7 สิงหาคม 2565 ธรรมะวันอาทิตย์ ไปเข้าวัดฟังธรรม ที่วัดป่านาล้อม ตั้งอยู่พื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อเดินทางไปทิศเหนือตามถนนชยางกูร จากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงสามแยกไฟแดง อ.ลืออำนาจ เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนสายรองก่อนถึง อ.พนา 12 กิโลเมตร จะพบเห็นพระพุทธรูป นามว่า พระศรีมงคลพุทธโคตม ลักษณะปางมารวิชัย สูง 7 เมตร หน้าตักกว้าง 4 เมตร สีทอง ประดิษฐานอยู่หน้าวัดป่านาล้อม ซึ่งตั้งอยู่ ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ มองเห็นเด่นชัด เป็นที่สะดุดตา แก่บรรดาพุทธศาสนิกชน จะต้องจอดรถ แวะกราบนมัสการและเข้าวัด เพื่อความเป็นสิมงคล เป็นมงคลชีวิต ทุกคน
วัดป่านาล้อม ต.ไร่ขี อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เป็นวัดขนาดเล็ก สังกัด มหานิกาย พระครูสิริ ธรรมโส อายุ 73 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านาล้อม และเจ้าคณะตำบลอำนาจ พระสงฆ์ จำพรรษาอยู่จำนวน 11 รูป ไม่มีสามเณร มรรคนายก 1 คน บนเนื้อที่ 15 ไร่ เป็นที่ตั้งกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ แต่อุโบสถยังสร้างไม่แล้วเสร็จ เพราะขาดทุนทรัพย์ ยังรอรับการบริจาคทุนทรัพย์จากผู้ใจบุญอยู่เสมอ
ก่อนนั้น พุทธศาสนิกชน ญาติโยมทั้งหลาย ที่เดินทางไปยัง อ.พนา เพื่อไปกราบนมัสการพระเหลาเทพนิมิต เมื่อผ่านวัดป่านาล้อม ก็จะผ่านไปเลย ไม่เป็นที่สนใจของญาติโยม อยู่มาวันหนึ่งเกิดนิมิต ว่าภูมิเจ้าที่ รุกเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องรักษา อยู่บริเวณนี้มาหลายร้อยปี และมีพ่อเฒ่าที่ชาวบ้านนับถือ ฝันว่าบริเวณวัดป่านาล้อม เป็นทางเดินของพญานาค ที่สำคัญช่างศีลปะกรรมฝีมือดี อยู่กรุงเทพมหานคร เหมือนมีจิตพิเศษสัมผัสที่ 6 ดลใจให้มาปั้นพระพุทธรูปที่วัดป่านาล้อม จึงเดินทางมาปรึกษากับเจ้าอาวาสวัดป่านาล้อม ตกลงจะปั้นพุทธรูปขึ้นที่นี่ เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ศูนย์รวมความสามัคคีในชุมชน จรรโลง พุทธศาสนาด้วย
จากนั้น จึงเดินทางมาพร้อมพระสงฆ์ 3 รูป เพื่อมาก่อสร้างปั้นพระพุทธรูป ระหว่างที่พระสงฆ์ปักกรดพักอยู่ รอการก่อสร้างพระพุทธรูป จะพบเห็นปรากฏการประหลาดๆเกิดขึ้นเสมอ เช่น กลางคืนได้ยินเสียงคนกวาด เศษใบไม้ เมื่อออกจากกรดไปดู ก็ไม่พบอะไร เป็นอยู่อย่างนี้ จนกว่าสร้างพระพุทธรูปแล้วเสร็จ ปรากฏการณ์ต่างๆก็หายไป จึงเข้าใจว่า เจ้าภูมิ เทวดา คงกลับสวรรค์แล้ว เพราะมีพระพุทธรูป นามว่า พระศรีมงคลพุทธโคตม อยู่แทน
ที่น่าอัศจรรย์ที่สุด ก็คือเมื่อสร้างแล้วเสร็จ มีการสมโภชพระศรีมงคลพุทธโคตม บวชชี พรามณ์ ทำพิธีทางศาสนาครบสมบูรณ์ ซึ่งพุทธศาสนิกชน ญาติโยม นุ่งขาว ห่มขาว ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ตลอดทั้งคืน ซึ่งระหว่างทำพิธี กลางดึกมีแสงสีรุ้งพาดผ่านบริเวณงานพิธี ผู้มาร่วมงานหลายร้อยคนมองเห็นเหมือนกัน และต่างเข้าใจว่า รุกเทวดา พระภูมิเจ้าที่ คงมาร่วมอนุโมทนาบุญด้วย
นับตั้งแต่ก่อสร้างพระพุทธรูป พระศรีมงคลพุทธโคตม แล้วเสร็จ ทำพิธีทางศาสนาครบถ้วนสมบูรณ์ พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ซึ่งเดินทาไป อ.พนา มองเห็น พระพุทธรูป สีทอง ตั้งตระหง่านอยู่ทางเข้าวัด ต่างแวะกราบนมัสการ ขอพรพระ จากนั้นก็จะเข้าไปในวัด ทำบุญทำทาน ปล่อยสัตว์น้ำ ที่สระน้ำหลังวัด ซึ่งกำหนดเป็นเขตอภัยทาน มีสัตว์น้ำหลายชนิดอยู่จำนวนมาก
ก่อนกลับ ญาติโยม พุทธศาสนิกชน จะเข้าไปฟังธรรมเทศนากับเจ้าอาวาสวัดป่านาล้อม ที่กุฏิ ซึ่งส่วนใหญ่ จะเทศนาให้ทุกคนรักษาศีล 5 ข้อ คือ ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามพูดเท็จ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามดื่มสุรา ห้ามทำผิดในกาม และทำบุญสร้างกุศลให้มากๆ ผลบุญก็จะส่งให้มีความเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การทำบุญ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ ผู้เดือดร้อน ให้เขาพ้นทุกข์ ไม่เดือดร้อน นั่นคือผลบุญซึ่งทำให้เราสบายใจ เราทำดี ทำไม่ดี อยู่ที่ใจเรา ใจรู้ดี ถึงแม้จะโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้ ถ้าทำผิดศีลธรรมข้อใดข้อหนึ่ง ก็รู้อยู่แก่ใจว่าผิดศีล จะทำให้ไม่สบายใจ แม้แต่ฆ่ามดตัวเดียว ทำให้ไม่สบายใจ หากทำแล้วสบายใจ นั่นแหละ สวรรค์ หากทำแล้วไม่สบายใจ นั่นแหละ นรก เหมือนกับคำที่ว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
พระครูสิริ ธรรมโส เจ้าอาวาสวัดป่านาล้อมและเจ้าคณะตำบลอำนาจ เทศนาให้ญาติโยมตั้งสติว่า อันการสดับฟังธรรมเทศนานี้ ทุกท่านทุกคนก็เคยได้สดับมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น ตลอดการประพฤติปฏิบัติมานานแล้ว บางท่าน บางคน ประพฤติปฏิบัติใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นจากทุกข์ในวัฏสงสารได้สักที ทั้งนี้ เป็นเพราะอะไร เพราะการฟังเป็นเพียงการฟัง สักว่าตามโวหารอรรถาธิบายที่ท่านยกขึ้นมาแสดงให้ฟังเท่านั้น ไม่ได้ตรวจค้นเหตุผลแห่งความจริงอันมีอยู่ ที่กาย ที่วาจา ทีจิต ให้เห็นจริงแจ้งประจักษ์ และชำระจิตให้หลุดพ้นพิเศษจากกิเลสหรืออาสวะเสียเมื่อไร ก็ไม่พ้นจากความทุกข์ วัฏสงสารเมื่อนั้น ครั้งเมื่อพวกเราท่านทั้งหลาย ไม่พ้นจากทุกข์ ภัยในวัฏสงสาร เช่นนี้ ก็จะถือว่าตนเป็นผู้รู้แล้ว เห็นแล้ว เข้าใจแล้วในคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าทุกประการ ไม่ได้เป็นอันชาด เพราะความยึดถือและสำคัญ มั่นหมายไปตามความรู้ความเห็น อันนี้เองเรียกว่า อุปาทานขันธ์ จัดว่าเป็นอุปสรรคความขัดข้องแก่ทางมรรค ทางผล ทางสวรรค์ นฤพานยิ่งนัก
เพราะฉะนั้น จงตั้งตน ตั้งตัวตั้งกายตั้งจิตให้ดี เมื่อมีกังวลอันเนื่องมาแต่กาลก่อน หรือกังวลอันจะบังเกิดมีขึ้น ในอนาคตเบื้องหน้าก็ดี พึงตั้งสติกระทำความกังวลทั้งปวงนั้นให้เป็นที่ตั้งของสติ ยกจิตขึ้นตั้งไว้เหนือความกังวลทั้งปวง แล้วตั้งสติความรู้เท่าจิตและความกังวลทั้งปวงนั้นอยู่จนความกังวลเหล่านั้นสงบระงับไป จึงให้กำลังของสติและความรู้พิเศษว่าจิตทำความรู้สงบเท่าจิตของตนอยู่จนกว่าจิตของตนจะใสบริสุทธิ์ แจ้งประจักษ์อยู่กับจิต จึงเอาดวงจิตที่ใสบริสุทธิ์นี้เองขึ้นตั้งไว้เฉพาะหน้า ให้เป็นภาชนะทองคำสำหรับที่รองรับเอาซึ่ง อมฤตยรสวารี.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี