คณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรส ทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ณ จังหวัดลพบุรี และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ คณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรส จำนวน 54 คน จาก 37 ประเทศ เดินทางด้วยรถไฟ มาทัศนศึกษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งทางจังหวัดได้จัดกิจกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยเบิ่ง ที่มีวิถีชีวิตคู่กับลำน้ำป่าสัก มาแสดงต้อนรับคณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสสร้างความประทับใจให้กับคณะเป็นอย่างมาก สำหรับเขื่อนป่าสักเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพและความสำเร็จของประเทศไทย ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี
สำหรับคณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรส รับฟังการบรรยายสรุปและชมวีดีทัศน์ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยนางกมลินี สุขศรีวงศ์ ผู้อำนวยการกองศึกษาและขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และผู้แทนกรมชลประทาน เป็นผู้บรรยายสรุป และนายธนงศักดิ์ วงษ์ลา พลังงานจังหวัดลพบุรี เป็นผู้บรรยายสรุปเรื่อง ศักยภาพด้านพลังงานทดแทนของจังหวัดลพบุรี
ต่อจากนั้น คณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก และเยี่ยมชมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ บริเวณแนวสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์โดยรถราง ซึ่งการเดินทางมาทัศนศึกษาในครั้งนี้เพื่อศึกษาดูงานแล้ว ทางจังหวัดลพบุรียังเตรียมเปิดโชว์ให้พื้นที่ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดลพบุรี ด้วยการเชิญนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวให้มากขึ้นผ่านการเดินทางมาของคณะทูตและกงสุลต่างประเทศประจำประเทศไทยพร้อมคู่สมรสที่เดินทางมทาในครั้งนี้ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก
โดยโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมของโครงการเขื่อนกักเก็บแม่น้ำป่าสักอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อประโยชน์ต่อพื้นที่เพาะปลูกและบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจำในเขตลุ่มน้ำป่าสัก เป็นผลเนื่องมายังเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่นำความเดือดร้อนมาให้ราษฎรเกือบทุกปี เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2537 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2542 รวมระยะเวลา 5 ปี และวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2541 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานทรงประกอบพิธีเริ่มการเก็บกักน้ำเป็นปฐมฤกษ์ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี