เปิด 5 อันดับ‘พิภพวานร’ กางคู่มือสลายศึก‘คน-จ๋อ’ ในภาวะ‘ฝีดาษลิง’ระบาด
“พิภพวานร”
ภาพยนตร์ฝรั่งฮอลลีวู้ดว่าด้วยโลกอนาคตที่ “ลิง” มีวิวัฒนาการทางสติปัญญาขึ้นมาเทียบเท่ามนุษย์ จนสามารถสถาปนา “เผ่าพันธุ์” ขึ้นเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้แทนที่มนุษย์ได้
ทว่า...ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องให้ “เจ้าจ๋อ” เพื่อนร่วมโลกของเรามีวิวัฒนาการไปไกลขนาดนั้น เพราะหลายเมืองที่มนุษย์อยู่อาศัยได้ถูก “ฝูงลิง” เข้าครอบครองพื้นที่ไปเสียแล้ว
สำหรับประเทศไทยคงหนีไม่พ้น “ลพบุรี” ที่สามารถพบเห็น “ลิง” ได้ตั้งแต่บนเสาไฟฟ้า หลังคาบ้านเรือน ไปจนถึงอาคารเก่าปล่อยทิ้งร้าง ถึงขนาดที่สื่อต่างประเทศยังต้องมาทำข่าวเมื่อหลายปีก่อน
“คู่มือสำรวจประชากรลิง สถานการณ์ และแนวทางการจัดการปัญหาลิงในพื้นที่ชุมชน” จัดทำโดย “กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช” ระบุการรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่าง “คน VS ลิง” ครั้งล่าสุดในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2561 พบว่า จังหวัดที่มีลิงมากที่สุด คือ “ลพบุรี” กระจายอยู่ใน 25 พื้นที่ มีจำนวนประชากรลิง รวมกัน 7,865 ตัว โดย 3 อันดับแรก อยู่ที่ พระปรางค์สามยอด 1,533 ตัว , วัดเขาสมโภชน์ 1,243 ตัว และเขาดอนดึง 705 ตัว
อย่างไรก็ตาม หากแยกย่อยเป็นพื้นที่ที่มี “ลิง” และเกิดความขัดแย้งกับ “คน” 5 อันดับแรก คือ
อันดับ 1 เขาหน่อเขาแก้ว (นครสวรรค์) 5,813 ตัว ระดับสถานการณ์ : วิกฤติ
อันดับ 2 ถ้ำจอมบึง,ถ้ำจอมพล (ราชบุรี) 2,864 ตัว ระดับสถานการณ์ : วิกฤติ
อันดับ 3 สวนรุกฯเขาฉกรรจ์ (สระแก้ว) 1,798 ตัว ระดับสถานการณ์ : ปานกลาง
อันดับ 4 พระปรางค์สามยอด (ลพบุรี) 1,533 ตัว ระดับสถานการณ์ : วิกฤติ
อันดับ 5 อุทยานหินเขางูและโรงพยาบาล (ราชบุรี) 1,297 ตัว ระดับสถานการณ์ : วิกฤติ
ล่าสุดกับเรื่องที่ต้องจับตามองอย่าง “โรคฝีดาษลิง” ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งลิงและมนุษย์ในหลายเมืองที่ทั้ง 2 สายพันธุ์ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน อาทิ ที่ “สงขลา” บริเวณช่องเขาน้อย-เขาตังกวน จากเดิมที่ลิงแถบดังกล่าวจะอิ่มหมีพีมันกับอาหารที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนำมาเลี้ยง อีกทั้งการมีอยู่ของลิงยังสร้างรายได้จากธุรกิจขายอาหารลิงด้วย แต่วันนี้ผู้คนต่างหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ลิงเพราะกลัวติดโรคร้าย ลิงจึงอดอยาก ถึงขนาดที่พ่อค้าแม่ขายต้องแบ่งอาหารที่เตรียมมาให้บรรดาเจ้าจ๋อได้ประทังชีวิตด้วยความสงสาร แม้ตนเองจะได้รับผลกระทบไม่ต่างกันก็ตาม
หรือจะเป็นที่ “สตูล” บริเวณชุมชนใกล้กับสวนสาธารณะเขาโต๊ะพญาวัง เดิมทีชาวบ้านก็ได้รับความเดือดร้อนจากฝูงลิงจากบนเขาที่ลงมาก่อกวนอยู่แล้ว ทรัพย์สินเสียหายทั้งรถยนต์ ห้องน้ำคนพิการในสวนสาธารณะ และอาหารที่ร้านค้าเตรียมไว้ ถึงขนาดที่บางรายตัดพ้ออยากขายบ้าน ยิ่งมีข่าวโรคฝีดาษลิงมาอีก ความเครียดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเพราะต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกกัด
“คู่มือสำรวจประชากรลิง สถานการณ์ และแนวทางการจัดการปัญหาลิงในพื้นที่ชุมชน” จัดทำโดย กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ ระบุการรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่าง “คน VS ลิง” ครั้งล่าสุดในเดือน ส.ค.-ก.ย. 2561 พบพื้นที่ที่มีปัญหาทั้งหมด 222 แห่ง และมีการสำรวจนับประชากรลิง 173 แห่ง (พื้นที่เดิม 143 แห่ง + พื้นที่ใหม่ 30 แห่ง) พบมีประชากรลิงในพื้นที่ 53,068 ตัว
สำหรับพื้นที่ที่มีปัญหาระหว่างคนกับลิง แบ่งได้เป็น 5 ประเภท คือ
1.ลิงที่อาศัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์/ป่าธรรมชาติขนาดใหญ่และออกมานอกพื้นที่ป่าเป็นบางช่วงเวลาของปี (โดยเฉพาะช่วงพืชเกษตรออกผลผลิต) มีพฤติกรรมทำลายพืชผลการเกษตรที่อยู่ตามแนวขอบพื้นที่อนุรักษ์
2.ลิงที่อาศัยในพื้นที่ป่าธรรมชาติ/และมีสิ่งก่อสร้าง เช่น วัด หรือสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ หรือตามแนวขอบป่า ลิงเหล่านี้จะออกมารบกวนช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ รื้อค้น แย่งอาหาร กัดทำร้าย หากพื้นที่ดังกล่าวมีจุดให้อาหารลิงจะออกมารออาหารตามช่วงเวลา
3.ลิงที่อาศัยในพื้นที่ป่าธรรมชาติขนาดเล็กติดกับชุมชนเมืองล้อมรอบ ลิงกลุ่มนี้จะอาศัยหลับนอนในพื้นที่ป่าธรรมชาติจะออกมาจากพื้นที่ป่าในช่วงเช้า เพื่อไปหากินบริเวณพื้นที่ชุมชน เช่น ตลาดบริเวณที่มีการทิ้งเศษผักผลไม้ และบริเวณที่มีคนมาให้อาหารข้างทางตามแนวขอบพื้นที่ป่า
4.ลิงที่อาศัยในพื้นที่เขตเมืองซ้อนทับกับพื้นที่ชุมชน เช่น ลิงที่พบตามสวนสาธารณะ มีแหล่งพักตามต้นไม้หรือตึกร้างในเขตเมือง
5.ลิงที่อาศัยในพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนมากถ้าเป็นลิงที่ออกมารื้อทรัพย์สินชาวบ้านจะออกมาตามช่วงเวลาที่มีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง หากพื้นที่ดังกล่าวมีจุดให้อาหารลิง ลิงจะออกมารออาหารตามช่วงเวลา
“ความรุนแรง” ของปัญหาสามารถแบ่งได้ 3 ระดับ คือ
1.รุนแรงน้อย พื้นที่ที่มีแนวโน้มจะเกิดปัญหาเป็นพื้นที่ที่เริ่มมีลิงออกมานอกพื้นที่แต่ ยังไม่สร้างปัญหาให้กับชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีการใช้ประโยชน์เป็นแหล่งท่องเที่ยว เริ่มมีการนำอาหารมาให้ลิงในพื้นที่
2.รุนแรงปานกลาง พื้นที่ที่มีปัญหาแต่ยังไม่วิกฤติ ลิงมีการรบกวนชุมชน ทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน พื้นที่อาศัยของลิงถูกล้อมรอบด้วยชุมชน
3.รุนแรงมาก พื้นที่ที่มีปัญหาวิกฤติ ลิงมีการรบกวนชุมชน ทำลายทรัพย์สินของชาวบ้าน พื้นที่อาศัยของลิงซ้อนทับกับชุมชน
แนวทางการจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างลิง-คนในแต่ละระดับปัญหา/ แบ่งตามสภาพพื้นที่ ซึ่งมีการเสนอในครั้งนั้น คือ
1.พื้นที่ที่มีแนวโน้มจะเกิดปัญหา/ มีระดับความรุนแรงของปัญหาน้อย แบ่งเป็น
1.1 การบริหารจัดการลิง ให้ติดตามประชากรลิงในพื้นที่ทุก 1-2 ปี
1.2 การบริหารจัดการคนและชุมชนในพื้นที่ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในชุมชน/นักท่องเที่ยว ในเรื่องของผลกระทบที่เกิดขึ้น การให้อาหารลิง การจัดระบบการกำจัดขยะ หรือสิ่งที่เป็นอาหารให้กับลิง หน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบเข้มงวดและตรวจสอบพื้นที่อย่างสม่ำเสมอเพื่อหยุดยั้งก่อนที่จะเกิดปัญหา สร้างความร่วมมือและความเข้าใจในการแก้ปัญหาลิงกับหน่วยงานอื่นในจังหวัด สร้างความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อร่วมมือแก้ปัญหาลิง
2.พื้นที่ที่มีปัญหาปานกลาง แบ่งเป็น
2.1 การบริหารจัดการลิง ตรวจนับเพื่อติดตามประชากรลิงในพื้นที่ทุก 1-2 ปี
2.2 การบริหารจัดการคนและชุมชนในพื้นที่ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในชุมชน/นักท่องเที่ยว ในเรื่องของการให้อาหารลิง การจัดระบบการกำจัดขยะ หรือสิ่งที่เป็นอาหารให้กับลิง สร้างความร่วมมือและความเข้าใจในการแก้ปัญหาลิงกับหน่วยงานอื่นในจังหวัด สร้างความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อร่วมมือแก้ปัญหาลิง
2.3 การบริหารจัดการพื้นที่ถิ่นอาศัยของลิง ฟื้นฟูพื้นที่ถิ่นอาศัยให้มีความเหมาะสมและดึงดูดให้ลิงอยู่ในพื้นที่ จัดทำและฟื้นฟูพื้นที่แนวเขตกันชนระหว่างพื้นที่อาศัยของลิง-คนให้เหมาะสม
3.พื้นที่ที่มีปัญหาวิกฤติ แบ่งเป็น
3.1 การบริหารจัดการลิง ทำหมันเพื่อควบคุมประชากรลิงในพื้นที่ ตรวจนับเพื่อติดตามประชากรลิงในพื้นที่ทุก 1-2 ปี
3.2 การบริหารจัดการคนและชุมชนในพื้นที่ สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านในชุมชน/นักท่องเที่ยว ในเรื่องของการให้อาหารลิง การจัดระบบการกำจัดขยะ หรือสิ่งที่เป็นอาหารให้กับลิง สร้างความร่วมมือและความเข้าใจในการแก้ปัญหาลิงกับหน่วยงานอื่นในจังหวัด สร้างความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่เพื่อร่วมมือแก้ปัญหาลิง
3.3 การบริหารจัดการพื้นที่ถิ่นอาศัยของลิง ฟื้นฟูพื้นที่ถิ่นอาศัยให้มีความเหมาะสมเพื่อให้ลิงสามารถดำเนินชีวิตตามพฤติกรรมธรรมชาติ สร้างพื้นที่อาศัยที่สามารถควบคุมให้ลิงอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 “วราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า จุดต่างๆที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เช่น จ.ลพบุรี , เขาสามมุก จ.ชลบุรี , เขาวัง จ.เพชรบุรี ยังไม่พบ “โรคฝีดาษลิง” แต่ก็เตือนให้ประชาชนอย่าเข้าใกล้สัตว์ป่ามากเกินไป เพราะไม่รู้แน่ชัดว่าสัตว์ไปติดโรคอะไรมาหรือไม่ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเห็นจะเป็น “การลักลอบนำเข้าสัตว์ป่าจากต่างประเทศ” โดยกำชับให้มีการตรวจตราเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
เพราะนั่นอาจเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเข้ามาระบาดในไทยของโรคฝีดาษลิงได้!!!
ที่มา : กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี