ประธาน YEC หอการค้าหนองคาย ชี้เทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินหมุนเวียนได้ 70 เปอร์เซ็นต์ที่พักเต็มหมด คนไม่กลัวโควิดแล้วคาดเข้าพื้นที่ท่องเที่ยวมากขึ้น ได้อานิสงส์รถไฟจีนลาว
นายสฤษฎ์พนธ์ วิชิตวงศ์ ประธาน YEC หอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคของจังหวัดหนองคาย ในทุกปีได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่มีความศรัทธาต่อองค์พญานาค เข้ามาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคริมแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคายกันเป็นจำนวนมาก แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เช่นเคย
ดังนั้น เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคคลี่คลายแล้วเช่นในปัจจุบัน เชื่อได้ว่าในปีนี้งานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคจะคึกคักมากกว่าปีก่อน ประกอบกับปีนี้วันออกพรรษาตรงกับวันจันทน์ ที่ 10 ต.ค.65 หากนับรวมกับเสาร์อาทิตย์ จะเป็นวันหยุดยาวได้ ตอนนี้มีการจับจองที่พัก โรงแรมต่าง ๆ ในจังหวัดหนองคาย ทั้งในตัวเมืองหนองคาย และตามต่างอำเภอที่มีปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค เช่น อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี ที่พักถูกจองหมดแล้ว โดยจะเป็นลักษณะจองแบบครอบครัวและกรุ๊ปทัวร์
หากมองในภาพรวมเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยว 1 คน จะมีค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลออกพรรษาวันละ 10,000 บาท กล่าวคือรวมทั้งค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าท่องเที่ยวต่าง ๆ แล้ว ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะนี้ให้ฟื้นตัวได้ ราว 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูว่าประชาชนนักท่องเที่ยวจะมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากน้อยเพียงใด เนื่องจากค่าครองชีพทุกอย่างสูงขึ้น เกรงว่านักท่องเที่ยวเองจะจำกัดงบประมาณในการท่องเที่ยวไปด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ การมีรถไฟความเร็วสูงจีน - ลาว ก็สามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้จังหวัดหนองคายไม่มากก็น้อย แม้จะเป็นเพียงทางผ่าน แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่เลือกแวะพักรอที่จังหวัดหนองคาย แวะเข้ามาท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอยระหว่างการสิ้นสุดการเดินทาง นับว่าเป็นอานิสงส์ของรถไฟความเร็วสูงจีน - ลาว ที่มีต่อจังหวัดหนองคายด้วย - 003
ภาพจากแฟ้ม