อลังการ!!! พระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ศักดิ์สิทธิ์สวยงามตระการตา เผย "บิ๊กป้อม" นำพลังศรัทธาสมทบทุนสร้างถวาย "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง" มูลค่ากว่า 350 ล้านบาท
วันที่ 12 ก.ค.65 วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง หมู่ที่ 8 ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม นับเป็นอีกสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกแห่งที่มีประชาชน นักท่องเที่ยวเลื่อมใสศรัทธาโดยเฉพาะสายธรรมที่ชอบท่องเที่ยวตามวัดสำคัญ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมะ ยิ่งช่วงวันสำคัญทางศาสนาเช่น วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา วัดโฆสมังคลารามจะหนาแน่นไปด้วยผู้คน โดยในอดีตพื้นที่วัดเคยเป็นสถานที่ที่ปฏิบัติธรรมของพระสุนทรธรรมากร หรือหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย ซึ่งเป็นพระเถราจารย์สายวิปัสนากรรมฐานชื่อดังที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ศิษยานุศิษย์เคารพศรัทธา และได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง
ต่อมาเมื่อปี 2557 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะพลังศรัทธา ประกอบด้วยนายทหาร นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน ตลอดจนผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีประจำปี เพื่อสมทบทุนสร้างพระมหาบรมเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความศรัทธาต่อหลวงปู่คำพันธ์ สมัยที่เดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่เมื่อ 20 ปีที่แล้ จึงเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้าง ในปีแรกได้ยอดกฐินสูงกว่า 82 ล้านบาท และมีการร่วมทำบุญสมทบทุนต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันแล้วเสร็จสมบูรณ์ ในงบประมาณรวมไม่ต่ำกว่า 350-400 ล้านบาท และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมมะ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเดินทางมากราบไหว้ขอพรไม่ขาดสาย
การก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม โดยองค์เจดีย์มีความสูงประมาณ 59 เมตร สร้างเพื่อเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของทุกคน โดยมีลักษณะเป็นรูปทรงคล้ายภูเขาทองที่วัดสระเกศ (วัดภูเขาทอง) กรุงเทพฯ ภายในองค์เจดีย์มี 6 ชั้น ประกอบไปด้วย ชั้นที่ 1 เป็นที่เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และอัฐิธาตุ รูปเหมือนของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) ซึ่งนับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อด้านวิชาอาคมมีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใส ชั้นที่ 2 เป็นชั้นมหาสมบัติที่เป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาที่เริ่มตั้งแต่สมัย ทราวดี เชียงแสน อยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ชั้นที่ 4 เป็นห้องปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิสำหรับพระสงฆ์ ชั้นที่ 5 เป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรมสำหรับฆราวาส และชั้นที่ 6 จะเป็นชั้นที่เก็บสัมภาระต่างๆของผู้มาปฏิบัติธรรม
เริ่มลงเสาเอกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2558 ถือเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก ร่วมกับเพื่อนทหาร จปร.17 ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ โครงสร้างเจดีย์นอกจากจะเป็นแบบวัดภูเขาทองแล้ว ได้ออกแบบให้มีบันไดวนขึ้นลงไปรอบจากฐานถึงยอดเจดีย์ มีขนาดฐานกว้าง 59 เมตร ยาว 59 เมตร สูง 59 เมตร บันไดรวมประมาณ 200 ขั้น ยอดบนสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้ยังมีการสร้างพญานาคใหญ่ ขนาดความยาวไม่น้อยกว่า 50 เมตร ลำตัววัดรอบวงกว่า 15 เมตร จำนวน 2 ตน โดยเกี้ยวรอบฐานองค์พระเจดีย์ จึงมีความสวยงามอลังการ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมะที่สำคัญอีกแห่งของ จ.นครพนม และส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
ประวัติหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้ละสังขารเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2546 สิริรวมอายุ 88 ปี 71 พรรษา จากนั้นศิษยานุศิษย์ ได้นำสรีระสังขารเก็บรักษาไว้ที่ศาลาการเปรียญ ณ วัดธาตุมหาชัย ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้เป็นสิริมงคล ถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 19 ปี และกำลังสร้างเมรุชั่วคราวเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งวัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม สถานที่ตั้งมหาเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม จึงถือเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย ได้มาพัฒนาเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี