ภายหลังจากที่การเสนอข่าวออกไปว่า "สถานีรถไฟหัวลำโพง" จะหยุดให้บริการประชาชน และยุติบทบาทลงในวันที่ 23 ธ.ค.64 ทำให้ผู้ที่สัญจรโดยใช้การขึ้นรถ-ลงรถ อาจได้รับผลกระทบตามกัน ทางทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์ จึงลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงหากสถานีรถไฟหัวลำโพงต้องยุติบทบาทลงไปจริงๆ
“น.ส.ศินีนาถ” อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 4 นั่งรถไฟสายกรุงเทพฯ-ลพบุรี กลับบ้านที่สถานีบางปะอิน โดยศินีนาถ เล่าให้ฟังว่า ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีอยู่แล้วเพราะปกติจะนั่งรถไฟทุกวันจันทร์ตอนเช้าจากปางปะอิน มาลงที่สถานีหัวลำโพง เพื่อมาเรียน และวันศุกร์ตอนเย็นก็จะนั่งรถไฟกับบ้านเช่นเคย ซึ่งทำแบบนี้มาตั้งแต่เรียนแต่ถ้าไม่มีรถไฟจากสถานีหัวลำโพงคงเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวใหม่ เดินทางจะต้องปรับเรื่องของเวลาใหม่ทั้งหมด การเดินทางก็จุยุ่งยากมากขึ้น และที่แน่ๆเลยคือต้องเผื่อเวลา เพราะถ้านั่งรถไฟมันก็จะมีรอบของมันอยู่ รถไฟจากสถานีหัวลำโพงกว่าจะถึงสถานีบางซื่อมีคนขึ้นลงจำนวนมาก ยิ่งเฉพาะคนทำงานเช้านั่งรถไฟมาทำงาน เย็นนั่งรถไฟกลับ พวกเขากระทบมากกว่าตนแน่นอน ใน 1 วัน คนไม่น้อยเลยที่โดยสารด้วยรถไฟ จริงๆ ไม่อยากให้ปิดเลยยังอยากให้มีอยู่
“ก็คิดไม่ออกเหมือนกันหากเขาปิดแล้วหนูจะต้องทำอย่างไรต่อ ต่อทำอย่างไรต่อ หนูก็เป็นเสียงของประชาชนที่ยังคงใช้รถไฟโดยสารมาเรียน และกลับบ้าน แต่ถ้ามันต้องปิดจริงๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเขาจะปรับเป็นศูนย์การค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวก็ขอให้มีรถไฟวิ่งเหมือนเดิม เพราะบางคนเขานั่งมาหลายปีมาเกือบครึ่งชีวิต มันก็เป็นเรื่องเศร้าเหมือนกัน จริงๆ ตอนนี้คนที่ใช้บริการรถไฟก็ไม่น้อย ดูเวลาเร่งด่วนตอนเลิกงานคนขึ้นมาเยอะมาก บางครั้งแทบจะไม่ได้นั่งจะต้องยืน หนูคิดว่าว่าอะไรมันดีอยู่แล้วก็ไม่ควรปรับให้แย่กล้าเดิม” น.ส.ศินีนาถ กล่าว
ขณะที่ “นายชุติภาส ตุลาใคร” อายุ 51 ปี ขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพงมานาน 7 ปี เล่าให้ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ฟังว่า ตนขับวินฯ มานานแล้ว ก็ไม่อยากให้เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ถ้าเขาปรับเปลี่ยนก็ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ที่นี่ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้ามีที่ให้เราอยู่ต่อก็น่าจะดี เพราะถ้าไปทำอาชีพอื่นก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ถ้าไม่มีที่อยู่พวกเราก็ต้องไป แต่ถ้าปิดไปเลยกระทบพวกเราแน่นอน แต่ยังไม่เห็นมีป้ายติดประกาศอะไรในบริเวณนี้ แต่ก็คิดว่ามีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนเป็นอะไร
“ผมอยู่ที่นี่จนชินแล้ว กลับบ้านแล้วเช้าก็มาทำงานที่หัวลำโพงทุกวัน ความผูกพันมันก็มีเพราะอยู่รงนี้ทุกวัน หากมีการเปลี่ยนแปลงก็ใจหายเหมือนกัน เพื่อนๆที่อยู่ตรงนี้บางคนอยู่นานกว่าผมอีก พอได้ยินข่าวก็ไม่สบายใจเหมือนกัน” นายชุติภาส กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ทีมข่าวฯ ได้เข้าไปสังเกตเห็นว่าบนโลกโซเชียลก็มีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเช่นกันในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "รถไฟไทย TrainThailand" โดยสมาชิกทุกคนให้ความคิดเห็น อาทิ จะปิดแล้วหรือรถไฟขวัญใจคนจน , อยากจะร้องไห้ , มันไกลมากเลยนะค่ะ ต้นทางหัวลำโพงดีสุด , น่าจะเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูส่วนคนรุ่นปัจจุบันจะได้ระลึก , โบราณสถานหรือตำนานไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆอะไรอนุรักษ์ได้ควรเก็บไว้ , ลำบากเลยลูกสาวต้องนั่งรถไฟไปเรียนที่ลาดกระบังด้วยแล้วอย่างนี้จะไปขึ้นที่ไหน , ไม่น่าปิดเลยควรจะเปิดเฉพาะรถชานเมือง , ใช่ถ้าปิดน่าจะมีขบวนจากหัวลำโพงไปบางซื่อนะคนตจว.ทีทำงานแถบฝั่งธนจะใด้ไปง่ายดีและสะดวกด้วยเวลากลับบ้านที่ตจว. , เสียดายมากๆผมพูกพันกับสถานีตั้งแต่เด็ก เป็นต้น. -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี