บุคคลในภาพที่เคยรับเสด็จอย่างใกล้ชิด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ อ.เบตง จ.ยะลา แสดงความอาลัยต่อการจากไป คิดถึงพ่อหลวง ร.9 ยึดหลักคำสั่งสอนเศรษฐกิจพอเพียง
12 ตุลาคม 2565 ที่บ้านเลขที่ 75 ถ.ตัณฑ์วีระ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นางกิ้มสี แซ่อึ้ง อายุ 85 ปี ชาวเบตง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุคคลในประเทศไทยที่ร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชปฏิสันถารกับราษฎรในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2519 ที่ศาลาประชาคม และประชาชนได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นเวลามากกว่า 46 ปีมาแล้ว
นายอนภัทร คุโณดม อายุ 36 ปี หลานชายของนางกิ้มสี กล่าวว่า เมื่อยายกลับมาจากการรับเสด็จก็มาเล่าให้แม่ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในครั้งนั้นแม้จะมิได้เข้าใกล้ชิด แต่ถือว่าได้เห็นพระองค์ท่านอย่างชัดเจน พระองค์ท่านสิริโฉมงดงาม ทรงเรียบร้อย พูดเบา แต่พระองค์ท่านสนพระทัยอย่างมากเกี่ยวกับการเป็นอยู่ของพสกนิกร โดยพระองค์ตรัสแก่คณะผู้ใหญ่ที่เข้าเฝ้าว่า ให้นำเรื่องราวที่ดีในการอยู่แบบพอเพียง การดัดแปลงคุณค่าทางพืชผล นำไปใช้ต่อยอดให้แก่ประชาชน ซึ่งทุกวันนี้ตนเองได้นำพระราชดำรัสไปใช้ในการทำงาน และสอนสั่งลูกหลานต่อไป
นายอนภัทร คุโณดม ยังได้กล่าวอีกว่า การที่ยายและพ่อแม่ได้ไปรับเสด็จในหลวงเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2519 ซึ่งตอนนั้นตนเองยังเด็ก แต่พ่อแม่ไปรับเสด็จกลับมาได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า พระองค์ทรงไม่ถือตัว พบปะประชาชนที่ไปเฝ้าอย่างใกล้ชิด แม้เมื่อ 46 กว่าปีที่แล้วการเดินทางเข้ามาที่ อ.เบตง นั้น หากมาตามเส้นทางคงใช้เวลาหลายวัน ประกอบกับเส้นทางเข้าเบตงในสมัยนั้นค่อนข้างลำบาก คดเคี้ยว และอันตรายมาก แต่พระองค์ก็ยังเสด็จมาพบพสกนิกรของท่าน ถึงแม้ อ.เบตง จะอยู่ไกลใต้สุดแดนสยามก็ตาม และได้พักที่ธนาคารมหานครในสมัยนั้น 1 คืน ปัจจุบันเป็นธนาคารกรุงไทย สาขาสุขยางค์ และพระองค์ก็เสด็จกลับในช่วงสายของวันที่ 18 กันยายน 2519 ทำประชาชนคนไทยทั้งปวงปลื้มปีติยินดีเป็นล้นพ้น
นอกจากนี้นายอนภัทร คุโณดม ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะนั้นมีอายุ 6 ขวบ พ่อและแม่ได้พาตนเองไปรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่เสด็จมายังอำเภอเบตง เมื่อปี 2529 โดยเสด็จมายังศาลาประชาคม เทศบาลเมืองเบตง พ่อแม่ได้พาตนเองมารอรับเสด็จเพื่อที่จะทูลเกล้าขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตนเองเดินไม่ได้
พอท่านได้เห็นท่านจึงได้รับเป็นคนไข้ของท่าน จนรักษาตัวใช้ระยะเวลาพอสมควร ปัจจุบันสามารถเดินได้ ซึ่งดีกว่าตอนอายุ 6 ขวบที่เดินไม่ได้เลย พ่อแม่ต้องอุ้มมารับเสด็จ หากไม่ได้ท่านช่วยตอนนั้นคงจะเดินไม่ได้ ซึ่งตนเองตื้นตันใจมาก อยากจะเข้าเฝ้าเพื่อที่จะขอขอบคุณท่าน เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของท่าน และเป็นแบบอย่างให้ประชาชนและคอยอยู่เบื้องหลังให้ตลอดเวลา
เมื่อมีปัญหาท่านจะคอยช่วยเหลือประชาชนของท่านและขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญ.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี