ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อยังสูงอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่าจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวภายใต้เงื่อนไขและมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ 17 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว ซึ่งมีบางจังหวัดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงกรุงเทพมหานคร แต่ยังคงอยู่ภายใต้การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ก่อนหน้านี้ขยายไปจนถึง 30 พ.ย.
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด -19 เพิ่มขึ้น 8,165 ราย เสียชีวิต 55 ราย และในขณะเดียวกัน คือวันที่ประเทศไทยเปิดประเทศวันแรก “นางสาวฟ้ารุ่ง ศรีแดง” สาขาวิชาการสื่อสารมวลชน คณะวิทยาการจัดการ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา บอกกับ "ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์" ว่า ความรู้สึกมีทั้งความหวังและความหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน เพราะ ประเทศไทยตอนนี้ประชากรที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มมีเพียง 42.62% เท่านั้น และตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง มีคนเสียชีวิตทุกวัน ประชาชนที่ฉีดวัคซีนมีหลายชีวิตที่เสียชีวิตเพราะผลข้างเคียงของวัคซีน บางรายฉีดวัคซีนก็ยังสามารถกลับมาติดเชื้อได้อีก บางรายฉีดวัคซีนภูมิไม่ขึ้น เหมือนที่ฉีดมาเปล่าประโยชน์ เพราะวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพ แต่จำเป็นต้องฉีด
"ที่กล่าวมานี้ยังไม่นับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด -19 แต่ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ บางรายเสียชีวิตไปโดยไม่ได้รับการรักษา ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเรามีคนไร้บ้านที่เป็นผู้ป่วยจำนวนมาก จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้รับการรักษา ไร้การเยียวยา จนทำให้ที่ผ่านมาเห็นภาพน่าสลดใจทุกวัน"
ฟ้ารุ่ง กล่าวต่อไปว่า ในตอนนี้ประเทศไทยของเราได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ผ่อนปรนมาตรการเกือบ 100% ทุกๆ กิจการที่เป็นศูนย์รวมผู้คนจะกลับมามีผู้คนคับคั่ง
หากมองถึง "ข้อดี" นั้นก็คือ เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง พ่อค้าแม่ค้า จะมีรายได้มากขึ้น และผู้ประกอบการในหลายๆ กิจการก็จะกลับมาตั้งหลักได้อีกรอบ เงินภายในประเทศจะหมุนเวียน มีการจับจ่ายใช้สอย สถานที่ท่องเที่ยวจะครึกครื้นเหมือนเดิม กลับมารื้อฟื้นภาพกรุงเทพเมืองศรีวิไล พร้อมกับการเริ่มต้นใหม่
หากมองถึง "ข้อเสีย" คาดว่าประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยับยั้งไม่อยู่แน่นอน เพราะ ชาวต่างชาติที่เข้ามานั้นไม่ต้องกักตัวใดๆ จะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าทั้งต่างชาติและคนในชาติจะไม่แพร่เชื้อสู่กัน ประชาชนไทยยังได้รับวัคซีนไม่ถึงครึ่งของประชากรทั้งหมด คนไร้บ้าน คนไร้ความรู้ความสามารถ ยังไม่ได้รับวัคซีน และยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่รอการจัดสรรวัคซีนที่ล่าช้า และใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง
โดยเหตุผลของคนกลุ่มนี้ที่เขายังไม่ได้รับวัคซีนเพราะเขาไม่มั่นใจในประสิทธิภาพวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้ อย่างที่ทุกคนรู้ว่าองค์การอนามัยโลกไม่ได้รับรองวัคซีนซิโนแวค และมีหลายประเทศที่ไม่ต้อนรับการฉีดวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมาประชาชนล้มตายเพราะการฉีดวัคซีน แต่ไม่มีการเยียวยาใดๆ สถานการณ์เป็นเช่นนี้จะให้ไว้ใจวัคซีนที่รัฐบาลจัดให้หรือ?
"ที่ผ่านมาประชาชนช่วยกันเองทุกอย่างจนผ่านมาถึงวันนี้ ในสถานการณ์ที่กำลังดีขึ้น และไม่อยากเห็นตัวเลขการติดเชื้อวันละหมื่นกว่าคนอีกแล้ว การเปิดประเทศครั้งนี้คิดว่าไวไปสำหรับประเทศไทย ประเทศไทยยังไม่พร้อมในหลาย ๆด้าน เพราะการจัดการไม่ได้อยู่ในขั้นดีที่ควรจะเปิดประเทศเหมือนประเทศอื่น ๆ ประชาชนควรได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและฉีดแล้วเกิน 80% จึงสมควรเปิดประเทศ หากการเปิดประเทศครั้งนี้มีผลตอบรับดีก็จะดีไปเลย หากผลตอบรับไม่ดีก็เตรียมดิ่งลงเหว" ฟ้ารุ่ง กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี