จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ธรรมชาติได้พักและฟื้นสภาพสิ่งแวดล้อมของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมามีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมากขึ้นและรอนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัส โดยเฉพาะสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองที่มีแห่งเดียวกลางทะเลอ่างไทยคือ "ค้างแว่น"
สำหรับค้างแว่นมีความคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว โดยจะลงจากภูเขาของอุทยานมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองเพื่อมาอาบแดด ซึ่งค้างแว่นแต่ละตัวมีความน่ารักและไม่เคยมีค้างแว่นของอุทยานทำร้ายนักท่องเที่ยว
สำหรับค้างแว่นในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ปัจจุบันมีประมาณ 15 ฝูง โดยค้างแว่นแต่ละฝูงจะมีสมาชิก 10 ขึ้นไป ทำให้ขณะนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีค้างแว่นมากกว่า 300 ตัว
สำหรับพฤติกรรมของค้างแว่นมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ มีสมาชิกประมาณ 4-30 ตัว สามารถอาศัยอยู่ได้ในป่าหลายประเภทตั้งแต่เทือกเขาสูงจนถึงชายป่าที่ติดริมทะเล โดยมักเข้าไปอาศัยในป่าที่มีต้นไม้สูง กินอาหามากถึงวันละ 2 กิโลกรัมเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนมากนัก มักขี้อายและจะหลบหนีเมื่อพบกับมนุษย์
ในขณะที่ออกหากินจะหากินเป็นฝูง จะมีอยู่ตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่เฝ้าคอยระวังภัยโดยนั่งดูเหตุการณ์บนต้นไม้เงียบ ๆ ค้างแว่นจะมีระยะเวลาออกลูกประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมใช้เวลาตั้งท้องประมาณ 140-150 วัน
นางสาวสุวารีจ์ สิงห์ไวย์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง กล่าวว่า ช่วงที่มีโควิดไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่อุทยานทำให้สภาพแวดล้อมมีความสมบูรณ์และไม่มีการรบกวนพื้นที่ของคัางแว่น นอกจากนี้ ต้นไม้ที่เป็นอาหารของค้างแว่นก็มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
ส่วนการขยายพันธุ์ได้มีการเพิ่มขึ้นจากการสำรวจของทีมวิชาการของอุทยานพบมีค้างแว่นเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาพบฝูงค้างแว่นประมาณ 12 ถึง 13 ฝูง แต่ปัจจุบันพบฝูงค้างแว่นประมาณ 15 ฝูง ฝูงละ 14 ถึง 17 ตัวทำให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีค้างแว่นประมาณ 300 กว่าตัว ปริมาณเพิ่มขึ้นวงจรชีวิตของค้างแว่นก็จะจัดการด้วยตัวเอง
ปัจจุบันค้างแว่นได้กลับมาเรียนรู้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง สังเกตจากการลงมาจากภูเขาของฝูงค้างแว่นเพื่อมารับนักท่องเที่ยวทุกวัน โดยค้างแว่นจะมีช่วงเวลาที่ลงมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมได้แก่ ช่วงเช้า และช่วงเย็น แต่สำหรับช่วงบ่ายๆ จะมีค้างแว่นลงมาให้นักท่องเที่ยวชมจำนวนน้อยแต่มีความคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลนักท่องเที่ยว ไม่ให้ทำผิดกฎระเบียบของอุทยานในการให้อาหารหรือทำร้ายค้างแว่น ซึ่งเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำ
สำหรับค้างแว่นเป็นสัตว์ป่าปกติแล้วจะไม่มีการทำร้ายนักท่องเที่ยวแต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามนักท่องเที่ยวไปเปลี่ยนแปรงพฤติกรรมของเขาด้วยการให้อาหาร เมื่อค้างแว่นได้รับอาหารจากมนุษย์จะเกิดความเคยชินและเมื่อไม่ได้ก็จะมีความดุร้าย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะทำให้ค้างแว่นมีพฤติกรรมไม่ต่างกับลิงทั่วไป
สำหรับค้างแว่นที่อาศัยในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองปัจจุบันยังไม่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด จึงขอฝากเตือนนักท่องเที่ยวต้องไม่ลืมว่าค้างแว่นเป็นสัตว์ป่าไม่สามารถไว้ใจได้ เพราะเมื่อมันตกใจมันอาจจะกัดได้ จึงขอให้นักท่องเที่ยวดูค้างแว่นอยู่ห่างๆ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี