ปาฏิหาริย์มีจริง! 'น้องบีม'นักศึกษาชั้นปี 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม เหยื่อพ่วงมรณะฟื้นจากเจ้าชายนิทรารับรู้พร้อมสู้เพื่อแม่ แพทย์เตรียมผ่าตัดขาอีกข้างที่หัก แม่ยังติดใจไม่พร้อมเจรจาเยียวยา
วันที่ 28 ก.ค.65 นางสาวหนูผิ่น แสงสีดาอายุ 51 ปี ชาว ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี มารดาของนายยศพล ฮ่มซ้าย หรือน้องบีม อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ผู้รอดชีวิตจากเหยื่อรถพ่วงมรณะหลับในชนรถจักรยานยนต์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคั่งสมองและขาหักทั้ง 2 ข้างได้ออกมาเปิดเผยอาการล่าสุดของลูกชาย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลสกลนคร ว่า น้องบีมหลังถูกนำส่งตัวมาจากโรงพยาบาลต้นทาง คือโรงพยาบาลนครพนม ตั้งแต่ช่วงเย็นวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 แรกๆอาการยังวิกฤต มีทั้งอาการเลือดคั่งในสมองไม่รู้สึกตัว อีกทั้งยังต้องถูกตัดขาซ้ายเหนือเข่าถึง 2 รอบเพราะแผลติดเชื้อ ส่วนขาขวากระดูกหัก ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดรักษาได้ ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์รวมถึงพยาบาล ที่ดูแลรักษาลูกชายอย่างเต็มที่
น.ส.หนูผิ่นกล่าวต่อว่าอาการของน้องบีมดีขึ้นตามลำดับ ทำให้ตอนนี้อาการเลือดคั่งในสมองพ้นวิกฤต น้องบีมรู้สึกตัวแล้วหลังเป็นเจ้าชายนิทรานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยตลอดเวลาที่ลูกยังไม่รู้สึกตัวแม่บอกเสมอว่า “สู้เพื่อแม่นะลูก ถึงแม้พิการตัดขาไม่เป็นไร ขอเพียงมีชีวิตรอดเพื่อแม่” โดยเจ้าตัวรับรู้และยืนยันขอสู้เพื่อแม่ ส่วนการรักษาขั้นตอนต่อไปทางแพทย์แจ้งว่า จะทำการผ่าตัดเสริมเหล็กที่ขาขวา ทำให้แม่รู้สึกมีกำลังใจ ขอเพียงลูกรอดชีวิต ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้การดูแลช่วยเหลือ นอกจากนี้ในส่วนของบริษัทเจ้าของรถบรรทุกพ่วง ได้มาติดต่อเยียวยาตามกฎหมาย รวมถึงในส่วนของโรงพยาบาลนครพนมที่เป็นโรงพยาบาลต้นทาง ซึ่งตนยังติดใจในการรักษาล่าช้า ทิ้งเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง ก่อนที่จะส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสกลนคร โดยเบื้องต้นทางผู้บริหารโรงพยาบาลนครพนม ได้ชี้แจงถึงสาเหตุในการส่งตัวล่าช้าแล้วก็ตาม พร้อมจะเยียวยากับปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การดูแลช่วยเหลือ สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาผู้ป่วย ไม่อยากให้เกิดปัญหาคล้ายกรณีลูกชายของตน อยากให้นำไปเป็นแนวทางการแก้ไข อย่าให้เกิดปัญหาซ้ำกับผู้ป่วยรายอื่นอีก เพราะตนรับรู้ถึงสภาพจิตใจคนที่ได้รับผลกระทบ บางครั้งเวลามันหมายถึงชีวิต ส่วนการเจรจาเยียวยาดูแลตามขั้นตอน ตนยังไม่พร้อมสรุป เพราะขอดูอาการลูกชาย จนกว่าจะปลอดภัย เนื่องจากน้องบีมพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 เวลา 07.30 น.เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม ใกล้จุดกลับรถบ้านหนองเซา ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม พบรถบรรทุกกึ่งพ่วงคอนเทนเนอร์ขนาด 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 73-5525 สมุทรปราการ ทะเบียนลูกพ่วง 73-6241 สมุทรปราการ มีนายกิตติศักดิ์ วงศืภูเขียว อายุ 33 ปี ชาว อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น เป็นคนขับ ส่วนเหยื่อรถพ่วงมรณะที่เสียชีวิตชื่อนายธนาวุฒิ ยะสา หรือน้องเอ อายุ 20 ปี ชาวบ้านกุดสะกอย หมู่ 7 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม และส่วนคนซ้อนคือนายยศพล ฮ่มซ้าย หรือน้องบีม อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษาคณะเดียวกัน
หลังเกิดเหตุน้องบีมถูกเร่งนำส่ง รพ.นครพม ซึ่งศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนมีเลือดคั่งในสมอง และขาหักทั้งสองข้าง แต่เนื่องจากไม่มีแพทย์เฉพาะทาง จึงต้องนำผู้ป่วยส่งต่อ รพ.สกลนคร แต่แพทย์ต้องประเมินอาการผู้บาดเจ็บว่าจะไม่มีอาการที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างทาง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การส่งตัวล่าช้า - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี