3 พฤศจิกายน 2565 เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ข้างศาลเจ้าพ่อวังกรูด ริมแม่น้ำมูล ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก พร้อมด้วย นายวีรวิชญ์ พีรยศพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลสตึก พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนชาวสตึก และพี่น้องชาวเรือ ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อวังกรูด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาวเรือ
ขอให้การจัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีจังหวัดบุรีรัมย์เป็นไปด้วยความราบรื่น ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่อเป็นการรักษาประเพณีที่ดีงาม ขอให้ลูกเรือทีมเรือทุกทีมมีความปลอดภัยในการแข่งขันฯ ขอให้ปกปักรักษาคุ้มครองลูกหลานของเจ้าพ่อวังกรูด แคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้ามั่นคงทางอาชีพการงาน ขอความอุดมสมบูรณ์พืชผลทางการเกษตร และมีการรำถวายเจ้าพ่อวังกรูด
ทั้งนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อำเภอสตึก เทศบาลตำบลสตึก ส่วนราชการ พี่น้องประชาชน บริษัท ห้างร้านในอำเภอสตึก จัดงานแข่งขันเรือยาวประเพณีจังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2565 ในระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย. 2565 ณ ลำน้ำมูล สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา หน้าที่ว่าการอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์งานประเพณีของท้องถิ่น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด
นายวีรวิชญ์ พีรยศพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลสตึก กล่าวว่า ประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสื่อที่อธิบายถึงความเป็นมา ภูมิหลัง ประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกของชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ในอดีต ที่แสดงถึงการใช้ประโยชน์จากเรือและแม่น้ำ เป็นบ่อเกิดประเพณีวัฒนธรรม แม้ปัจจุบันการสัญจรทางเรือจะมีน้อย แม่น้ำก็ยังเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอีกมากมายหลายด้าน เช่น การเกษตร การประมง และการรักษาความสมดุลของธรรมชาติ ขอให้ช่วยกันอนุรักษ์เพื่อประโยชน์สำหรับพี่น้องตลอดไป
อีกทั้ง ยังจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นสื่อในการที่จะเชื้อเชิญให้แขกต่างถิ่นได้เข้ามาเยี่ยมเยียนอีกทางหนึ่ง ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์
ในปีนี้มีเรือยาวจากทั่วภาคอีสาน เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 29 ลำ ร่วมประชันฝีพาย ประกาศศักดาชิงจ้าวความเร็วแห่งลำน้ำมูล แบ่งการแข่งขันเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทเรือไม้ ก ขนาดใหญ่ ไม่เกิน 55 ฝีพาย จำนวน 8 ลำ ประเภทเรือไม้ ข ขนาดกลางไม่เกิน 40 ฝีพาย จำนวน 10 ลำ ประเภทเรือท้องถิ่น เรือโลหะไม่เกิน 36 ฝีพาย จำนวน 11 ลำ มีที่เดียวของประเทศไทย ซึ่งการแข่งทั้งสามประเภทเรือชิงถ้วยพร้อมเงินรางวัลกว่า 5 แสนบาท
นายวีรวิชญ์ กล่าวต่อว่า ภายในงานจะมีขบวนแห่เทิดพระเกียรติ ขบวนแห่ชุมชน 3 เผ่า ขบวนนางรำ ขบวนช้างแห่ ซึ่งบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวจังหวัดบุรีรัมย์เป็นการสื่อถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของท้องถิ่น ส่วนการแข่งขันช้างว่ายน้ำข้ามลำน้ำมูล ในปีนี้งด เนื่องจากระดับน้ำมูลสูง
นอกจากจะได้ชมการประชันฝีพายของบรรดาเรือยาวแต่ละลำที่สนุกสนานตื่นเต้นแล้ว ยังจะได้ร่วมชมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่จัดขึ้น ทั้งการแข่งขันเซปักตะกร้อ 2 คน พบกับนักตะกร้อชั้นนำจากทั่วประเทศ การแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์จากทุกท้องถิ่น ของกินของดีเมืองสตึก ให้ประชาชนที่มาเที่ยวงานได้เลือกซื้อไปเป็นของฝาก และของที่ระลึก ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มชาวบ้าน และผู้ผลิตสินค้าโอท็อปได้เป็นอย่างดี คาดว่าจะมีเงินสะพัดในจังหวัดช่วงการจัดงานไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
จึงเชิญชวนให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว มาร่วมชมงานและสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีแข่งขันเรือยาว ให้อยู่คู่เมืองบุรีรัมย์ อีกทั้งการจัดงานประเพณีดังกล่าว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดในอีกทางหนึ่งด้วย นายวีรวิชญ์ กล่าว.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี