Elephant in the Room ช้างในห้อง ปัญหาใหญ่ที่ทำเป็นมองไม่เห็น หรือไม่มองตามความเป็นจริง
Elephant in the Room หรือ ช้างในห้อง ซึ่งเป็นสำนวนภาษาฝรั่งที่ไม่ได้มีความหมายถึงช้างโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเทียบ คำถามหรือ อุปมาอุปมัย ประเด็นขัดแย้ง หมายถึง เรื่องจริงหรือปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้น แบบที่เห็นช้างอยู่ต่อหน้าต่อตา แต่คนในห้องกลับปล่อยละเลยโดยเจตนา ตั้งใจทำเป็นมองไม่เห็น
ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็นที่โด่งดัง และ มีการแสดงกันอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ โดยภาพถ่าย ชื่อ “Elephant in the Room” โดย Adam Oswell จากประเทศออสเตรเลีย ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขา photojournalism ที่เน้นเรื่องการค้าที่ผิดกฎหมาย การทรมาน และจริยธรรม สัตว์ป่า จากงานประกวดภาพ Wildlife Photographer of the Year Awards 2021 จัดโดย Natural Historical Museum London สหราชอาณาจักร จาก facebookของ คุณ Chawatat Thanoosing (https://www.facebook.com/chawatat.thanoosing/posts/10158517886790547) ซึ่งเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่ Natural Historical Museum London จากวิดีโอคลิป (https://www.youtube.com/watch?v=I0R32kCD5Tw นาทีที่ 1.09.00 – 1.10.30) พิธีกรในงานนี้บอกว่า จากความคิดของภาพนี้ ช้างเป็นสัตว์ป่าควรอยู่ในป่า เป็นวิศวกรของป่าที่จะช่วยจัดการเรื่องนิเวศวิทยา ช้างเป็นสัตว์ฉลาด มีความจำเป็นเลิศ มีอายุยืน ไม่ควรนำมาใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องด้วยการแสดงเหมือนสวนสัตว์ ไม่ควรออกมาอยู่ในที่เลี้ยงแคบๆแบบนี้ และ ภาพนี้เป็นภาพที่ทรงพลังบอกคนทั้งโลก
เรื่องช้างเล่นน้ำเคยถูกโจมตีจากกลุ่มพิทักษ์สัตว์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2561 โดยครั้งนั้นทางองค์การสวนสัตว์ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งข่าวที่ออกมาปัจจุบันนี้ทำให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกมาชี้แจงทันทีผ่าน Facebook (https://www.facebook.com/104972163017932/posts/1924707184377745/?d=n) ถึงบทบาทและหน้าที่ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะงานต่างๆที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้าง เช่น การจัดตั้งคชอาณาจักรที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนในเมืองใหญ่ งานวิจัยเกี่ยวกับช้าง ทั้งโภชนาการ และ ระบบสืบพันธุ์ การดูแลสุขภาพโดยสัตวแพทย์ และ การเล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวตามที่เป็นภาพ ซึ่งถือเป็นการฝึกในเชิงบวก (positive reinforcement) คือ การให้รางวัลเมื่อแสดงพฤติกรรมได้ถูกต้อง เลือกลงน้ำได้เอง ไม่มีใครบังคับ นี่คือการให้ทางเลือกกับสัตว์ และเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมของสัตว์ (enrichment) เพื่อให้สัตว์แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งช้างกับน้ำเป็นของคู่กัน ช้างชอบเล่นน้ำมาก และ เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงออกตามพฤติกรรมตามธรรมชาติ ของหลักสวัสดิภาพสัตว์ตามหลักมาตรฐานสากล 5 Domains ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก
ย้อนกลับมาถึงชื่อหัวข้อภาพ คือ Elephant in The Room คือ มีปัญหาอยู่ตรงหน้า ซึ่งเจ้าของภาพ คณะกรรมการ และ พิธีกร คงหมายถึงการนำช้างซึ่งเป็นสัตว์ป่า มาฝึกเพื่อการแสดงแบบละครสัตว์ หรือ อยู่สวนสัตว์ หรือ ในปางช้างเพื่อการท่องเที่ยวแบบของประเทศไทย แล้วคนไทยหรือผู้ที่เกี่ยวข้องอาจจะมองไม่เห็น หรือ ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ใส่ใจ ไม่แก้ปัญหา (ตามที่เขาคิดว่าเป็นปัญหา)
