น้ำตาซึมสุดสงสารนักศึกษาที่รอดจากรถพ่วงมรณะ หมอต้องตัดขาทิ้งข้างหนึ่ง อาการยังโคม่าไม่รู้สึกตัว แขวงทางหลวงวางมาตรการป้องกันเกิดเหตุเศร้าซ้ำ
ความคืบหน้ากรณีรถกึ่งพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 22 ล้อคนขับคาดหลับในเสียหลักชนท้ายรถจักรยานยนต์ของสองหนุ่มนักศึกษาที่ขับซ้อนท้ายกันมาเป็นเหตุให้คนขับรถ จยย.คือนายธนาวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวบ้านกุดสะกอย หมู่ 7 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยนครพนม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนซ้อนท้ายชื่อนายยศพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี เป็นชาว จ.อุบลราชธานี นักศึกษาชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยนครพนม ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาหักทั้งสองข้าง
ส่วนคนขับรถบรรทุกกึ่งพ่วงชื่อนายกิตติศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ได้รับบาดเจ็บที่สะโพกและหน้าอก ทั้งคู่ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.วันที่ 11 ก.ค.65 ใกล้หลัก กม.ที่ 13 ซึ่งเป็นจุดยูเทิร์นอันตรายบริเวณสามแยกบ้านหนองเซา-บ้านเหล่าภูมีถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) ตอนท่าควาย-กลางน้อย เขตพื้นที่บ้านหนองเซา ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม
หลังเกิดเหตุทางบริษัทเจ้าของรถบรรทุกได้มาแสดงความรับผิดชอบ โดยติดต่อญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมที่จะดูแลชดเชยเยียวยา ซึ่งในส่วนของการดูแลรักษาของผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายยศพล นักศึกษาชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยนครพนม ได้รับบาดเจ็บขาหัก 2 ข้าง ล่าสุดอาการยังสาหัสเนื่องจากขาข้างซ้ายเส้นเลือดใหญ่ขาดและกระดูกแตก ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสกลนคร แพทย์จำเป็นต้องตัดขาข้างซ้ายเลยช่วงเข่า เนื่องจากเนื้อตายและแผลเริ่มเน่า หลังผ่าตัดคนไข้ยังไม่รู้สึกตัว
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ยอดเพ็ชร คำแสงดี รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครพนม (ฝ่ายปฏิบัติการ) เปิดเผยว่า จากกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวทางแขวงทางหลวงฯได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่วิเคราะห์หาสาเหตุเชื่อว่าต้นเหตุมาจากคนขับหลับใน เพราะมีการตรวจสถานที่เกิดเหตุรวมถึงภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกวิ่งชนด้านหลังรถจักรยานยนต์แบบไม่มีการแตะเบรก อีกทั้งโชเฟอร์ขับรถระยะทางไกลจากพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพียงคนเดียว ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงทำให้ร่างกายอ่อนล้าจึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง
ทั้งนี้ ทางแขวงทางหลวงฯ ได้มีการวางแผนร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องวางมาตรการป้องกัน ทำสัญญาณเตือนเพิ่ม รวมถึงสร้างความเข้าใจกับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะในจุดเสี่ยง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนที่ติดกับมหาวิทยาลัยนครพนม มีการใช้รถจักรยานยนต์จำนวนมาก อีกทั้งเป็นจุดยูเทิร์นกลับรถ
นอกจากนี้ยังได้เสนอปัญหาไปทางหน่วยงานตำรวจ ขนส่งเพื่อจะวางมาตรการป้องกันในการตรวจสอบควบคุม สำหรับคนขับรถบรรทุกในระยะทางไกลจะต้องมีการประเมินร่างกาย สภาพความพร้อมของร่างกายและตรวจความพร้อมตามระยะทางการเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ และฝากผู้ประกอบการย้ำเตือนโชเฟอร์ระมัดระวัง งดใช้ความเร็ว และจะต้องมั่นประเมินความพร้อมร่างกายคนขับตลอดการเดินทางด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี