ระยะทางไม่ใช่ปัญหา ‘ลุงเก๋า’วัย 53 ปีชาวกรุงเทพฯ รับเงินอั่งเปาช่วงตรุษจีนนั่งรถไฟกว่า 700 กม.ตามหาเพื่อนเก่าฟื้นความทรงจำที่ดีที่อุดรฯ เผยชีวิตต้องสู้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ ถูกโกงค่าแท็กซี่ โดนไล่ออกจากงานเมื่อ 4 เดือนก่อน
ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายวีระพล รักเสมอวงษ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า ชาวบ้านได้แจ้งให้เข้าไปช่วยเหลือชายคนหนึ่งเดินกะโผลกกะเผลก เหมือนไม่ใช่คนในพื้นที่ คาดว่าจะตามหาใครสักคน จึงได้ไปสอบถามเบื้องต้นขณะที่ชายคนดังกล่าวกำลังนั่งทานข้าวที่ร้านข้ามต้ม
จากการสอบถามทราบชื่อเบื้องต้นว่า “นายเก๋า” ได้เดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร (กม.) เพื่อตามหาเพื่อนบ้านที่ใจดีพักอยู่ในซอยเดียวกันย่านลาดพร้าว ชื่อเล่นว่า “ตุ๋ม” แต่ยังหาไม่พบ และเดินรอบ รพ.บ้านดุง อยู่นานจนพลบค่ำ
ต่อมานายวีระพลได้ไปพบกับ นายเก๋า นั่งทานข้าวอยู่ร้านข้าวต้ม สอบถามเบื้องต้นทราบว่าชื่อ นายสมบูรณ์ แซ่ลิ้ม อายุ 53 ปี หรือ “เก๋า” เป็นอดีตอาสาสมัครบรรเทาสาธรณภัยแห่งประเทศไทย และป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ได้นั่งรถไฟมาไกลเพื่อมาหาเพื่อนที่พักอยู่ในซอยเดียวกัน อยากมาเล่นกับเพื่อน แต่ยังหาไม่เจอ
นายเก๋า บอกว่า ตนทำงานเป็นอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย 22 ปี เคยรู้จักกับแม่ของ “นางตุ๋ม” สมัยไปทำงานขายปาท่องโก๋ที่กรุงเทพฯ และอยู่บ้านพักในซอยเดียวกัน ทำให้สนิทกันเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ตนป่วยเป็นโรคสมองตีบ ทำงานไม่ได้เต็มที่ จึงออกมาทำงานรับจ้าง แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ออกจากงานเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว และเมื่อตรุษจีนที่ผ่านมาได้รับเงินอั่งเปาจากผู้ใหญ่ใจดีกว่า 2,000 บาท จึงอยากมาหาเพื่อนบ้านที่รักใคร่สนิทกันเป็นพี่เป็นน้อง โดยตนนั่งรถไฟมาลงที่บ้านดุงทันที แต่โดนแท็กซี่โกงเงินไป 400 บาท พอมาถึงสถานีรถไฟอุดรธานีก็นั่งรถโดยสารต่อมาที่ อ.บ้านดุง เพื่อตามหาเพื่อนบ้านที่สนิทกัน แต่ยังจำเส้นทางไม่ได้แน่ชัด เพราะตอนนี้ป่วยและต้องเดินตามหาทั้งวัน
ต่อมานายวีระพลจึงอาสาพาไปหาป้าตุ๋มที่บ้านหลังหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบ้านดุง เมื่อทั้ง 2 คนเจอะเจอหน้ากันต่างพากันดีใจ โดย ป้าตุ๋ม บอกว่ามาได้อย่างไร ไกลขนาดนี้ และบอกว่ารู้จักและสนิทกันกับ “พี่เก๋า” เพราะบ้านพักอยู่ในซอยเดียวกันสมัยไปขายปาท่องโก๋ที่กรุงเทพฯ จากนั้นตนเองย้ายมาอยู่ที่บ้านเกิด
“พี่เก๋าจะสนิทกับแม่ มีอะไรเราจะช่วยเหลือแบ่งปันกันตลอด และเคยพาพี่เก๋ามามาทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีที่บ้านดุงเมื่อหลายปี ไม่คิดว่าเขาจะเดินทางมาหา”
ด้าน พี่เก๋า” บอกว่า ไม่ได้เจอเพื่อนบ้านคนอุดรที่ใจดี จึงอยากมาหาเพราะคนอุดรใจดี
พอพูดคุยกันเสร็จทางจิตอาสาได้พาไปพัก จากนั้นเวลา 17.00 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ได้ขับรถอาสาพาไปที่สถานีรถไฟ จ.อุดรธานี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์ 1 คัน และชำระค่ารถไฟให้ด้วย โดย “พี่เก๋า” เดินทางขึ้นรถไฟเที่ยว 19.30 น.
ก่อนขึ้นรถไฟบอกว่าไกลแค่ไหนก็มา แม้ป่วย ที่มาหาเพื่อนบ้านเพราะคนอุดรใจดี มีน้ำใจ นับเป็นเรื่องราวดีๆของ “พี่เก๋า” หรือ “ลุงเก๋า” ที่เดินมาไกลกว่า 700 กม. เพื่อตามหาเพื่อนบ้านที่ดีถึงอุดรธานี
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี