เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 16 ก.พ.65 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และพุทธศาสนิกชนชาว อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ – สามเณร จำนวน 40 รูป บริเวณหน้าองค์พระธาตเจดีย์บนวัดพระธาตุกอยกองมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวแม่ฮ่องสอน เนื่องในวันมาฆบูชา ท่ามกลางอากาศที่ยังคงหนาวเย็น และเริ่มมีหมอกควันไฟป่าปกคุมให้เห็น
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ร่วมกันแต่งด้วยชุดขาวไหว้พระสวดมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนา นั่งสมาธิและสวดมนต์ทำวัดเย็นตามวัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และในช่วงค่ำวันนี้จะ มีพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุเจดีย์บนวัดพระธาตุดอยกองมูในเวลา 19.00 น.
วันเดียวกัน นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้ง 4 ท่าน หัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2565
โดยมีพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค 16 (ธรรมยุต)/ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์/ได้กล่าวสัมโมทนียกถาให้พรแก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมพิธี ณ บริเวณถนนราชดำเนินหน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกันนี้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2565 ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัว หมู่คณะ มีการร่วมกันนำผืนผ้าสีเหลืองจีวรเป็นม้วนที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ด้วยการทำบุญตามกำลังศรัทธา หรือผ้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาจำหน่าย จากนั้นมีการนำมาคลี่ออกแล้วถือเป็นแถวเดินเวียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จำนวน 3 รอบ ก่อนจะนำไปพันรอบองค์เจดีย์รายที่อยู่รอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรอง และสวมหน้ากากอนามัย 100 %
ส่วนช่วงเย็นวันนี้ (16 ก.พ. 65) เวลา 17.00 น. ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช จะกำหนดจัดพิธีเชิญผ้าพระบฏพระราชทาน จำนวน 5 ผืน ประกอบด้วย ผ้าพระบฏพระราชทานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผ้าพระบฏพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ้าพระบฏพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ผ้าพระบฏพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และผ้าพระบฏพระราชทานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประกอบพิธีทางศาสนา อัญเชิญผ้าพระบฏพระราชทานถวายองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมจัดพิธีบูชาเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชาต่อเนื่องด้วย
ขณะที่ ที่วัดเลียบ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ประชาชาวสงขลา ได้นำอาหารหวานคาวข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานพระโอวาทสำคัญอันถือได้ว่าเป็นหัวใจของคำสอนในพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ในวันเพ็ญ (ขึ้น 15ค่ำ) เดือนสาม ดวงจันทร์โคจรมาเสวยมาฆฤกษ์ แต่ถ้าปีใดมี อธิกมาส คือ เดือนแปดสองแปด วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญกลางเดือนสี่ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นที่ พระเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ รัฐมคธ ในปีแรกของการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ คือ หลังจากตรัสรู้แล้วได้ 9 เดือน ความประจวบกันพอดีของเหตุการณ์ในวันนี้ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ มีสี่ประการคือ
ประการแรก เป็นการมาชุมนุมกันของพระสงฆ์สาวก จำนวน 1,250 รูป เพื่อเฝ้าพระบรมศาสดา โดยมิได้นัดหมาย ประการที่สอง พระสงฆ์สาวกดังกล่าวล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น ประการที่สาม พระสงฆ์สาวกดังกล่าวล้วนแต่ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าด้วยวิธี เอหิภิกขุอุปสัมปทาและประการที่สี่ วันนั้นดวงจันทร์เพ็ญเสวยมาฆฤกษ์เต็มบริบูรณ์ความพร้อมกันขององค์สี่ประการจึงเรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต โดยในวันนี้ มีพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสงขลามาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรเป็นจำนวนมากและผลบุญจากการทำบุญตักบาตรในวันนี้พสกนิกรชาวจังหวัดสงขลาถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
ส่วนนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2565 โดยพุทธศาสนิกชนชาวพระนครศรีอยุธยา พาบุตรหลาน เข้าวัดทำบุญ ปฏิบัติธรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว และในช่วงเย็นจะมีการร่วมกันเวียนเทียน ปฏิบัติธรรม สวดมนต์เจริญจิตภาวนา เนื่องในวันมาฆบูชา หรือวันพระใหญ่ โดยมีพระธรรมรัตนมงคล เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา
พระธรรมรัตนมงคล กล่าวว่า วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 พระสงฆ์ จำนวน 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พระสงฆ์ทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 และได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า ดังนั้น วันมาฆบูชา เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันจาตุรงคสันนิบาต หมายความว่าการประชุมด้วยองค์ 4 และถือว่าเป็นวันพระธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งในวันสำคัญทางพุทธศาสนาเช่นนี้ พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่ นิยมออกมาทำบุญตักบาตร ฟังธรรม เวียนเทียน เพื่อทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ละเว้นจากการทำบาป
ซึ่งที่วัดพุทธาธิวาส พระอารามหลวง อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง พร้อมด้วยนายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง นำพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา และกิจกรรมสวดมนต์ ฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรม ถวายอาหาร/ผลไม้ ณ ศาลาการเปรียญ ที้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมทำนุบำรุงอนุรักษ์ ประพฤติปฏิบัติตนบำเพ็ญกุศลรักษาศีล ละเว้นอบายมุขทั้งปวง สืบสานวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา ให้คงอยู่กับชาติไทยสืบไป
ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยวัดและสถานที่จัดกิจกรรมได้ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข มาตรการป้องกันของทางจังหวัดอย่างเคร่งครัด
สำหรับวันมาฆบูชา ประจำปี 2565 ตรงกับวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา ซึ่งวันมาฆบูชา เดิมเรียกว่า วันมาฆปุณณมี หมายถึง วันที่พระจันทร์เพ็ญเต็มดวงในเดือนมาฆะ ส่วนมาฆบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆะ คือ วันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งวันมาฆบูชานี้ เป็นวันที่พระภิกษุ 1250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และมีเหตุอัศจรรย์พร้อมกัน 4 ประการ เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต การประชุมพร้อมกันด้วย องค์ 4 และในวันนี้ พระพุทธเจ้าทรงกระทำวิสุทธิอุโบสถ ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งเราถือกันว่า เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา. -008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี