5 มิถุนายน 2565 โดยหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 105 ปี พระนักปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แห่งวัดป่าอรัญญาวิเวก บ้านไก่คำ ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ได้แสดงพระธรรมเทศนา อบรม พระสงฆ์ ฆราวาส เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ณ วัดป่าอรัญญาวิเวก บ้านไก่คำ ต.ไก่คำ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ
จากหนังสือ แสงธรรมส่องใจ ต่อจากอาทิตย์ที่แล้วว่า ทำอะไรๆก็ให้มันจริงใจลงไป อย่าทำเหลาะๆแหละๆ ถ้ากัมมัฎฐานไม่ถูกกับจริตนิสัยก็หาใหม่ เพิ่มใหม่ ให้เข้าใจได้เร็ว ยาไม่ถูกกับโรคก็กินอยู่อย่างนั้น ผลสุดท้ายก็เป็นโรคเรื้อรัง ไปเข้าโรงยาบาลไหน ก็แค่นั้นเอง เสียเงินเปล่าๆ เมื่อธรรมไม่ถูกกับจริตนิสัย ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร คำบริกรรมถูกจิต ผูกใจ ไม่ถูกกับจริตนิสัย จิตใจก็ไม่รวม ไม่ลง ไม่เป็นสมาทอกสมาธิกับเขาสักที แต่เพียงแค่สงบก็ยังยากอยู่ ของมันไม่รวมไม่ลงมีแต่ฟุ้งซ่าน รำคาญ คิดโน่น คิดนี่ คิดเรื่องโลก เรื่องสงสาร คิดการร่ำ การรวย การมั่ง การมี การดี การเด่น แข่งกันอยู่อย่างนั้น
โลกอันนี้ เป็นอย่างนั้น เพราะก่อภพก่อชาติมาหลายกัปหลายกัลป์ ไม่นึกว่า จะออกจากนั้นไปเลย ไม่เห็นโทษภัยในวัฏสงสาร คิดว่าโลกนี้ เป็นของดับของดี ของวิเศษวิโส ไม่อยากออก เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง เต็มไปด้วยรูป ด้วยเสียง ด้วยกลิ่น ด้วยรส โผฎฐัพพะธัมมารมณ์ กล่อมจิต กล่อมใจอยู่นั่นแหละ จิตใจเลยติด ไม่เข้าสักที จะหาธรรมก็ไม่ได้ จิตใจสกปรก จิตใจไม่สะอาด ถ้าจิตใจสะอาด ธรรมเข้าง่าย
พระธรรมชอบเกิดในที่สะอาด สะอ้าน ไม่ชอบเกิดในที่สกปรก รกรุงรัง ถ้าจะต้องธรรมะ ธรรมโม เข้าสู่จิตใจ ชำระจิตใจให้สะอาดอยู่เป็นนิจ นั่นแหละเชื่อว่า ทำตามคำสอนชองพระศาสนา ถ้าจิตใจผ่องใสอยู่เป็นนิจ อย่าให้จิตใจเศร้าหมอง ให้จิตผ่องใสอยู่เป็นนิจ “สัพพะปาปัสสะ อะกะระนัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา สะจิตตะปะริโยทะปะนัง” คนไหนหมั่นชำระจิตใจของเจ้าของอยู่เป็นนิจ ชำระกาย ชำระใจ ชำระใจตัวเดียว
ถ้าจิตสะอาดมันสะอาดไปหมด มันสำคัญ นโนปุพคามา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา มันประชุมใจแห่งเดียวเท่า ดี ชั่ว ผิด ถูก ฉลาด หรือโง่เขลา เบาปัญญา ประชุมใจ ฉลาดหรือความสามารถอาจหาญก็ประชุมใจ ความหมั่น ความขยัน ก็จะประชุมใจ เราชำลอกจิตใจมันก็แล้วไปหมด เราไม่ต้องไปรุงรังสิ่งอื่นถ้ารู้ใจ ถ้าไม่รู้ใจมันสำคัญอะไร
เป็นใจมากเกินไป เดี๋ยวก็เรื่องโน่น เรื่องนี้ มาปรุงแต่ง มาคิดมาชวนไปโน่น มานี่ นั่งแป๊บเดียวก็ไปแล้ว ผลสุดท้ายนั่งปวดขาเปล่า ลุกปุบปั๊บไปแล้ว ไปตามกิเลส กิเลสดึงจมูกไปแล้ว ตกแห่งหนตำบลใดไม่รู้เรื่อง เพราะเอากิเลสเป็นศาสดาสอนหัวใจ ถ้าเอาธรรมะสอนหัวใจ ต้องตั้งสัจจะอธิษฐานลงไป ถ้าเราไม่ลง ไม่รวม หรือ ไม่เป็น ไม่ไป ไม่ลุกไปจากที่นี่ จะตายก็ช่างมัน พระพุทธเจ้า วันจะตรัสรู้ อยู่โพธิมลฑลอะไร ก็พร้อมเพรียงสมบูรณ์ บริบูรณ์แล้ว บัลลังก์ก็พร้อมพูลบริบูรณ์
เลยนั่งอธิฐานสาธุ ข้าพเจ้าจะนั่งสมาธิปฏิบัติ บูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ถ้าจิตใจข้าพเจ้าไม่เป็นไป ข้าพเจ้าจะไม่ลุกจากที่นี่ เลือดเนื้อข้าพเจ้าจะเหือดแห้งก็ตามที จะเอาอยู่ที่นี่ พอตั้งสัจจะก็เอาจริงเอาจัง ผลสุดท้ายปฐมยามก็ได้บรรลุ บุพเพสานุสติญาณระลึกชาติ หนหลังได้ ชาติก่อนหนหลัง เป็นสัตว์น้อย สัตว์ใหญ่ในน้ำ บนบก สามารถรู้เท่าทันหมด
ภพไหน ชาติไหน ตายเกิดอยู่ที่ไหนก็รู้จัก มารดาเกิดอยู่ที่ไหนก็รู้จัก แต่ไม่ใช่ทางเข้าวาระที่สามปัจฉิมยาม ยามกลางมรู้การเกิดการดับของตนเองและบุคคลอื่น นี้ยังไม่ใช่ทางมัชฉิมยาม ยามใกล้รุ่ง ยามตะวันจะโผล่ขึ้นมา เลยอาสวะญาณ ทำอาสวะให้สิ้นจากหัวใจ ให้เหมือนเมฆหมอก เหมือนพระอาทิตย์ พระจันทร์พ้นจากเมฆจากหมอก สว่างจ้าขึ้นมา จิตใจก็ลงถึงพักถึงฐาน รู้การเกิด การดับ การดี การชั่ว การผิด การถูก
ใครจะโปรดได้ก็รู้จัก ใครโปรดไม่ได้ก็รู้จัก คนไหนควรจะให้ธรรมะ คนไหนไม่ควรให้ คนไหนไม่ควรคบค้าสมาคมก็รู้ไปหมด ไม่มีอะไรปิดบังลี้ลับ นิดเดียวก็ไม่มี เท่าเม็ดหินเม็ดทรายก็ไม่มี ความรู้มันก็เต็มดวงมันเป็นอย่างนั้น ความรู้ไม่เต็มดวง มันก็ยากอยู่.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี