ชาวบ้านในตำบลโพนงาม อำเภอกมลาไสย สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์ เดือดร้อนหนัก หลังรวมกลุ่มกู้เงินกองทุน 5 แสนบาทเพื่อซื้อวัวพันธุ์ดีกับบริษัทเอกชนมาเลี้ยงหวังสร้างงาน สร้างอาชีพ แต่ถูกนายทุนจัดส่งวัวมาให้ 10 ตัวราคาตัวละ 36,000 บาทรวม 360,000 บาท ไม่ตรงตามสัญญา ทั้งน้ำหนักและสายพันธุ์ไม่ตรงสเปค บางตัวผอมแห้ง มีตุ่มคล้ายป่วยโรคลัมปีสกิล รวมค่าอาหารเสริม ค่าหญ้าอีกว่า 140,000 บาท วอนนายทุนคืนเงิน แต่บ่ายเบี่ยงตลอด เรียกร้องส่วนราชการช่วยเหลือ
วันที่ 17 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการดำเนินชีวิตของประชาชนในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ซึ่งที่นอกจากจะประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 แล้วยังได้รับความเดือดร้อนจากการถูกนายทุนพ่อค้าขายวัว บริษัทเอกชนจัดส่งวัวไม่ได้สเป็กมาให้
โดยล่าสุดที่บ้านธนบุรี ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรีจำนวน 10 คน นำโดยนายวิเชฐ เขตประกร อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 12 บ้านธนบุรี ต.โพนงาม ประธานกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี ได้รวมตัวกันปรับทุกข์ และเรียกร้องให้นายทุนคืนเงินจำนวน 500,000 บาท เป็นเงินค่าซื้อวัว 10 ตัว และค่าอาหารวัว หลังมีการจัดส่งมาแต่ไม่ตรงตามสัญญา ทั้งน้ำหนักและสายพันธุ์ โดยชาวบ้านระบุว่าได้เข้าร้องทุกข์กับปรึกษากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
นายวิเชฐ เขตประกร ประธานกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี กล่าวว่า ตนและชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ ได้รวมกลุ่มกันในนามกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี 10 คนทำโครงการขอกู้เงินกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์จำนวน 500,000 บาท ในปีเมื่อปี 2563 และได้รับการอนุมัติต้นปี 2564 เพื่อนำมาซื้อวัวลูกผสมพันธุ์ดีมาเลี้ยงสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยการจัดซื้อได้รับคำแนะนำจากผู้ประสานงานคนหนึ่งซึ่งมีความเชื่อใจกัน ก่อนที่จะมีการติดต่อกับแหล่งจำหน่ายวัว ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและทำสัญญาซื้อขายระหว่างกลุ่มเรากับนายทุนบริษัทตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2563
โดยในสัญญาซื้อขาย 500,00 บาทระบุว่าการวัวต้องเป็นสายพันธุ์ผสมบราห์มันจำนวน 10 ตัว แต่ละตัวต้องมีน้ำหนัก 300 กิโลกรัมราคาตัวละ 36,000 บาท รวมเป็นเงิน 360,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 140,000 บาท แบ่งเป็นค่าอาหารเสริม ค่าหญ้าหมัก และค่าดำเนินการอื่นๆ ทั้งนี้กำหนดมอบวัววันที่ 10 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมามา
นายวิเชฐ กล่าวต่อว่า หลังจากกองทุนฯได้อนุมัติเงินกู้ 500,000 บาทเข้าบัญชีของกลุ่มฯจึงทยอยโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายทุนขายวัวและอาหารเสริมเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 จากนั้นวันที่ 24 กันยายน 2564 ได้เดินทางไปดูตัววัวเพื่อทำการคัดเลือกวัวที่จะนำมาเลี้ยงที่ฟาร์มแห่งหนึ่งใน อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม หลังจากนั้นจึงได้กลับมาที่บ้านด้วยความดีใจที่จะได้มีวัวงามเลี้ยงและจะได้มีกำไรเมื่อถึงอายุจำหน่าย
นายวิเชฐ กล่าวอีกว่า แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์พลิกผันเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปธุระต่างอำเภอมีคนเป็นตัวแทนนายทุนได้จัดส่งวัวมาให้กับกลุ่มจำนวน 10 ตัว ซึ่งทางสมาชิกกลุ่มได้ตรวจสอบสภาพวัวแต่ละตัวที่ส่งให้นั้นไม่เป็นไปตามสเป็กที่กลุ่มต้องการและไม่ตรงตามสัญญา อีกทั้งไม่ใช่วัวตัวที่ไปคัดเลือกและจองไว้ โดยวัวที่ส่งมาบางตัวไม่ใช่พันธุ์ผสมบราห์มัน เป็นวัวพื้นบ้าน บางตัวรูปร่างผอมแห้ง อายุไม่เป็นไปตามสัญญา และส่วนใหญ่น้ำหนักไม่ถึง 300 กิโลกรัม
"อีกทั้งบางตัวมีตุ่มขึ้นตามผิวหนังคล้ายกับเป็นโรคลัมปีสกิน ซึ่งทางสมาชิกกลุ่มได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบจึงได้รีบเดินทางมาดู พร้อมตกลงกันในกลุ่มว่าจะไม่ลงชื่อยอมรับวัวที่ส่งมา เพราะมองว่าเป็นวัวขี้โรค จากนั้นได้แจ้งให้นายทุนมารับวัวจำนวนดังกล่าวกลับไป และบอกว่าจะนำวัวมาเปลี่ยนจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการส่งวัวมาให้ใหม่ และหากไม่ส่งวัวมา ทางกลุ่มอยากขอเงินคืนเพื่อที่จะเอาไปซื้อเอง" นายวิเชฐกล่าว
ด้านนางสำเนียง ขันวิสิทธิ์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 บ้านธนบุรี หมู่ 5 ต.โพนงาม สมาชิกกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดดังกล่าว การที่นำวัวที่ไม่ตรงสเป็กมาส่งให้ ไม่ต่างกับส่งวัวขี้โรคมาให้จึงได้ประสานกับทางนายทุน ซึ่งเป็นตัวแทนมาทำสัญญาซื้อขายกับกลุ่ม เพื่อขอให้โอนเงินมาคืนกับกลุ่มและเพื่อที่สมาชิกกลุ่มเราจะไปจัดหาซื้อวัวจากแหล่งอื่นที่มีคุณภาพมาเลี้ยงเองแต่ทางตัวแทนนายทุนก็บ่ายเบี่ยงและผลัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา สุดท้ายไม่สามารติดต่อไป จึงได้เตรียมเอกสารไปปรึกษาข้อกฎหมายกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อประมาณกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ขณะที่นายรัชต มูลทรัพย์ (ชื่อ อ่านว่า รัด-ชะ-ตะ) หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทางกองทุนฯได้อนุมัติสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย วงเงิน 500,000 บาทให้กับกลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรี ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อจัดซื้อวัวมาเลี้ยงจริงโดยโอนผ่านทางธนาคารในส่วนของการดำเนินการต่างๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง ทางกลุ่มจะเป็นฝ่ายดำเนินการเอง ซึ่งระเบียบว่าไว้อย่างนั้น
นายรัชตกล่าวอีกว่า หลังจากทราบปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกกองทุนฯ กลุ่มเกษตรยั่งยืนบ้านธนบุรีที่ปฏิเสธการรับวัวที่ฝ่ายคู่สัญญาจัดส่งให้ พร้อมเรียกร้องให้ทางฝ่ายคู่สัญญาจ่ายเงินคืนนั้น ทางกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขา จ.กาฬสินธุ์ กำลังดำเนินการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 60 วัน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี