สินค้าเกษตรในไทย มีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็น “ดาวรุ่ง” ได้ เพราะปัจจุบันการซื้อขายสินค้าเกษตรไม่จำเป็นต้องเดินเข้า “ตลาดสด” ตามรูปแบบวิถีชีวิตเดิมๆเท่านั้น แต่มีทางเลือกโดยเฉพาะช่องทางที่เรียกว่า “โมเดิร์นเทรด” (Modern Trade) ซึ่งเป็นช่องทางการขายใหม่ๆทั้งที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า, ศูนย์การค้า, ซูเปอร์สโตร์ และ ดิสเคานท์สโตร์
จากการสำรวจพบว่าราคาสินค้าเกษตรในโลตัส’ส โกเฟรช (Lotus’s go fresh) กำลังลดราคาสินค้า อาทิ เห็ดเข็มทอง จากราคา 17 บาท เหลือเพียง 14 บาท , มันญี่ปุ่นเหลือแพ็คละ 32.50 บาท และ ฟักทองญี่ปุ่นเหลือแพ็คละ 27 บาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทยอยลดราคาสินค้าเกษตร เช่น หัวหอมใหญ่, หัวหอมแดง และ แอปเปิ้ล
ขณะที่ช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรที่น่าจับตามองนั่นคือ “โกลเด้นเพลส” (Golden Place) ซึ่งพบว่า มีสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพภายใต้โครงการพระราชดำริ มาจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมกับกำลังซื้อผู้บริโภค
ทั้ง 2 ช่องทางนั้นเป็นกลุ่มโมเดิร์นเทรด ที่ผู้บริโภคนิยมเข้าไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้า และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อ ทำให้ในส่วนของโลตัส มีการขยายรูปแบบ “Inspiring fresh & food destination” ซึ่งเป็นศูนย์รวมอาหารและอาหารสดชั้นนำ โดยช่วงครึ่งปีแรกในช่วงที่ผ่านมาได้ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 39 แห่ง ด้วยคอนเซปต์ใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยชูความเป็นศูนย์รวมอาหารและอาหารสดชั้นนำ และการเป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทของชุมชนทุกวัน พร้อมกับตั้งเป้าว่าในครึ่งปีหลังของปี 2565 เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกประมาณ 70-80 สาขา โดยยังมีในส่วนของพื้นที่เช่า ซึ่งโลตัสเน้นเพิ่มทางเลือกในด้านอาหารให้กับลูกค้า โดยเพิ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบ และร้านดังในท้องถิ่น อีกกว่า 1,300 ราย โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเป็น 5,800 ร้านภายในสิ้ปีนี้
นอกจากนี้โลตัสยังลุยแอพพลิเคชั่นมาเป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าเกษตร ผ่าน “SMART life solutions” เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ลูกค้า และมอบประสบการณ์ omni-channel ที่ไร้รอยต่อ โดยเมื่อเดือนมี.ค. 2565โลตัสเปิดตัว “Lotus’s SMART App” แอปพลิเคชันค้าปลีกรายแรก ที่รวมแพลตฟอร์ม e-commerce และโปรแกรมขอบคุณลูกค้า MyLotus’s เข้าไว้ด้วยกัน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้วกว่า 4.5 ล้านราย และยอดการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เติบโตขึ้นกว่า 400% ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565
สำหรับช่องทางใหม่ๆที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรให้เป็น “ดาวรุ่ง” ยังมีอีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจ คือ แอพพลิเคชั่น “ฟาร์มโตะ”
นางสาวบัณฑิตา แสงทอง ครีเอทีฟ และกราฟฟิก ดีไซน์เนอร์ของ “ฟาร์มโตะ” (FARMTO) เล่าว่า ฟาร์มโตะนั้นวางตำแหน่งทางการตลาดเป็นแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมระหว่างเกษตรกรผู้ปลูกและผู้ซื้อโดยตรง ซึ่งทางฟาร์มโตะจะคิดค่าบริหารจัดการ 10% โดยที่ผ่านมามีผลงานออกสู่สายตาแวดวงเกษตรไทย ได้แก่ การทำให้มันญี่ปุ่น ที่นิยมปลูกกันมากในไทย และในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้มันญี่ปุ่นนั้นล้นตลาดและมีราคาแพงทางฟาร์มโตะจึงได้นำมันญี่ปุ่นเหล่านั้น มาแปรรูปเป็น “ขนมมันหวานญี่ปุ่นกรอบ” และ มาสร้างแบรนด์ภายใต้แบรนด์
“ฟาร์ม-โตะ” (FARM-TO) โดยใช้แนวคิด “ไม่หล่อแต่อร่อย” พร้อมกับภาพกราฟฟิกบนถุงผลิตภัณฑ์ หรือ แพ็กเก็จจิ้ง (Packaging) ที่เป็นตัวการ์ตูนทันสมัย นอกจากนี้ยังมี “ส้มสายน้ำผึ้ง ห้วยโป่ง” ภายใต้แนวคิด “ส้มแห่งอ้อมกอดของขุนเขา” จาก จ.แม่ฮ่องสอน ผ่าน 1,864 โค้ง กว่าจะถึงมือผู้บริโภค รวมทั้ง “น้ำผึ้งป่า ชุมชนหินลาดใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย
นับเป็นการก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยคนไทยรุ่นใหม่ที่มีหลากหลายความสามารถมารวมตัวกัน และ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ได้ผ่านเพลย์ สโตร์
ที่ผ่านมาแอพพลิเคชั่นฟาร์มโตะ ได้รับรางวัลการันตีถึง 10 รางวัล อาทิ บ้านปู แชมป์เปี้ยน, รางวัลสุดยอดนักประดิษฐ์ (7 Innovation Awards by NIA), รางวัลเกษตรก้าวหน้า โครงการเกษตรก้าวหน้า ธนาคารกรุงเทพ, พอแล้วดี (The Creator) และ รางวัล Startup Thailand by GSB (ธนาคารออมสิน) เป็นต้น
เรียกว่า สินค้าเกษตรไทยในช่วงปลายปีนี้เห็นโอกาสในการต่อยอดด้านการตลาด ผ่านช่องทางการขายใหม่ๆ ที่จะทำให้สินค้าเกษตรไทยยังคงเป็น “ดาวรุ่ง” พุ่งแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี