สามีแรงงานชาวบุรีรัมย์ที่ไปทำงานนวดแผนไทยในยูเครน เตรียมผูกแขนรับขวัญกลับบ้านปลอดภัย พร้อมเผยคลิปนาทีภรรยาและเพื่อนแรงงานอพยพหนีตาย ส่วนตัวไม่อยากให้กลับไปทำงานอีก แต่ไม่รู้จะหาเงินไหนใช้หนี้ วอนรัฐช่วยเหลือ
2 มีนาคม 2565 นายสมควร ดีปราไสย อายุ 44 ปี ชาวตำบลยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สามีของ น.ส.อำพร พาหา อายุ 41 ปี หนึ่งในแรงงานชาวไทยที่ไปทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทยที่ประเทศยูเครน ที่เกิดเหตุการณ์สู้รบรุนแรง และถูกอพยพกลับไทย ได้พยายามโทรวีดีโอคอลติดต่อหาภรรยา หลังทราบว่าได้รับการช่วยเหลือและเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่ได้พูดคุยกับภรรยาเพียงสั้นๆเท่านั้นว่ากำลังทำเรื่องเอกสารกับหน่วยงานราชการ รวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิด และมาตรการต่างๆของกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าน่าจะได้เดินทางกลับบ้านภายใน 1-2 วันนี้ รอทางการแจ้งอีกครั้ง
นายสมควร กล่าวว่า ดีใจที่ภรรยาเดินทางกลับมาถึงไทยอย่างปลอดภัย และหากภรรยากลับมาถึงบ้านวันไหนทั้งตนเอง และครอบครัว จะผูกแขนรับขวัญตามความเชื่อชาวบ้าน
นายสมควร ยังได้ให้ผู้สื่อข่าวดูคลิปวินาทีที่ภรรยาและเพื่อนแรงงานชาวไทยอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีการสู้รบ ซึ่งภรรยาเป็นคนส่งมาให้ดูช่วงที่เกิดเหตุสู้รบ โดยนายสมควร ยอมรับว่า ตอนที่เห็นคลิปก็เป็นห่วงภรรยามาก พยายามติดตามถามข่าวคราวหาภรรยาตลอดทั้งกลางวันกลางคืน
นายสมควร กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ภรรยาไปทำงานต่างประเทศเพราะครอบครัวมีหนี้สินเยอะ ก่อนหน้านี้ภรรยาเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่กรุงเทพฯ แต่พอเจอสถานการณ์โควิดก็ตกงาน จึงตัดสินใจไปทำงานนวดแผนไทยที่ยูเครนกับเพื่อน เพราะเชื่อว่าจะมีเงินมาใช้หนี้สินทั้ง ธ.ก.ส. และหนี้ที่ก่อนหน้านี้ภรรยาเคยกู้ยืมไปทำงานที่มาเลเซียก็ยังใช้ไม่หมด เป็นหนี้สะสมหลายแสนบาท และล่าสุดที่เดินทางไปทำงานนวดแผนไทยที่ยูเครนก็กู้ยืมเงินเป็นหนี้อีก 100,000 บาท
“แต่พอเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้นต้องอพยพกลับ ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนใช้หนี้ แต่ส่วนตัวตนไม่อยากให้ภรรยากลับไปทำงานที่ยูเครนอีก เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือหางานที่ประเทศอื่นให้ทำ เพื่อจะได้มีเงินมาใช้หนี้ เพราะลำพังตัวเองทำไร่ทำนาคงไม่พอจะชำระหนี้สินที่มีอยู่” นายสมควร กล่าว
-005