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมานาน และ พยายามที่จะมีการปรับความเข้าใจโดยให้ความรู้ออกไปให้มากที่สุด ว่าช้างถึงแม้ว่าจะเป็นชนิดเดียวกัน แต่ก็แยกและมีกฎหมายควบคุมดูแลเฉพาะ โดยแยกเป็นช้างบ้านซึ่งมีการจับมาใช้งานเป็นพันปีแล้วและยังคงอยู่จนปัจจุบัน (พ.ร.บ.สัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482) และ ช้างป่า (พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2462)
หลายคนอาจจะมองว่าช้างเป็นสัตว์ป่าควรจะอยู่ในป่าเท่านั้น ไม่ควรมีช้างบ้าน นั่นหมายความว่าจะต้องมีการนำช้างบ้านที่มีอยู่ประมาณ 4,000 เชือก ปล่อยคืนสู่ป่า ซึ่งหมายความว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างช้างและคนก็จะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เนื่องจากพื้นที่ป่าไม่เพียงพอ โดยปัจจุบันช้างป่ามีอยู่ประมาณ 3,000-3,500 ตัว และ มีประชากรคงที่ถึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในป่าด้านตะวันออก ที่เกิดปัญหาความขัดแย้งรายวัน และ เป็นสิ่งที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ การนำช้างคืนสู่ธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีการทำมานานมากกว่า 20 ปี โดยมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ และ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แต่ปัจจุบันได้มีนโยบายไม่นำช้างคืนสู่ธรรมชาติแล้ว แต่เป็นการดูแลช้างที่ปล่อยไปให้มีความเป็นอยู่ที่ดี
ในส่วนของช้างบ้านมีกฎหมายออกมาเพื่อดูแลช้างบ้านที่มีอยู่ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด เช่น ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพช้างในปางช้าง พ.ศ. 2563 และ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดมาตรฐานสินค้าการเกษตร: การปฏิบัติที่ดีสำหรับปางช้าง และ ยังจะมี พ.ร.บ.ช้าง ออกมาอีกในอนาคต
ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่พยายามปรับปรุงแก้ไขกันอยู่ เพียงแต่ข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่ถึงต่างประเทศ หรือ อาจจะถึงแต่ไม่เปิดใจรับฟัง เพราะตั้งธงไว้แล้วว่า ช้าง คือ สัตว์ป่าต้องอยู่ในป่าเท่านั้น อยู่กับคนไม่ได้
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องของช้างบ้าน เช่น การหย่านมเพื่อฝึก การใช้ขอและโซ่ในการควบคุมบังคับ การขี่ช้าง เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีงานศึกษา วิจัยและคำอธิบายมารองรับแล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้มีการเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชนมากเท่าที่ควร
ผมไม่สามารถบอกได้ว่าควาญที่ดูแลช้าง และสถานที่ที่ดูแลช้างบ้านจะดีเสมอไป บางครั้งก็มีการกระทำเกินกว่าเหตุและดูโหดร้ายเช่นเดียวกัน ทำให้คนในสังคมไทยที่ยังคุ้นชินกับการเลี้ยงดูช้างแบบไทยๆ ยังมองว่าโหดร้าย จะนับอะไรกับฝรั่งรักสัตว์ที่เข้ามาในไทยแล้วเห็นภาพการดูแลช้างที่ไม่คุ้นชิน และ มองว่าเป็นการทรมานสัตว์ ดังนั้นการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และ การปฏิบัติที่ดีสำหรับสถานที่เลี้ยงช้างให้เหมาะสมกับบริบทของไทย เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งเราก็มีกฎหมายออกมารองรับแล้ว ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น
ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนเปิดความคิดให้กว้าง รับฟังความคิดเห็น และ เรียนรู้ตามความเป็นจริง ไม่ไปตามกระแส โดยเฉพาะการมีงานศึกษา วิจัย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ มารองรับจะเป็นการยืนยันได้ดี
ฟังฝรั่งมากเกินไป จะสิ้นความเป็นไทยไปได้นะครับ
รศ.น.สพ.ดร.ฉัตรโชติ ทิตาราม ศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี