ้านใหม่ด้วยชื่อเก่าว่า "บ้านม่วง" เช่นเดียวกับชื่อวัดที่สร้างใหม่ว่า "วัดม่วง" ภาษามอญว่า "เพลียเกริก" และยังมีการอพยพเข้ามาอีกหลายระลอกใช้เวลาร่วม 400 ปีเป็นรากฐานที่ดีในการก่อเกิดพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง และศูนย์มอญศึกษาขึ้น

สำหรับผู้สนใจมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วงได้ทุกวันพุธ - อาทิตย์จะหยุดเฉพาะวันจันทร์และวันอังคารมาเที่ยวชมโบราณวัตถุในสมัยโบราณของชาวมอญและเที่ยวชมสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้  -  003

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘บ้านท่าจูด’ แหล่งท่องเที่ยวตะกั่วป่า ‘หาหอย-พายเรือแคนนู’ สร้างรายได้ชุมชน ‘บ้านท่าจูด’ แหล่งท่องเที่ยวตะกั่วป่า ‘หาหอย-พายเรือแคนนู’ สร้างรายได้ชุมชน
  • เที่ยวหน้าฝน-ชมทะเลหมอกยามเช้า ‘น้ำตกตาดปลากั้ง’ ที่บ้านน้ำจวง จ.พิษณุโลก เที่ยวหน้าฝน-ชมทะเลหมอกยามเช้า ‘น้ำตกตาดปลากั้ง’ ที่บ้านน้ำจวง จ.พิษณุโลก
  • อช.เขาพระวิหาร ประกาศปิดท่องเที่ยว \'ผามออีแดง\' ชั่วคราว อช.เขาพระวิหาร ประกาศปิดท่องเที่ยว 'ผามออีแดง' ชั่วคราว
  • ผู้อำนวยการ ททท.ตราดคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวหยุด 4 วัน 241.90 ล้าน ผู้อำนวยการ ททท.ตราดคาดรายได้จากนักท่องเที่ยวหยุด 4 วัน 241.90 ล้าน
  • เปิดแล้ว!เทศกาลถ้ำนาคา มหัศจรรย์ภูลังกา บูชาพระสารีริกธาตุ ต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่บึงกาฬ เปิดแล้ว!เทศกาลถ้ำนาคา มหัศจรรย์ภูลังกา บูชาพระสารีริกธาตุ ต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่บึงกาฬ
  • บีโกเนียบานแล้ว! ภูหินร่องกล้าชวนสัมผัสความงามดอกไม้ป่าหน้าฝน ชุ่มฉ่ำท่ามกลางไอหมอก บีโกเนียบานแล้ว! ภูหินร่องกล้าชวนสัมผัสความงามดอกไม้ป่าหน้าฝน ชุ่มฉ่ำท่ามกลางไอหมอก
  •  

Breaking News

‘สภ.เมืองน่าน’จัดอบรมเครือข่ายป้องกันและรักษาความสงบระดับจังหวัด

เขมรระดมส่ง'กระเทียม'ให้ทหารกัมพูชาสู้'แก๊สพิษ' ชาวไทยโต้ที่แท้มันคือกลิ่นศพ

รวบ 3 สิงห์รถบรรทุก! ซุกบุหรี่เถื่อนคาด่าน มูลค่ากว่า 2 ล้าน

‘ประธานวิปรัฐบาล’บี้‘พรรคส้ม’แมนๆเปิดมาเลยฝั่งรัฐบาลใครแจกกล้วยแลกโหวตงบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved