ประธานชมรมกาแฟน่านฟันเปรี้ยง‘กาแฟ’แก้วละ900บาทแพงเวอร์ จว.นัดเคาะมาตรฐาน 11 ม.ค.
6 มกราคม 2565 ความคืบหน้ากรณีดรามานักท่องเที่ยวโพสต์กาแฟสะปันแก้ว 300 ซิกเนเจอร์แก้วละ 900 บาท จนเป็นประเด็นคำถามว่าแพงเกินจริงหรือไม่ จนกระทบภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว รวมทั้งกาแฟเมืองน่าน ซึ่งปีที่ผ่านมาชนะการประกวดกาแฟระดับประเทศมากกว่า 10 รางวัล
ด้านชมรมกาแฟพิเศษน่าน ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว พร้อมออกแถลงข้อความ สรุปว่า “แถลงการณ์จากการเข้าพื้นที่ ตรวจสอบพบว่าคุณภาพเครื่องไม้เครื่องมือ ความเข้าใจในเมล็ดกาแฟการสื่อสารยังไม่สอดคล้อง กับราคากาแฟที่ตั้ง
การที่เราจะขายกาแฟราคาสูงขนาด 900 บาท ความรู้ความสามารถ การสื่อสารของบาริสต้า คุณภาพเมล็ด การอธิบายผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ เครื่องบดร้านที่ขายแพงขนาดนี้ตัวเป็นแสนครับ ดังนั้นผมคิดว่า การตั้งราคาควรอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงไม่ได้แค่กล่าวอ้างว่ามี ป้ายราคาชัดเจนแล้ว
คนรู้ก็มีคนไม่รู้ก็เยอะไปตั้งขายที่แหล่งท่องเที่ยวเน้นขาจร คนกินเป็นก็อาจไม่เข้าใกล้คนอยากลองก็โดนไปแม้จะบอกว่าชิมแล้วไม่ชอบไม่ต้องจ่าย แต่โดยวิสัยความเกรงใจก็ต้องจ่าย ละครับ
ทางชมรมเห็นควรประสานหน่วยงานจังหวัดเข้าตรวจสอบเรื่องขายเกินราคากับ การบริการที่ไม่สุภาพ อย่างเป็นทางการต่อไป”
ด้านนายภีร์นริศร์ ผ่องหทัยกุล ประธานชมรมกาแฟพิเศษ จังหวัดน่าน และเจ้าของกิจการโรงคั่วกาแฟ น.น่าน Lab & Roastery กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาทางชมรมได้ร่วมกับเกษตรกรพัฒนาผลักดันกาแฟน่านให้เป็นที่รู้จัก ส่งกาแฟเข้าประกวดที่สมาคมกาแฟพิเศษไทยจนได้รับรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 1 และ 2 และรางวัลอื่นอีกรวม 6 รางวัล และของไร่กาแฟเดอะม้งอีก 4 รางวัล รวมเป็น 10 รางวัล ดังนั้นกาแฟน่านปีที่ผ่านมาจะมีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก เพราะเราคว้ารางวัลอันดับ 1 และ 2 มาหลายรางวัล
นายภีร์นริศร์ ระบุว่า จนมาถึงดรามากาแฟที่สะปัน เราในฐานะผู้ประกอบการรู้สึกไม่สบายใจเรื่องราคา เพราะคนมาเที่ยวน่านมากินกาแฟน่านก็ต้องประทับใจ แต่ตอนนี้กับเกิดดรามาขึ้นมาว่าทำไมกาแฟที่สะปันของบุคคลท่านนี้ถึงราคาสูงมาก ในความเป็นจริงแล้วการขายกาแฟในตลาดของน่านมีราคากลางตามความเป็นจริงอยู่ เราขายก็ไม่ได้ราคาแพงจนโอเวอร์ไป เราขายในร้านกาแฟมาตรฐานจะอยู่ที่ 50-90 บาท อยู่ที่ว่าเป็นสถานที่ในเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว
“แต่ที่จะโอเวอร์ขึ้นไปถึงราคา 800-900 บาท หรือ 400-500 บาท กาแฟมันต้องพิเศษจริงๆ เช่น เกอิชาของจังหวัดน่านที่ถือว่าหายากที่สุดที่คว้ารางวัลอันดับ 1 มา ราคาในท้องตลาดอยู่ที่กิโลกรัมละ 20,000 บาท ก็ยังขายในราคาแก้วละ 300-400 บาท” นายภีร์นริศร์ กล่าว
ขณะเดียวกันจากการสอบถามข้อมูลจากคณะกรรมการหมู่บ้านสะปัน ทราบว่าชายรายดังกล่าวได้เข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ก่อนสิ้นปี และเข้ามาแจ้งเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 โดยแจ้งว่าจะมาขอพักที่ลานกางเต็นท์ แต่เห็นว่าขายกาแฟด้วย ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นการทำกินและอีกอย่างปีที่ผ่านมาก็มาขายอยู่ที่นี่ประมาณ 2 เดือน คือ เดือนธันวาคม และมกราคม แต่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไร
ทั้งนี้ ชายรายดังกล่าวได้ออกจากพื้นที่ไปแล้วตั้งแต่เย็นวานนี้ (5 มกราคม 2565) โดยไม่ทราบว่าเดินทางไปที่ไหน หลังจากนี้หากใครเข้ามาขายของขายสินค้าในพื้นที่ต้องเข้มงวดกวดขัน รวมทั้งต้องขออนุญาตจากทางชุมชนก่อนเพื่อป้องกันการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอีก โดยทางจังหวัดน่านจะเรียกผู้ประกอบการมาประชุม และกำหนดมาตรการ ทั้งการบริการ และราคาในวันที่ 11 มกราคม 2565 เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้สมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี