“โรงเรียนที่จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่แบบเป็นประจำมีนักเรียนที่อยากทดลองสูบบุหรี่น้อยกว่าโรงเรียนที่จัดกิจกรรมแบบนานๆ ครั้งเกือบ 2 เท่า เช่นเดียวกับการได้รับข้อความรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ทางโทรทัศน์หรืออินเตอร์เนตที่พบว่า นักเรียนในกลุ่มที่พบเห็นข้อความรณรงค์ไม่สูบบุหรี่แบบเป็นประจำมีสัดส่วนของคนที่อยากทดลองสูบบุหรี่น้อยกว่านักเรียนในกลุ่มที่พบเห็นข้อความรณรงค์ไม่สูบบุหรี่แบบนานๆ ครั้ง เกือบ 2 เท่า”
ข้อค้นพบจากงานวิจัย “ผลการสำรวจโอกาสเสี่ยงในการสูบบุหรี่ของนักเรียนในภูมิภาคของประเทศไทย (Susceptibilityto smoking and determinants among never-smoking high school students :A representative nationwide study in Thailand)” ซึ่ง รศ.ดร.จักรพันธ์ เพ็ชรภูมิคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำมาบอกเล่ากับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา
งานวิจัยชิ้นนี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) สำรวจนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 จาก 12 จังหวัด
ทุกภูมิภาคของไทย จำนวน 3,156 คน พบว่า ร้อยละ 72.4 ระบุว่าเรียนอยู่ในโรงเรียนที่จัด กิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่เป็นประจำ ในขณะที่อีกร้อยละ 27.6 ระบุว่าเรียนอยู่ในโรงเรียนที่จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่นานๆ ครั้ง โดยพบว่า โรงเรียนที่จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่เป็นประจำ มีนักเรียนที่อยากทดลองสูบบุหรี่ร้อยละ 13.6 ในขณะที่โรงเรียนที่จัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่นานๆ ครั้งมีนักเรียนที่อยากทดลองสูบบุหรี่ ร้อยละ 23.9
วุฒิชัย ลาภไธสง โรงเรียนหล่มเก่าวิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์ ประธานแกนนำนักเรียนชมรม Gen Z เล่าว่า ได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมป้องกันนักสูบหน้าใหม่ Gen ZGen Strong กับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำความรู้เกี่ยวกับอันตราย พิษภัยของการสูบบุหรี่มาพัฒนาในโรงเรียน สร้างเครือข่าย Gen Z โรงเรียน
สร้างกิจกรรม ต่อยอดกับ บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่ จนทำให้โรงเรียนหล่มเก่าวิทยาคม เป็นโรงเรียนต้นแบบระดับเพชร สำหรับปัจจัยความสำเร็จคือ การเน้นผู้เรียนหรือนักเรียนแกนนำให้สามารถต่อยอด โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาให้นักเรียนได้จัดกิจกรรม คิดเองรวมตัวกันเอง สามารถส่งต่อกิจกรรมจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เด็กมีความรู้ความสามารถ พึ่งพาตนเองได้ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่
สุวิมล จันทร์เปรมปรุง หัวหน้าคณะทำงานเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ กล่าวว่า การสนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในโรงเรียน เป็นหนึ่งใน 7 มาตรการ การดำเนินงานเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ ซึ่งเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อให้โรงเรียนปลอดบุหรี่อย่างเป็นระบบ และมีความสอดคล้องกับประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการสูบบุหรี่ และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา (ลงวันที่ 10 ส.ค. 2560)
รวมถึงการดำเนินงานโรงเรียนปลอดบุหรี่ตาม 7 มาตรการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การประเมินโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขของกระทรวงศึกษาธิการปัจจุบัน มีครูจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ สนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายกว่า 4,485 คน โดยได้นำแนวทางการดำเนินงาน 7 มาตรการ เพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ ไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของแต่ละโรงเรียน เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีทัศนคติที่ยืนยันไม่สูบบุหรี่ไปตลอดชีวิต และปกป้องตนเองให้พ้นจากภัยของยาสูบทุกประเภท
ซึ่งเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ยังเดินหน้าสร้างโรงเรียนปลอดบุหรี่ และปลูกฝังค่านิยมการไม่สูบบุหรี่ในสังคมต่อไป โดยโรงเรียนที่สนใจร่วมรณรงค์สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.smokefreeschool.net
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี