ขยายปมเป็นหนังยาว หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิ "หม่อมช้าง" ประธานชมรมลูกตถาคต พร้อมชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ และชมรมภักดีพระนเรศวร เปิดเวทีเสวนาปลุกชาวพุทธลุกขึ้นปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมเชิญชวนชาวพุทธกาฬสินธุ์ 1,000 คนลงชื่อยื่นฟ้องคนสอดไส้ถอดถอนพระสังฆาธิการ เจ้าคณะจังหวัดทำวงการศาสนาเสื่อม เลือกกาฬสินธุ์จังหวัดนำร่อง ขณะที่ป้ายไม่ต้อนรับ "พระเล็ก" เจ้าคณะรูปใหม่ผุดต่อเนื่อง
ความคืบหย้ากรณีมหาเถรสมาคม (มส.) มีคำสั่งถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป หนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ทำให้คณะสงฆ์ใน จ.กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) และญาติธรรมออกเคลื่อนไหวคัดค้าน เพราะมองว่าไม่เป็นธรรม
ล่าสุดวันที่ 10 พ.ย.64 หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิ หรือหม่อมช้าง ประธานชมรมลูกตถาคต พร้อมด้วย นางณัฐชยาน์ สมชนะ เลขาชมรมลูกตถาคต และนางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงค์ ประธานชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ และประธานชมรมภักดีพระนเรศวร ได้จัดเวทีเสวนาปกป้องพระพุทธศาสนาขึ้นที่หอประชุมพุทธมณฑลแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยมีพระสงฆ์ (ธรรมยุต) ประชาชน นักศึกษา ร่วมเวทีเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายใต้มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อคิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยหม่อมหลวงกานตพงศ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สังคมต่างรับรู้รับทราบกันโดยทั่วไปว่าเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นแล้วในวงการศาสนาของประเทศไทย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ เรื่องที่เกิดขึ้นหากเป็นการกระทำของสงฆ์ถือว่าเป็นสังฆเภทที่ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่สงฆ์ หรือหากเป็นการกระทำของคนนอกศาสนา ถือว่าเป็นการทำลายชาติ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง เรื่องทั้งหมดทั้งมวลกระทำโดยกลุ่มบุคคลหรือไอ้โม่งที่พวกเราจะต้องช่วยกันตามตัวมารับโทษตามกฎหมาย
หม่อมหลวงกานตพงศ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะเราเป็นชาวพุทธมามกะจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ดังกล่าวลุกลามและเกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนาไปมากกว่านี้และคงจะไม่มีชาวพุทธคนใดอยากจะให้เกิดสังฆเภทและบ่อนทำลายศาสนาอีก จึงได้ร่วมกับเครือข่ายที่ประกอบด้วยชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ ชมรมภักดีพระนเรศวร และชาวพุทธกาฬสินธุ์ จัดเวทีเสวนาปกป้องพระพุทธศาสนา เพื่อที่จะรวมพลังไม่ยอมให้พระพุทธศาสนาถูกทำลาย ไม่ยอมให้ประเทศไทยเราถูกแบ่งแยกเป็นรัฐอิสระ เพราะหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นเชื่อว่ามีขบวนการดังกล่าวอยู่เบื้องหลัง การดำเนินการหลายอย่างเกี่ยวพระพุทธศาสนาหรือวงการสงฆ์ ไม่เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย พวกเราจึงจะไม่ยอมในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องร่วมกันคือหาตัวไอ้โม่งในวงการศาสนามารับโทษให้ได้ โดยอาศัยกระบวนการทางศาลยุติธรรม
นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงค์ ประธานชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ และประธานชมรมภักดีพระนเรศวร กล่าวว่า ผลกระทบจากมติของ มส.และท่าทีของ พศ.ได้เห็นพลังศรัทธาธรรมของชาวพุทธกาฬสินธุ์ ที่มีความสามัคคี เข้มแข็ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพระสังฆาธิการและพระพุทธสานา จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ร่วมกับชมรมลูกตถาคต และชมรมภักดีพระนเรศวร จัดเวทีเสวนาปกป้องพระพุทธศาสนา โดยเชิญชวนชาวพุทธกาฬสินธุ์เข้าร่วมในครั้งนี้ เพื่อที่จะกอบกู้ศักดิ์ของชาวพุทธและทวงคืนสิทธิ์อันชอบธรรมให้กับพระพุทธศาสนา ที่นับวันจะถูกบุคคลบางกลุ่มลิดรอน และทำลายจนผุกร่อน
นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ กล่าวอีกว่า หากจะมองรอบด้านทุกภูมิภาคจะเห็นว่าสังคมไทย ซึ่งมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ กำลังถูกศาสนาอื่นรุกคืบและแทรกแซง ทั้งระดับองค์กร ผู้บริหาร หลายคนเป็นคนต่างศาสนา ณ วันนี้ พวกเราชาวพุทธจะนิ่งเฉยชักช้าไม่ได้แล้ว ที่จะปล่อยให้ศาสนาพุทธ และพระสงฆ์ถูกรังแก ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดพวกเราต้องลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันศาสนา และพระคุณเจ้าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการใช้อำนาจเหนือพระธรรมวินัย ขณะที่พระสงฆ์ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ทำให้ไม่มีความเชื่อมั่นในการทำงานของสำนักงานพระพุทธศาสนา เพราะที่ผ่านมาแทบจะไม่มีบทบาทใดๆเลย ในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ทั้งๆที่พระพุทธศาสนาตกอยู่ในวิกฤตการณ์แทรกแซงทั้งองค์กรและบุคคล หากเราไม่รวมพลังบริสุทธิ์ขึ้นสู้ อาจจะถูกแทรกแซงไปมากกว่านี้
"จากการเสวนาในครั้งนี้ ประกอบกับการเชื่อมโยงปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องพระธรรมวินัยและกฎหมายจะเป็นบรรทัดฐานในการทำงานขององค์กรที่เกี่ยวข้องให้มีความระมัดระวังในการทำงานและมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้น ในวันนี้จึงได้ร่วมกับเครือข่ายชมรมลูกตถาคตและชมรมภักดีพระนเรศวรลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดนำร่อง โดยเชิญชวนชาวพุทธมาร่วมปกป้องพระพุทธศาสนา และร่วมลงชื่อล่าเพื่อส่งฟ้องคนที่อยู่เบื้องหลังการถอดถอนและแต่งตั้งพระสังฆาธิการ เป็นชนวนให้วงการศาสนาเสื่อม เบื้องต้นตั้งเป้า 1,000 คน เพื่อดำเนินการส่งฟ้องศาล โดยชมรมรักษ์พุทธศาสน์นานาชาติ จะเป็นโจทก์ร่วมฟ้อง ส่วนที่ว่าจะฟ้องใครนั้นรู้ตัวแล้ว แต่จะไม่ขอเปิดเผยในวันนี้ เพราะกลัวไก่ตื่น ทั้งนี้จะกำหนดวันร่วมลงชื่อฟ้องในเร็วๆนี้" นางสาวอิงค์ณภัจฉร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ที่ถนนสายอำเภอยางตลาด-กมลาไสย บริเวณบ้านเสียว ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านได้นำป้ายที่มีข้อความ "มส.-พส. หยุดทำสงฆ์แตกแยก สังฆเภท ไม่ต้อนรับพระเล็ก" มาปักไว้ แสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับมติการถอดถอนและแสดงเจตนารมณ์ไม่ต้อนรับพระเล็ก เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปใหม่ โดยมีประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนเส้นทางหลวงนี้สามารถอ่านป้ายข้อความได้อย่างชัดเจน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี